บทที่ 97 – ตอนที่ต้องอ่านของ ภรรยาที่(ไม่)รัก
ตอนนี้ของ ภรรยาที่(ไม่)รัก โดย ชะนีติดมันส์ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 97 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ทศกัณฐ์จำเป็นต้องใจแข็งเข้าไว้ เพราะงานที่เขาได้รับมอบหมายมันระดับประเทศ แถมมีชีวิตของเพื่อนร่วมชาติและพันธมิตรเป็นเดิมพัน เขาจะเห็นแก่เรื่องส่วนตัวไม่ได้ ชายหนุ่มก้าวเท้าลงเรือพร้อมกับส่งโทรศัพท์ให้ลูกน้องเก็บไว้
รามสูรโทรกลับมาอีกหลายสายก็ไม่มีสัญญาณ เพราะโทรศัพท์นั้นถูกปิดเครื่องไปแล้ว ..เขาก็เลยต้องกดไปหาใครบางคนที่สามารถจะหยุดยั้งเรื่องนี้ได้ ทั้งๆ ที่เขาไม่ติดต่อคนคนนี้มานานแล้ว
{"พ่อครับ"} พอปลายสายกดรับชายหนุ่มก็รีบพูด {"พ่อรู้เรื่องทศกัณฐ์หรือยังครับ"}
{"ทศกัณฐ์?"} พลเอกเรวทัตคิดว่าตัวเองฟังผิด
{"พ่ออย่าเพิ่งสงสัยอะไรเลย ฟังที่ผมถามแล้วก็ตอบมา..พ่อรู้เรื่องหน่วยรบพิเศษส่งทศกัณฐ์ไปเป็นแนวหน้าหรือยังครับ"}
{"พ่อรู้แล้ว"} เพราะก่อนที่จะส่งลูกชายของท่านพลเอกไป ต้องได้ปรึกษาทางพ่อก่อนอยู่แล้ว
{"พ่อก็ยอมส่งลูกชายของพ่อไปเสี่ยงงั้นหรือครับ?"}
{"ทางนั้นต้องการคน ทศกัณฐ์ฝีมือดีลูกไม่ต้องเป็นห่วง"} เรวทัตคิดว่าลูกชายคนโตคงยังไม่รู้ฝีมือของลูกชายคนรองดี
{"ถึงแม้จะฝีมือดีแค่ไหน แต่พ่ออย่าดูถูกฝีมือของฝั่งตรงข้ามสิครับ"}
{"พ่ออนุมัติเรื่องนี้ไปแล้ว"}
{"แต่พ่อก็ยกเลิกได้นี่! ถ้างั้นผมขอใช้สิทธิ์ในความเป็นพี่ชาย ผมไม่ยอมให้น้องผมไป"}
เอวาที่ได้ยินรามสูรพูดถึงกับทำอะไรไม่ถูก ..นี่เรากำลังรับรู้เรื่องอะไรอยู่ เขาทั้งสองคนเป็นพี่น้องกันงั้นเหรอ? ถ้างั้นพ่อของลูกเธอเป็นลูกชายของท่านพลเอกหรือนี่?? เวลานี้ไม่รู้จะตกใจเรื่องไหนก่อนดี
{"ถ้าพ่อไม่ยอมช่วยผมจะลงเรือตามน้องไป"} ดูสิลูกชายสองคนออกรบพร้อมกัน ท่านยังจะอยู่เฉยได้อีกไหม
รามสูรไม่พูดเปล่า เขาลุกเดินออกมาจากห้อง
"ท่านประธานคะ" เอวารีบเดินตามมาจนสโรชาที่นั่งอยู่กับเกวลินเดินตามมาเช่นกัน
"มีอะไรเหรอพี่เอวา"
"โรสรีบหยุดท่านประธานไว้เร็ว"
แต่ก็หยุดเขาไม่ทันแล้ว พอรามสูรเข้าไปในลิฟต์ก็กดลงชั้นล่างโดยไม่รอใคร
"เขาจะไปไหน?" สิ่งที่สโรชากลัวคือกลัวเรื่องเรือสินค้า
"เขาจะไปลงเรือ"
"เรือสินค้าเหรอ?!"
