ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม นิยาย บท 102

คืนนี้เรนจิขอนอนคนเดียวเพราะเขากลัวว่าจะโดนแผลของยี่หวา ทำให้ตอนนี้ยี่หวานอนไม่หลับเพราะเธอชินที่จะนอนกอดเรนจิไปแล้ว วายุที่เดินเข้ามาดูอาการของยี่หวาเห็นว่าเธอยังไม่นอนก็ทำหน้าดุใส่ “ทำไมไม่นอน”

“ฉันนอนไม่หลับค่ะ”

“ทำไมนอนไม่หลับ”

“ฉันชินกับการนอนกอดเรนจิค่ะ”

“เดี๋ยวฉันไปเรียกให้” วายุกลับหลังหันกำลังเดินออกจากห้องไป ก็ถูกยี่หวาเรียกเอาไว้ก่อน

“เดี๋ยวค่ะ! เรนจิคงนอนแล้วอย่าปลุกเขาเลยค่ะ จริงสิ คุณเดินมาหาฉันหน่อย” ยี่หวากวักมือเรียกวายุให้เดินมาที่เตียงของเธอ

วายุทำหน้างงๆ แต่ก็เดินไปหาหญิงสาวแต่โดยดี พอเดินมาถึงแขนของเขาก็ถูกดึงให้ไปนั่งอยู่บนเตียง ยี่หวาขยับตัวให้หัวของเธอมาอยู่บนตักเขาก่อนจะหลับตาลง “ตั้งแต่ฉันเจอคุณ ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังอ่อนแอ ทั้งที่เมื่อก่อนถ้าเจอแบบนั้นฉันจะสู้กลับจนไม่ห่วงชีวิตเลย เพราะคิดว่าถึงตายไปก็คงไม่มีใครสนใจ”

คำพูดนั้นเสมือนมีดที่แทงลึกเข้าไปในอก วายุจุกจนพูดไม่ออก...

“แต่ตอนนี้สิ่งที่ฉันกลัวมากที่สุดคือความตาย กลัวว่าฉันจะตายทั้งที่ยังไม่ได้บอกลาเรนจิกับคุณ วันนี้ฉันพยายามที่จะหนีโดยทำให้ตัวเองเจ็บตัวน้อยที่สุด ฉันไม่เคยรู้สึกกลัวแบบนี้ก่อนเลย”

วายุลูบหัวหญิงสาวเบาๆ “ฉันดีใจที่เธอรู้สึกแบบนั้น อย่างน้อยฉันก็อยากให้เธอรู้ไว้ว่าเธอมีค่าสำหรับฉันและเรนมาก อย่าคิดว่าตัวเองไม่มีใครสนใจอีก รักตัวเองให้มากๆ เหมือนที่ฉันรักเธอ ฉันจะดูแลเธอให้ดี ดีจนเธอจะไม่มีวันปล่อยฉันไป”

เขาเห็นเธอยิงคนตายต่อหน้าต่อตา แต่เขาก็ไม่เกลียด ไม่โกรธ ไม่กลัวเธอเลยสักนิด ผู้ชายคนนี้คงรักเธอมากจริงๆ สินะ…

“สมัยที่ฉันอยู่ที่ประเทศอาร์ฉันมักจะโดนคนลอบทำร้ายบ่อยๆ ทำให้ฉันต้องตอบกลับด้วยการฆ่าพวกเขาเกือบทุกครั้ง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันฆ่าคน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันใช้ปืน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันโดนยิง ฉันเคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาไม่รู้กี่ครั้ง ที่ฉันต้องกินเหล้าเยอะก็เพราะต้องคอยป้องกันไม่ให้ถูกมอมเพราะงานที่ฉันทำ เนื่องจากถ้าไม่ทำงานก็จะไม่มีเงิน แม้แต่งานผิดกฎหมายฉันก็รับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้...”

“ไม่เป็นไร เธอทำเพราะต้องคอยปกป้องตัวเอง แต่สัญญากับฉันได้ไหม ว่าต่อจากนี้เธอจะไม่ทำแบบนั้นอีก ถ้าหากเธอมีปัญหาขอให้เธอบอกฉัน อย่าเผชิญหน้ากับมันคนเดียว”

“ฉันสัญญาค่ะ ขอบคุณที่คุณเข้าใจฉันนะคะ เพราะคุณเป็นแบบนี้แน่เลย เมื่อก่อนฉันเลยหลงรักคุณ”

วายุฝืนยิ้มออกมา แสดงว่าตอนนี้เธอก็ยังไม่ได้รักเขาสินะ แต่อย่างน้อยๆ วันนี้เขาก็ได้เข้าใกล้เธออีกขั้นหนึ่งแล้ว...

“เธอนอนเถอะ ฉันจะอยู่ตรงนี้จนกว่าเธอจะหลับ”

ถึงเธอจะไม่เล่าให้เขาฟัง เขาก็พอจะรู้ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเธอ เพราะกิริยาท่าทางหลังจากที่เธอลั่นไกออกไปไม่ได้มีความกังวลใดๆ ในแววตามีแต่ความอาฆาต ซึ่งห่างไกลกับคนที่เขาเคยรู้จักมากๆ เสมือนว่าเป็นคนแปลกหน้าคนหนึ่ง

แต่ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไง สุดท้ายแล้วเธอก็ยังเป็นคนที่เขารักอยูดี....

เนื่องจากพรุ่งนี้ต้องเปิดบูติคใหม่แถมเมื่อวานยี่หวายังไม่มาทำงานอีก ทำให้วันนี้มีงานมากองอยู่ตรงหน้าเธอเยอะมาก

“ฉันไม่เห็นเจ้านายได้แผลนานแล้วตั้งแต่มาอยู่ที่ไทย” อมีเลียเอ่ยแซวยี่หวาที่กำลังนั่งทำงานอยู่ เพราะถ้าเป็นสมัยที่อยู่ต่างประเทศ ยี่หวามักจะกลายเป็นมัมมี่ทุกครั้ง ไม่รู้ไปทำอะไรมาถึงได้มีแผลทุกวัน

“งานน้อยใช่ไหม” ยี่หวาตอบกลับอย่างประชดประชัน ทำเอาอมีเลียรีบส่ายหน้าแล้วเดินออกจากห้องไปทันที

โชคดีที่เมื่อวานเธอใส่รองเท้าหนา แผลที่เท้าเธอเลยไม่เจ็บเท่าไหร่ แต่มือนี่สิค่อนข้างสาหัส ทำให้ตัวหนังสือที่เขียนออกมาไม่สวยเท่าที่ควร

นั่งทำงานได้สักพักเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ยี่หวาจึงกดรับโดยที่ยังไม่ได้มองรายชื่อ “อยู่ไหน”

เสียงจากปลายสายยี่หวาก็รู้ทันทีว่าใคร “อยู่บริษัทค่ะ”

“ไม่ได้ไปซนที่ไหนใช่ไหม”

“ไม่ซนค่ะ” ขืนเธอซนก็โดนเขาดุอีก ไม่คุ้มเลย

“ถ้าจะไปไหนก็โทรมาด้วย ฉันจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”

“ทราบแล้วค่ะพ่อ” ยี่หวาหัวเราะออกมาก่อนจะกดวางสายแล้วลงมือทำงานต่อจนถึงเวลาเย็น แม้แต่ข้าวก็ยังไม่ได้กิน ถ้าวายุรู้เขาต้องบ่นเธออีกแน่เลย

เขาดีกับเธอขนาดนี้เมื่อถึงเวลาเธอจะออกมาจากเขาได้ยังไง เธอจะต้องตัดใจยังไง นี่ขนาดความจำยังไม่กลับมายังรู้สึกดีกับเขาขนาดนี้ ถ้าความจำกลับมาแล้วไม่ร้องไห้ตายเลยเหรอ

ถ้าดาหลาเลวกว่านี้ก็คงดี เธอจะได้ไม่รู้สึกผิดที่ต้องแย่งวายุมาก...ถึงวันที่พวกเขาแต่งงานกันเมื่อไหร่เธอจะเป็นคนเดินออกมาเอง

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้นยี่หวาจึงเงยหน้าขึ้นจากงาน “เข้ามา”

อมีเลียเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกล่องลังขนาดใหญ่ในมือ “ชุดที่เจ้านายสั่งตัดได้แล้วค่ะ”

“เร็วเหมือนกันนะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม