ภรรยาที่(ไม่)รัก นิยาย บท 62

สรุปบท บทที่ 62: ภรรยาที่(ไม่)รัก

บทที่ 62 – ตอนที่ต้องอ่านของ ภรรยาที่(ไม่)รัก

ตอนนี้ของ ภรรยาที่(ไม่)รัก โดย ชะนีติดมันส์ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 62 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

"คุณจะให้ฉันไปด้วยจริงหรือคะ"

"ไปด้วยกัน เดี๋ยวผมจะโทรไปบอกคุณแม่ให้ดูหลานไปก่อน"

"ไม่ต้องรบกวนท่านหรอกค่ะ รามิลฝากคุณยายไว้ก็ได้" ในเมื่อเขาจะให้ไปด้วยทำไมเธอจะไม่ไปล่ะ

พอคุยกันรู้เรื่องแล้ว สโรชาก็เลยออกมาทำงาน

"เป็นยังไงบ้าง"

"อะไรเป็นยังไงคะ"

"ก็.." เอวาอยากจะถามเรื่องเลขามากกว่า แต่มันก็คงจะดูไม่งามเพราะตัวเองไม่ใช่เมีย ก็เลยไม่พูดเรื่องนั้น "..ว่าแต่ผู้ชายคนนั้นโรสรู้จักไหม"

"คนไหนคะ"

"คนที่ช่วยโรสไว้ไง"

"ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวหรอกค่ะ เพิ่งรู้จักกันตอนลงเรือ"

"จริงเหรอ ติดต่อให้พี่หน่อยสิ" เอวาคิดว่าแค่นี้ก็ถือว่ารู้จักแล้ว

"พี่เอวาสนใจเหรอคะ" ทั้งสองอายุต่างกันแค่ปีกว่าๆ แต่เอวาก็เป็นรุ่นพี่ที่มาทำงานก่อน สโรชาก็เลยให้ความนับถือ

"หล่อขนาดนั้นใครจะไม่สนใจล่ะ ว่าแต่มีเมียหรือยัง ถ้ามีเมียหล่อแค่ไหนพี่ก็ไม่เอานะ..ไม่ใช่แม่เลขานั่น" เอาไปเอามาก็วนกลับมาที่เดิม เอวาก็เลยหยุดพูดดีกว่า เดี๋ยวอดกัดเลขาไม่ได้อีก

เวลาเลิกงาน

"ตอนเย็นผมจะไปรับที่บ้านนะ" ชายหนุ่มเห็นว่ามันถึงเวลาเลิกงานแล้ว เขาก็เลยออกมาบอกกับเธอก่อน

สโรชาไม่ได้ตอบแต่มองหน้าของคนเป็นสามี เมื่อคืนนี้บอกจะไปหาก็ทีหนึ่งแล้ว แล้วทีนี้ยังบอกจะไปรับก่อนไปงานศพอีก

"ผมต้องไปจัดการธุระก่อน ถึงจะไปที่วัด"

หญิงสาวไม่ได้พูดอะไร เธอลุกขึ้นหยิบเอากระเป๋าแล้วก้าวออกมา

"ถ้างั้นก็ไปด้วยกัน" รามสูรเดินตามมาแล้วคว้าแขนเธอไว้

"ยังไงฉันก็ต้องกลับไปเปลี่ยนชุดอยู่แล้วค่ะ" เพราะมันเป็นงานศพเธอใส่ชุดแบบนี้ไปคงดูไม่ดี

"เอาแบบนั้นก็ได้ เดี๋ยวผมไปรับ"

"โทรไปแจ้งทางนั้นแล้วค่ะ" เลขาที่ทำงานตามคำสั่งเดินมาบอก แต่ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ท่านประทานคุยกับภรรยาพอดี

"ผมเสร็จธุระจากตรงนี้แล้วจะไปรับ"

"ค่ะ" มือเรียวเอื้อมไปจับแขนเสื้อสามีไว้ก่อนที่เขาจะเดินไป

"หือ?" รามสูรหันกลับมาแบบสงสัยว่าเธอจะพูดอะไรอีก แต่พอรู้ว่าเธอต้องการอะไร จากใบหน้าที่ตึงเครียดอยู่ก็มีรอยยิ้มขึ้นมา คนร่างสูงโน้มลงไปจูบแก้มของภรรยาเบาๆ

"ตายยย.. เบาหวานต้องขึ้นตาฉันตายแน่เลยพี่เกวลิน"

"พี่ไม่ยักรู้ว่าเราเป็นเบาหวาน"

"พี่นี่ก็แก่แล้วแก่เลย มันเป็นคำพูดเปรียบเปรย"

สโรชากลับมาถึงบ้านก็เตรียมตัวรอเขามารับ และเธอก็แจ้งกับแม่ไว้ว่าอาจจะกลับดึกเพราะต้องไปร่วมงานศพ

20 : 10 น.

"ไปบ้านท่านพลโทก่อน" พอเสร็จธุระจากตรงนี้แล้ว รามสูรก็สั่งคนขับ ซึ่งมีเลขานั่งอยู่ด้านหน้าข้างคนขับ

"เราไม่ไปวัดเหรอคะ"

"ไปแต่ไปรับเมียผมก่อน"

"โอ้โห..วนตั้งไกลเลยนะคะบอส" เพราะถ้าไปรับสโรชาก่อน คงเสียเวลาอีกเกือบชั่วโมงกว่าจะกลับมาที่เดิม แต่ถ้าตรงไปงานศพเลย ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำ

"ตกลงจะไป ไหนก่อนดีครับบอส" คนขับรถมองกระจกกลับมาดูเจ้านายที่นั่งอยู่ด้านหลัง

"จะไปไหนต่อคะบอส" เลขาที่นั่งอยู่ด้านหน้าหันมาถามผู้เป็นนาย

รามสูรก็เลยให้คนรถพาไปส่งที่บ้านของเธอ

"พวกคุณกลับเถอะ พรุ่งนี้เช้าค่อยมารับผม"

"บอสไม่กลับด้วยหรือคะ.. เออขอโทษค่ะ พิมพ์ถามเพราะ.."

"คืนนี้ผมจะค้างที่นี่ พรุ่งนี้เช้าค่อยมารับ" ว่าแล้วชายหนุ่มก็ลงจากรถ ตามภรรยาที่ลงไปก่อนแล้ว

เขาเดินตามเธอมาเพียงไม่กี่ก้าวก็ทัน

"งอนอะไรให้ผมอีก" เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ผู้ชายมักไม่เก็บมาใส่ใจ แต่กับคนเป็นเมียแล้ว มันถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก ที่ดูเหมือนเลขาจะทำเกินหน้าที่

"ดูคุณจะสนิทสนมกับคุณเลขามากเลยนะคะ"

"นั่นเลขาผมนะ"

"ใช่ค่ะ..คนเก่าก็เป็นเลขาไม่ใช่หรือคะ" นี่เราเป็นบ้าอะไร อุตส่าห์ห้ามตัวเองไม่ให้พูดเรื่องนี้แล้ว แต่ก็หยุดคำพูดและความคิดตัวเองไม่ได้

ถ้ายังขืนยืนอยู่แบบนี้คงต้องได้พูดกันยาวแน่ สโรชาก็เลยจะไปรับลูกชายที่ห้องนอนของแม่ใหญ่

"อุ๊ย.. ฉันจะไปรับลูกค่ะ"

"ดึกขนาดนี้ลูกหลับแล้ว"

"แกตัวแค่นั้นหลับก็อุ้มมาได้"

"อยากนอนกอดเมีย"

จำได้ด้วยเหรอว่าเราเป็นเมีย ..ความน้อยใจมีในผู้หญิงทุกคนอยู่แล้ว ยิ่งมีผู้หญิงคนอื่นมาวนเวียนใกล้สามี ถึงแม้จะเป็นลูกน้องก็เถอะ เมียที่ไหนจะไม่คิดล่ะ

"วันนี้ให้รามิลนอนกับคุณยาย เราไปหาเพื่อนเล่นให้ลูกกันดีกว่า" ว่าแล้วรามสูรก็โอบร่างของภรรยาพาเข้าห้องไป..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยาที่(ไม่)รัก