"ไม่เกี่ยวกับสินค้าหรอก..เรารีบตามไปเถอะ" ทั้งสองรอลิฟต์อยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่ขึ้นมาสักที ก็เลยเลือกลงบันไดหนีไฟ จนเกวลินรีบเดินตามลงมา กลัวว่าทั้งสองจะเป็นอันตรายยิ่งกำลังตั้งครรภ์ทั้งคู่อยู่
"เขาไปไหนแล้ว" กว่าจะลงมาถึงชั้นล่าง ก็ไม่เห็นรถของสามี
"เราจะตามไปยังไงดี" ขณะที่พูดเอวามองไปเห็นคนของทศกัณฐ์ก็เลยรีบเข้ามา "ไปส่งพวกฉันที่ท่าเรือเดี๋ยวนี้"
"คงไม่ได้หรอกครับ"
"ถ้านายไม่ไปส่ง ฉันขึ้นแท็กซี่ไปเองก็ได้"
"ไม่ได้นะครับ" ชาติรีบเดินตามเอวาไปพร้อมกับลูกน้องอีก 2-3 คน
"ผมพาไปก็ได้" ชาติคิดว่าถึงแม้ตามไปตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว พาไปให้เห็นหน่อยก็แล้วกัน
"ลูกกำลังจะทำอะไร" พุดตาลลงจากรถได้ก็รีบตรงเข้ามาหาลูกชาย
พอนางได้รับโทรศัพท์จากสามี ว่าลูกชายจะลงเรือไปประเทศที่กำลังมีสงครามนางก็ไม่อยู่เฉย
เรวทัตรู้ดีว่าใครจะสามารถหยุดลูกชายได้ก็เลยต้องได้แจ้งข่าวนี้มาที่นาง
"เขาส่งแม่มาหยุดผมใช่ไหมครับ"
"เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ลูกจะไปที่นั่นทำไม"
"ผมจะไปช่วยน้อง"
"น้อง?"
"ผมขอโทษครับแม่" เขารู้ว่ามันต้องทำร้ายจิตใจแม่อย่างหนักแน่ "แต่ผมต้องไปหยุดทศกัณฐ์ไว้ก่อน" เพราะถ้าออกเรือเร็วตอนนี้อาจจะตามทันก็ได้
ที่รามสูรกลัวมาก เพราะไม่ใช่แค่เรือรบพิเศษชุดของทศกัณฐ์หรอกที่ถูกส่งไป ชุดก่อนหน้านั้นของประเทศอื่นที่เป็นพันธมิตรก็ถูกส่งไปเหมือนกัน แต่เรือลำนั้นถูกศัตรูทำลายในทะเลจนไม่เหลือซาก
"แม่ไม่ให้ไป" และข่าวนี้ก็เป็นข่าวดังระดับประเทศ ถึงแม้นักข่าวจะไม่ค่อยนำมาเล่าข่าวเพราะกลัวประชาชนเสียขวัญ แต่ก็มีออกมาให้เห็นอยู่บ้าง
"ถ้าผมไปตอนนี้อาจจะตามน้องกลับมาได้ทันครับแม่ ผมขอไปก่อนได้ไหม"
"พ่อของเขาแท้ๆ ยังไม่หยุดเขา ทำไมต้องเป็นลูกด้วย" นางอาจจะเห็นแก่ตัวอยู่บ้าง แต่นั่นเพราะนางมีแค่รามสูร
"แม่ครับ แม่รู้ไหมที่ผมกลับมาได้ก็เพราะทศกัณฐ์ เหตุเรือล่มในคราวก่อน ผมกับลูกเรือหลายคนเจอคลื่นยักษ์จนเรือแตก" ตอนที่เขาโทรเข้ามาหากัปตันเรือ ตอนนั้นมือของเขายังเกาะเรือที่กำลังจมอยู่เลย แต่ที่รามสูรไม่ได้พูดอะไรออกมามาก เพราะภรรยายังอยู่ในสาย กลัวว่าเธอจะตกใจ
รามสูรก็เลยเล่าต่อว่าขณะนั้นได้มีเรือของทหาร ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ได้แจ้งขอความช่วยเหลือไปเลย เข้ามาช่วยได้ทันเวลา ยิ่งเขารู้ว่าคนที่มาช่วยเป็นน้องชายคนที่เขาไม่อยากให้เกิดมาเลยด้วยซ้ำ แต่กลับเป็นคนที่มาช่วยชีวิตเขาไว้....
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยาที่(ไม่)รัก