อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำเสร็จรามสูรก็ออกมา สโรชาก็เลยเดินเข้าไปใช้ห้องน้ำต่อจากเขา
มือหนาเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเพราะหน้าจอยังสว่างอยู่ พอเห็นข้อความนั้นเขาก็รีบหันกลับไปมองคนที่กำลังจะปิดประตูห้องน้ำ และเธอก็มองมาเช่นกัน
เช้าวันต่อมา..
เมื่อคืนนี้พออาบน้ำออกมาก็ไม่เจอเขาอยู่ในห้องแล้ว แต่แม่ก็บอกว่าเขามีงานด่วนวันหลังจะมาค้างด้วยใหม่
"แม่ว่าหนูกลับบ้านไปเถอะลูก จะได้ดูแลสามีแบบใกล้ชิดหน่อย"
"โรสอยากอยู่กับแม่ค่ะ"
"แต่แม่ว่า.." นางไม่อยากให้ชีวิตครอบครัวของลูกสาวมีปัญหา เพราะมัวแต่มาทุ่มเทเวลาให้กับแม่ที่นอนป่วยอยู่
"คุณรามสูรเข้าใจเรื่องนี้ดีค่ะ แม่ก็เห็นแล้วว่าเขาเป็นผู้ใหญ่" ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าแม่กำลังคิดอะไร
คนเป็นแม่ก็เลยไม่พูดอะไรอีก ที่นางอยากให้ลูกสาวกลับไปอยู่บ้านกับสามี เพราะเห็นสีหน้าลูกสาวไม่สู้ดีตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว กลัวว่าทั้งสองจะแอบมีปัญหากัน
ที่จริงข้อความในไลน์เธอเห็นแค่ประโยคข้างหน้า แต่แค่นั้นก็รู้แล้วว่าผู้หญิงของเขากำลังจะกลับมา นั่นหมายถึงว่าคงใกล้วันที่เธอจะต้องปล่อยเขาเป็นอิสระ
สามวันต่อมา..
จนถึงวันนี้เขาก็ยังไม่ได้กลับมาที่โรงพยาบาล และเธอก็ไม่ได้ติดต่อไป แม้แต่ไอจีของเขาเธอก็ไม่กล้าเข้าไปส่อง
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป..
อาการของแม่เริ่มหนักขึ้น จนหมอบอกว่าถ้าภายในสามวันนี้ยังคงทรุดอยู่ ให้ญาติทำใจไว้รอเลย
ครื่นนน ครื่นนนน
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ในขณะที่เขากำลังเครียดเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ชายหนุ่มที่นั่งอยู่โต๊ะทำงานหันมองไปดูว่าเป็นเบอร์ของใคร
ครื่นนน ครื่นนนน
ครั้งแรกดังจนหยุดไปเอง แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ ยังโทรเข้ามาครั้งที่สอง
{"...."} คนที่รับสายไม่ได้พูดอะไร แต่เขาก็ยอมกดรับ
{"คุณรามสูรคะ"}
{"ว่ามา"}
"แม่ยังอยากให้โรสทำอะไรอีกไหมคะ" เธอไม่มีแม้แต่เสียงสะอื้น เพราะไม่อยากให้แม่จากไปแบบมีห่วง
"แม่ดีใจที่เห็นลูกเข้มแข็ง ขอให้ลูกเข้มแข็งแบบนี้ตลอดไป คิดถึงแม่ได้ แต่อย่าคิดถึงมากจนทำให้ชีวิตของเราไม่มีความสุข" เพราะถ้าการคิดถึงคนที่จากไปมันมีแต่ความเศร้าโศกเสียใจ ไม่มีใครหรอกที่คิดถึงคนที่เรารักจากไปแล้วจะดีใจ
"สักวันหนึ่งเราคงได้พบเจอกันอีกครั้งค่ะแม่ แม่พักผ่อนเถอะนะ อย่าฝืนอีกเลย" แค่ความทรมานความเจ็บปวดในร่างกายเธอก็รู้แล้วว่าแม่กัดฟันไว้ ไม่ให้เธอเห็นว่าแม่ทรมานมากแค่ไหน
ริมฝีปากเหี่ยวย่นที่เหลือแค่หนังเหี่ยวๆ เพราะหลายวันแล้วที่นางกินอะไรไม่ได้ แต่ที่อยู่ได้เพราะมีน้ำเกลือ อ้าขึ้นสูดลมหายใจเข้าปอด หรือที่อีกหลายคนเรียกว่ากำลังพะงาบๆ
สโรชาไม่กดสัญญาณเรียกหมอเหมือนทุกครั้งที่แม่เหนื่อย เพราะครั้งนี้เธอขออยู่กับแม่แค่เงียบๆ สองคน โลกนี้ดูว่างเปล่าไปหมด เพราะถ้าไม่มีแม่แล้วเธอก็เหมือนไม่มีใครอีก
มือที่มีแค่หนังหุ้มกระดูก ใช้แรงบีบมือลูกสาวเฮือกสุดท้าย ก่อนที่จะค่อยๆ ผ่อนแรงลง
"แม่คะ โรสรักแม่ โรสรักแม่ แม่ได้ยินไหมคะโรสรักแม่ ไม่นานหรอกค่ะ โรสจะตามแม่ไป แม่เหนื่อยมามากแล้ว พักเถอะนะคะ" เธอรู้ดีว่าสิ่งที่พูดแม่คงไม่รับรู้อีกแล้ว เธอถึงได้กล้าบอกว่าเดี๋ยวจะตามแม่ไป ที่ต้องเดี๋ยวเพราะเธอต้องได้จัดการงานศพของแม่ก่อน
"ลูกยังเด็กมาก คุณอย่าเพิ่งพรากลูกไปจากฉันได้ไหม" ประโยคนี้เธอยังคงจำได้ดี ตอนที่พ่อมารับเธอไปไว้กับแม่ใหญ่
สโรชาร้องไห้แทบจะขาดใจ เพราะตอนนั้นเธอก็โตมากพอที่จะรู้ทุกอย่างแล้ว ไปอยู่บ้านหลังใหญ่ก็ไม่ใช่ว่าชีวิตจะสุขสบาย เธอต้องอยู่ในกรอบทุกอย่าง เวลาไม่พอใจอะไรก็ถูกทำโทษ โดยการกักบริเวณ ที่แม่ใหญ่ไม่ตี เพราะไม่อยากให้ผิวหนังของเธอมีรอย ไม่ใช่ว่ากลัวสามีจะเห็นนะ แต่กลัวเธอจะขายไม่ออกมากกว่า
"แม่นอนนะคะ โรสจะอยู่เป็นเพื่อนแม่ตรงนี้" ถึงแม้ว่าแม่ไม่มีลมหายใจแล้วเธอก็ยังคงไม่เรียกใครเข้ามา เพราะถ้ามีคนเข้ามาก็คงจะนำแม่เธอไปเก็บไว้ในสถานที่ที่เก็บศพ เป็นไปได้คืนนี้เธออยากจะกอดแม่อยู่แบบนี้ เพราะถ้านำแม่ไปไว้ในที่แบบนั้นตอนกลางคืนแม่คงจะหนาวมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยาที่(ไม่)รัก