ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม นิยาย บท 138

“เดี๋ยวนะ? พ่อเลือดกรุ๊ปโอ ลูกสามารถออกมากรุ๊ปเอบีได้ด้วยเหรอ?” ธาราธรที่ดูเหมือนจะยังไม่เข้าใจเหตุการณ์เอ่ยออกมาอย่างมึนงง

“ก็ไม่ได้น่ะสิครับ” พีรพัฒน์พูดออกมาอย่างตื่นตกใจ เพราะไม่คิดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาพ่อของเขาส่งเสียเลี้ยงดูลูกชู้มาตลอด

ขณะที่ทุกคนกำลังตกอยู่ในภวังค์ รชานนท์ก็เดินออกมาจากห้องฉุกเฉินพร้อมกับสีหน้าที่ดูผิดไปจากเดิม เพราะรอบนี้ใบหน้าของเขาแฝงไปด้วยรอยยิ้ม “คุณยี่หวาปลอดภัยแล้วครับ โชคดีที่ได้รับเลือดทัน ส่วนร่างกายมีแค่แผลภายนอกเท่านั้น”

พีรพัฒน์และธาราธรกระโดดเข้าไปกอดกันสองคนอย่างดีใจ ส่วนวายุเพียงแค่ยกยิ้มที่มุมปาก แต่คนที่เห็นก็รู้ได้ทันทีว่าเขากำลังมีความสุขมาก

เรนจิที่รับรู้ได้ว่าพ่อเขากำลังดีใจ สติที่เหม่อลอยไปก็ค่อยๆ กลับมา เงยหน้าขึ้นไปมองวายุอย่างขอคำตอบ ซึ่งพอเห็นเขาพยักหน้าเจ้าตัวน้อยก็กระโดดลงจากอ้อมกอดแล้ววิ่งไปที่หน้าห้องฉุกเฉิน ดวงตากลมโตจ้องมองไปที่ประตูอย่างมีความหวัง

สักพักเสียงโทรศัพท์พีรพัฒน์ก็ดังขึ้นสายที่โทรเข้ามาคือควิลเลอร์ “ครับพี่?”

“ตอนนี้อยู่กับยี่หวาไหม เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!” ควิลเลอร์เอ่ยออกมาอย่างร้อนรน

พีรพัฒน์ได้แต่คิดในใจว่ายังมีเรื่องใหญ่อะไรใหญ่กว่าที่น้องเขาจะเป็นจะตายก่อนหน้านี้อีก “เรื่องอะไร ผมอยู่กับเธอก็จริง แต่เธอเกิดอุบัติเหตุตอนนี้อยู่ในห้องฉุกเฉิน”

“หา!!! ยี่หวาเกิดอุบัติเหตุ? เธอเป็นยังไงบ้าง ปลอดภัยแล้วใช่ไหม”

“เพิ่งปลอดภัยเลยครับ ว่าแต่มีเรื่องอะไรกันแน่”

“ก็ดาหลาออกมาโพสต์ว่าชู้ที่เธอเคยพูดถึงก็คือยี่หวา แถมยังมีคลิปที่ประธานภูวิศออกมาจากห้องนอนยี่หวาตอนเช้าตรู่อีก”

“ฮะ? เดี๋ยวผมโทรกลับนะพี่ แต่ไม่ต้องห่วง ยี่หวากับประธานภูวิศแต่งงานกันแล้ว ถูกต้องตามกฎหมายด้วย เธอไม่มีทางเป็นชู้แน่นอน”

“หา!!! ว่ายังไงนะ...” ควิลเลอร์ยังพูดไม่ทันจบพีรพัฒน์ก็กดตัดสายทิ้งทันที

“คุณภูวิศ คือว่าดาหลาออกมาโพสต์ว่ายี่หวาคือชู้...” ยังไม่ทันที่พีรพัฒน์จะพูดจบก็ถูกพิชญ์สิณีสวนขึ้น

“ผู้หญิงคนนั้นกล้าดียังไงมาว่าแม่หนูยี่หวา ใครกันแน่ที่เป็นชู้ กล้ามาโกหกตระกูลพิทวัสชญวงศ์รับรองว่าจบไม่สวยแน่!”

