"คุณนี่เหมือนมานั่งอยู่ในใจฉันเลยนะ"
"ดีเหมือนกันเราจะได้คุยกันรู้เรื่อง" เขาไม่รู้หรอกว่าที่เธอพูดมาเป็นการประชดหรือเรื่องจริง และไม่จำเป็นต้องไปรู้ด้วย เพราะเขาไม่ได้สนใจผู้หญิงตรงหน้าอยู่แล้ว
"จะคุยอะไรก็คุยมาแต่ปล่อยฉันก่อนได้ไหม"
พอแขนของเธอเป็นอิสระหญิงสาวก็เอาอีกข้างมาลูบคลำ เพื่อบรรเทาความเจ็บที่ถูกเขารั้งไว้เมื่อสักครู่
"เธอคิดยังไงกับเรื่องนี้"
"เรื่องอะไร"
"เรื่องที่ผู้ใหญ่กำลังคุยกัน"
"นั่นมันก็เรื่องของผู้ใหญ่"
"เธอไม่ต้องมาตีหน้าซื่อหรอก ฉันรู้ว่าผู้หญิงแบบเธอคิดอะไรอยู่"
หญิงสาวไม่เถียงแต่เธอแอบสมเพช ชีวิตเขาคงจะเจอแต่ผู้หญิงประเภทนั้นสินะ ก็เลยเหมารวมไปหมดว่าผู้หญิงจะเป็นเหมือนกัน
"เธอเตรียมตัวไว้ด้วยแล้วกัน อาจจะได้ทำตามผู้ใหญ่"
"ค่ะ"
"ค่ะ?" เขาคิดว่าเธอควรที่จะพูดอะไรมากกว่านอกจากคำนี้
"ฉันไปได้หรือยังคะ"
"เรายังไม่ได้คุยอะไรกันเลย"
"คุณอยากจะคุยอะไรอีก"
บนรถแท็กซี่..
หึ..ดีเหมือนกัน ถ้าเราได้ย้ายออกไปอยู่ที่บ้านของเขา คงจะเป็นอิสระ เพราะยังไงเขาก็คงไม่มาสนใจใยดีอะไรในตัวเรา ..สโรชาคิดถึงคำที่เขาพูดก่อนออกมาส่งเธอขึ้นแท็กซี่
เขาบอกทุกอย่างว่าตัวเขามีผู้หญิงที่รักอยู่แล้ว แต่ติดปัญหาตรงฐานะ หญิงคนรักก็เลยยอมถอยเมื่อถูกกดดันหนักเข้า แต่เขาไม่คิดจะยอมแพ้
แต่ไม่ใช่แค่เขาที่บอกเรื่องราวในชีวิต เธอก็ต้องการความช่วยเหลือจากเขาเหมือนกัน สโรชาเล่าให้อีกฝ่ายฟังทุกอย่างเช่นกัน ว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของภรรยาหลวง ตอนนี้แม่ของเธอพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล และเธอถูกแม่ใหญ่กดดันไม่ให้ไปพบเจอแม่ที่แท้จริง เพราะกลัวสังคมจะรู้ว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆ
ทั้งสองก็เลยตกลงกัน ว่าจะช่วยเก็บความลับนี้ไว้ และถ้าอีกฝ่ายต้องการความช่วยเหลือก็จะยื่นมือเข้ามาช่วย
ก่อนออกมาเธอได้ขอร้องเขาอีกอย่าง ถ้าแต่งงานกันแล้วให้เขารับตัวเธอไปอยู่ด้วย เพราะอยากไปดูแลแม่แบบใกล้ชิดโดยที่ไม่ต้องแอบไปหาอีก
และแน่นอนว่ารามสูรยอมตกลงอย่างง่ายดาย
พอส่งฝ่ายหญิงขึ้นแท็กซี่ไปแล้ว ชายหนุ่มก็ขับรถไปคนละทาง ขณะที่ขับรถเขายังพยายามโทรหาผู้หญิงอีกคน ..เพื่อจะบอกว่าให้เธอรอก่อน ถ้าทุกอย่างที่เขากำลังทำอยู่ประสบผลสำเร็จ ทั้งสองจะได้ครองรักกัน
แต่โทรยังไงปลายสายก็ไม่ยอมรับ พอโทรหลายครั้งเข้าทางนั้นปิดเครื่องไปเลย
[โรงพยาบาลเอกชน]
สโรชาให้แท็กซี่มาจอดที่หน้าโรงพยาบาล เรื่องยาคุมเธอลืมไปแล้ว เพราะถึงแม้จะเป็นยาคุมฉุกเฉินที่ครอบคลุมได้หลายชั่วโมง แต่ก็ไม่ทันแล้ว ถ้ามันจะซวยมากจนตั้งท้อง ก็ปล่อยมันไปเถอะ หญิงสาวรีบเดินตรงเข้าไปในโรงพยาบาล โชคดีก่อนที่จะหายไปเธอได้ฝากแม่ไว้กับพยาบาลที่นี่
แน่นอนว่าค่ารักษาต้องมากอยู่แล้ว แต่ถ้าเธอยอมทำตัวดี แม่ใหญ่ก็จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แบบนี้ตลอด หญิงสาวก็เลยยอมทำตาม
"แม่เป็นยังไงบ้างคะ"
[ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง]
ที่ท่านพลเอกเรวทัตเลือกนัดคุยกันที่นี่ เพราะเป็นส่วนตัวมากกว่าคุยกันที่โรงแรม
"เชิญห้องนี้เลยค่ะ" พนักงานออกมาต้อนรับและก็พาทั้งสองเข้าไปในห้อง ซึ่งตอนนี้ทุกคนได้มารอแล้ว
พอประตูเปิดออกหญิงสาวก็แปลกใจ เมื่อเห็นเขานั่งทำหน้าหล่ออยู่ในห้องนี้ด้วย ..ไหนบอกจะไปหาแฟนไง มางานนี้ได้ด้วยเหรอ
"หนูไปนั่งใกล้ๆ พี่เขาสิลูก" คนเป็นแม่สั่งแบบมีจริต
สโรชาก็เลยทำตามเดินไปนั่งข้างๆ
"ดูเหมาะสมกันมากเลยนะคะ" ผกาแก้วหันไปพูดกับแม่ฝ่ายชายที่นั่งอยู่ใกล้กัน แต่ดูแม่ฝ่ายชายจะไม่ค่อยอยากเจรจาด้วย
"เราเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า" เสียงนี้เป็นเสียงผู้ใหญ่ฝ่ายชาย นั่นคือพลเอกเรวทัต "พวกคุณคงได้ยินเสียงสัมภาษณ์ของผมเมื่อเช้านี้แล้ว"
"ก็พอได้ยินแล้วครับ" คนเป็นพ่อฝ่ายหญิงตอบบ้าง
"ผมอยากให้ทั้งสองจัดงานแต่งให้เร็วที่สุดเพื่อกลบข่าว..พวกคุณเห็นว่ายังไง"
"เรื่องนั้นแล้วแต่ท่านเลยครับ" ที่ไม่มีเสียงตอบของผกาแก้วเลย นั่นเพราะจริตของนางอีกนั่นแหละ ถ้านางพูดอาจจะดูไม่งาม ก็เลยปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหัวหน้าครอบครัว
"คุณพี่จะไม่ถามลูกชายเราหน่อยเหรอคะ" ภรรยาของท่านที่นั่งฟังอยู่แบบเงียบๆ ได้พูดขึ้นบ้าง ถ้าลูกชายตอบปฏิเสธแม้แต่นิดเดียว นางพร้อมที่จะคว่ำถ้วย ไม่สิ..ต้องเรียกว่าคว่ำหม้อไปเลย
"แล้วเราคิดเห็นยังไงล่ะ" พลเอกเรวทัตก็เลยหันไปถามลูกชายที่เอาแต่นั่งเงียบอยู่บ้าง
สายตาทุกคนที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ต่างก็มองไปจุดเดียวกัน เพราะรอฟังว่าฝ่ายชายจะตอบว่ายังไง..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยาที่(ไม่)รัก