ทุกคนหันไปมองพิชญ์สิณีอย่างงุนงง ผู้หญิงคนที่เป็นปรปักษ์กับยี่หวาตอนแรกหายไปไหนแล้ว กลับตัวเร็วเกินไปหรือเปล่า นี่มันยิ่งกว่ากิ้งก่าเปลี่ยนสีอีกนะ

พิชญ์สิณีที่รู้สึกได้ถึงสายตาทุกคู่ที่กำลังจ้องมองมาทางเธอก็รู้สึกเขินๆ “มองอะไรกัน ก็ในเมื่อผู้หญิงคนนั้นเป็นคนหลอกลวงฉันก็ไม่อยากได้มาเป็นลูกสะใภ้หรอกนะ อีกอย่างยี่หวาก็รู้จักกับวายุมาตั้งนานแล้วด้วย เพราะงั้นเธอก็คงไม่ได้มาเพื่อหลอกอะไร”

คนอื่นๆ ถึงกับพูดอะไรไม่ออก เพราะเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้พิชญ์สิณียังทะเลาะกับพีรพัฒน์เรื่องยี่หวาอยู่เลย แต่ในเมื่อเธอไม่ได้เกลียดยี่หวาแล้วก็ย่อมเป็นเรื่องที่ดี

คิดซะว่าเป็นแค่อารมณ์แปรปรวนของคนแก่แล้วกัน...

“จะว่าไปทำไมอยู่ๆ ยี่หวาก็ตัดสินใจตรวจดีเอ็นเอกับเรนจิ เหมือนกับรู้ว่าตัวเองเป็นแม่ของเขา” พีรพัฒน์ถามสิ่งที่ค้างคาใจออกมา

“ความจำเธอกลับมาแล้ว นี่อย่าบอกนะว่ายี่หวายังไม่ได้บอกนาย?” ธาราธรเป็นฝ่ายตอบแทนวายุ

“ฮะ? ความจำกลับมาแล้ว? ทำไมเธอไม่เห็นบอกผมเลย นี่ผมเป็นพี่ชายเธอจริงไหมเนี่ย! ถึงว่าทำไมยอมจดทะเบียนสมรสกับคุณภูวิศ ที่แท้ก็รู้ว่าตัวเองเป็นแม่ของเรนจินี่เอง”

ภายในห้องพักผู้ป่วย

เด็กน้อยนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียงผู้ป่วยที่ตอนนี้มีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังนอนหลับอยู่ ส่วนชายหนุ่มทั้งสามก็นั่งมองจากตรงโซฟา เพราะไม่อยากเข้าไปกวน

พิชญ์สิณีและธวัฒน์ที่เห็นว่ายี่หวาปลอดภัยแล้วก็ขอตัวกลับบ้านก่อน

“ว่าแต่เรื่องนั้นจะทำยังไงกันดี” พีรพัฒน์เอ่ยออกมาด้วยเสียงเบาเพราะกลัวจะรบกวนเรนจิ

“เรื่องนี้ปล่อยไปเถอะ อีกไม่นานก็คงมีข่าวออกมาบอกว่าดาหลาไม่เกี่ยวอะไรกับตระกูลพิทวัสชญวงศ์แล้ว” ธาราธรตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจเพราะเขาเชื่อว่าคุณป้าคงไม่ปล่อยให้ตระกูลตัวเองเสื่อมเสียชื่อเสียแน่

พีรพัฒน์ไม่ไว้ใจเพราะยังไงยี่หวาก็เป็นน้องสาวของเขาจึงกดเข้าไปเช็กข่าวในอินเทอร์เน็ต แต่สิ่งที่เห็นทำเอาเขาตกใจไม่น้อยเลยทีเดียว

[อะไรคือข่าวบอกว่าเป็นแค่เรื่องเข้าใจที่อีกฝ่ายคิดไปเอง อย่างนี้ก็เท่ากับว่ายี่หวาไม่ใช่ชู้ แต่เป็นดาหลาต่างหากที่เป็นชู้]

[แล้วไอคนที่ด่ายี่หวาก่อนหน้านี้ก็อย่าลืมออกมาขอโทษเธอด้วย]

[สงสารยี่หวาจริงๆ อยู่ๆ ก็โดนด่าว่าแพศยาทั้งที่เธอยังไม่ได้ทำอะไร ไม่แน่ว่าบางทีเธออาจจะคบหากับประธานภูวิศมานานแล้วก็ได้]

[โคตรดีใจที่ข่าวออกมาว่าเป็นข่าวปลอม เพราะไม่อยากให้ประธานภูวิศต้องไปยุ่งเกี่ยวกับแพศยาตัวจริงแบบนั้นเลย พอเห็นว่าตัวเองกำลังตกต่ำก็เลยตั้งใจจะลากคนอื่นลงไปด้วยสินะ แต่เสียใจด้วยที่ยี่หวาอยู่สูงกว่าเธอ]

[แล้วสรุปว่ายี่หวาคบหากับประธานภูวิศจริงๆ เหรอ]

[ออกมาจากห้องขนาดนั้นไม่คบก็บ้าแล้ว ฉันเชื่อว่าพวกเขาต้องรู้จักกันมานานแล้ว แถมยังคบกันมานานแล้วด้วย ไม่งั้นประธานภูวิศจะออกมาเปิดตัวทำไม ที่เขาเปิดตัวก็เป็นเพราะยี่หวา]

[แต่ฉันรู้สึกไม่เห็นด้วย เพราะคนอย่างประธานภูวิศควรที่จะได้เจอคนที่ดีกว่านี้ ชาติตระกูลดีกว่านี้ อย่าลืมสิยี่หวาก็แค่ดาราหน้าใหม่ที่ไม่มีอะไรเลย แถมยังมาจากบ้านเด็กกำพร้าอีก แม้เธอจะสวยมากก็เถอะ]

[ฉันเห็นด้วย ยี่หวาต้องเกาะประธานภูวิศกินแน่นอน ไม่อย่างนั้นเธอจะมีปัญญาใส่เสื้อแบรนด์เฮอเซนเหรอ พวกเธอก็รู้ว่าแบรนด์นี้แพงมาก]

[สมัยนี้เรื่องชาติตระกูลไม่สำคัญแล้ว มันขึ้นอยู่ว่าทั้งสองคนรักกันจริงไหมต่างหาก]

[ถ้าเป็นตระกูลอื่นก็ไม่เท่าไหร่ แต่นี่พิทวัสชญวงศ์เลยนะ ถ้าได้คนธรรมดาอย่างยี่หวาไปเป็นสะใภ้ ตระกูลต้องดูต่ำลงแน่]

“เรื่องชักไปกันใหญ่แล้ว แต่ก็ไม่แปลกใจเลย เพราะชาวเน็ตไม่รู้ว่ายี่หวาเป็นเจ้าของแบรนด์เฮอเซน แถมเจ้าตัวก็ไม่ยอมบอกด้วย” พีรพัฒน์ถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ ไม่รู้ว่าน้องสาวเขาจะปิดบังไปถึงเมื่อไหร่

“ปล่อยไป” สองคำที่ออกมาจากปากวายุทำเอาพีรพัฒน์ไม่กล้าพูดอะไรอีก ช่างเถอะ ในเมื่อน้องสาวเขาเลือกแล้ว เขาที่เป็นพี่ก็ทำได้แค่คอยให้กำลังใจอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ เท่านั้น

“ถ้ายี่หวาฟื้นแล้วรบกวนช่วยโทรหาผมหน่อยนะ ผมขอตัวไปดูอาการของยายก่อน ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง”

“ถ้าอย่างนั้นผมกลับบ้างแล้วกัน ยี่หวาฟื้นก็อย่าลืมโทรหาผมด้วยนะพี่” ธาราธรที่เห็นว่าพีรพัฒน์ไม่อยู่ ตัวเขาก็ไม่รู้จะอยู่เป็นก้างขวางคอครอบครัวคนอื่นเขาทำไม

“กล้องวงจรปิด” เสียงเรียบของวายุทำเอาพีรพัฒน์ถึงกับขมวดคิ้ว เพราะไม่เข้าใจความหมายที่เขาพูด

ส่วนธาราธรก็พยักหน้าเพื่อเป็นการรับคำสั่ง ก่อนจะเอ่ยออกมา “โอเคครับ เดี๋ยวผมไปตรวจสอบให้ ถ้าได้เรื่องจะรีบติดต่อมาทันที”

ทันทีที่ชายหนุ่มทั้งสองเดินออกจากห้องไป บรรยากาศภายในห้องก็เงียบยิ่งกว่าเดิมเสียอีก…

.....

ท่ามกลางความมืดที่ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกอันหนาแน่น ยี่หวาที่มองไม่เห็นแสงสว่างใดๆ ก็กระวนกระวายในใจ มันเกิดอะไรขึ้น? เธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้เธอกำลังขับรถไปหาวายุที่บริษัทหลังจากรับเรนที่โรงเรียนเสร็จ…

แต่แล้วก็มีรถคันหนึ่งมาชนรถเธอจนเสียหลัก…อย่าบอกนะว่าเธอตายแล้ว!

เรนล่ะ?

เรนอยู่ไหน?

เรนปลอดภัยใช่ไหม?

“เรน!!!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม