ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม นิยาย บท 24

สรุปบท [ตอนที่ 24 ทุกคนทิ้งเธอไปกันหมด]: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม

อ่านสรุป [ตอนที่ 24 ทุกคนทิ้งเธอไปกันหมด] จาก ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม โดย -BUTTER-

บทที่ [ตอนที่ 24 ทุกคนทิ้งเธอไปกันหมด] คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย -BUTTER- อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

หลายชั่วโมงผ่านไปยี่หวาเริ่มรู้สึกตัว พอลืมตาขึ้นก็พบว่าตอนนี้เธอกำลังนอนอยู่ที่ไหนสักแห่ง และดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ห้องพยาบาลด้วย แต่ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยถามก็มีเสียงคุ้นเคยลอยเข้ามาก่อน

“นี่ห้องฉันเอง”

“พี่วายุ” ยี่หวาเอ่ยออกมาอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าตื่นมาแล้วจะเจอเขาอยู่ข้างๆ ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้เธออยู่ห้องพยาบาลหรอกเหรอ

“รู้สึกยังไงบ้าง ดีขึ้นแล้วใช่ไหม”

“ค่ะ แล้วทำไมหนูถึงมาอยู่ที่นี่ ตอนนี้กี่โมงแล้วคะ”

“สามทุ่ม” วายุไม่ได้ตอบคำถามแรก เพราะขี้เกียจเล่าเรื่องก่อนหน้านี้ให้เธอฟัง

“แล้วแม่นมล่ะคะ” นั่นไง เขาคิดไว้อยู่แล้วว่าเธอต้องถาม ซึ่งวายุก็ไม่ได้ตอบหญิงสาว เพียงแค่ยื่นจดหมายที่ประภาพิศเป็นคนเขียนให้ยี่หวาอ่านเอง

ทันทีที่ยี่หวาอ่านจบ น้ำตาก็ค่อยๆ ไหล เพราะถ้าแม่นมกลับไป แสดงว่าตอนนี้เธอก็ต้องอยู่คนเดียวจริงๆ แล้วสินะ ทุกคนทิ้งเธอไปกันหมด…

วายุที่กำลังยืนมองเด็กสาวร้องไห้ ก็รู้สึกเจ็บปวดตาม เขารู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ จึงค่อยๆ เอื้อมมือเข้าไปดึงยี่หวามากอด พร้อมกับพูดอย่างอ่อนโยน

“เธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว เธอยังมีฉัน ฉันจะดูแลเธอเอง”

“พี่วายุจะดูแลหนูจริงๆ เหรอ หนูทำให้พี่ลำบากหรือเปล่า”

“ไม่ลำบาก”

“ถ้าอย่างนั้นหนูขอแค่ให้หนูได้นอนที่นี่นะ เดี๋ยวหนูจะไปหางานทำเพราะตอนนี้หนูไม่มีเงินเลย”

วายุรู้ดีว่าเด็กสาวตรงหน้าเขาดื้อขนาดไหน จึงต้องหาวิธีเกลี้ยกล่อมเธอในแบบของเขาเอง “งั้นฉันจ้างเธอเป็นแม่บ้านทำความสะอาดที่นี่ได้ไหม”

ยี่หวาตาโตทันที เอ่ยถามกลับอย่างดีใจ “พี่วายุจะจ้างหนูเหรอคะ”

“ใช่”

“งั้นหนูทำค่ะ”

วายุถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เธอตอบตกลงทำงานที่นี่ อย่างน้อยเธอก็จะได้ไม่ต้องไปทำงานที่อื่นให้ลำบาก เพราะปกติแล้วเขาจะจ้างแม่บ้านให้มาทำความสะอาดที่นี่ตอนกลางวันตลอด

“เอาเป็นว่าฉันจะจ้างเธอวันละพัน…”

ยังไม่ทันพูดจบ วายุก็ถูกยี่หวาพูดแทรกขึ้นทันทีว่า “ไม่เอาค่ะ! มันเยอะไป มากกว่าค่าแรงขั้นต่ำตั้งสามเท่า”

“แปดร้อย”

“ไม่ค่ะ” ยี่หวาส่ายหัวไปมา

“หกร้อย”

“ไม่เอา”

“ห้าร้อย ไม่เอาต่ำกว่านี้แล้วนะ เพราะเธอก็น่าจะรู้ว่าฉันเป็นใคร ถ้ามีคนรู้ว่าฉันจ้างแม่บ้านให้ค่าแรงต่ำกว่าห้าร้อยต้องอายมากแน่” น้ำเสียงวายุตอนนี้จนปัญญามาก เขาไม่รู้จะหาข้ออ้างอะไรมาพูดแล้ว

“งั้นก็ได้ค่ะ วันละห้าร้อยรวมอาหารเช้ากับเย็น”

“เธอทำเป็นเหรอ”

“อย่าดูถูกหนูนะ หนูทำกับแม่นมบ่อย”

“งั้นก็ได้ แล้วแต่เธอเลย” ก็ดีเหมือนกัน เขาจะได้กินข้าวฝีมือเธอทุกวัน

เช้าวันต่อมา

ตั้งแต่ที่ยี่หวาเดินเข้ามาในห้องเรียน จนตอนนี้กำลังนั่งอ่านหนังสือค่าเวลารออาจารย์มาสอน ก็ยังถูกเดวิลบ่นถึงเรื่องเมื่อวานไม่เลิก

“เธอได้ยินไหมเนี่ย!” เดวิลเริ่มขึ้นเสียงใส่ยี่หวา เพราะไม่พอใจที่เธอกำลังเมินเขาอยู่ แต่ยี่หวาก็ไม่แม้แต่จะกลัว เนื่องจากเธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่น่าจะทำร้ายเธอด้วยเรื่องแค่นี้ ซึ่งผิดกับเพื่อนคนอื่นๆ ในห้องที่เริ่มเสียวสันหลัง เพราะไม่รู้ว่าถ้าเดวิลโมโหขึ้นกว่านี้จะมาลงที่พวกเขาด้วยหรือเปล่า

“จีน อังกฤษ ญี่ปุ่น พวกนี้จะถนัดเป็นพิเศษ แต่ภาษาอื่นก็พอได้บ้างนิดหน่อย”

“โห! สมแล้วที่ได้เลื่อนชั้น ถ้าจะเก่งขนาดนี้น่าจะเลื่อนชั้นไปอยู่มหาวิทยาลัยเลยนะ” ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทางโรงเรียนถึงได้ให้เด็กมอสองมาเรียนมอสี่

“เกินไป”

“งั้นตรงนี้ล่ะ แปลว่าอะไรบ้าง แต่ถ้าให้ดีก็ช่วยอ่านให้ฟังทั้งหน้าเลย”

“นายนี่มัน…” ยี่หวาแทบจะหมดคำพูดกับผู้ชายตรงหน้า “หน้าไหน”

“นี่ๆ หน้าแรกเลย”

“เจ้าคิดเหรอว่าตัวเองยังเป็นจักรพรรดิที่แข็งแกร่งเหมือนเมื่อหมื่นปีก่อนงั้นเหรอ? ข้าจะให้โอกาสเจ้าต่อ แต่อย่าเลือกที่จะตายเสียล่ะ! ...”

จากนั้นยี่หวาก็อ่านการ์ตูนให้เดวิลฟังจนจบไปหนึ่งตอน แต่เหมือนว่าเดวิลจะยังไม่พอใจอยากจะฟังต่อ แต่โชคดีที่ครูเข้ามาก่อน ยี่หวาจึงไม่ต้องอ่านอีก

“วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน” ทันทีที่อาจารย์พูดจบและเดินออกจากห้องไป เดวิลก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาทันที

“ตื่นแล้วเหรอ นายควรเรียนบ้างนะ อีกไม่กี่อาทิตย์ก็สอบแล้ว”

“ค่อยไปอ่านก่อนสอบทีเดียว พักเที่ยงแล้ว รีบไปกินข้าวกันเถอะ เธอจะได้อ่านการ์ตูนให้ฉันฟังต่อ แล้ววันนี้เธออยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม”

“ฉันรู้ว่านายขี้เกียจต่อแถว เดี๋ยวฉันไปซื้อให้เอง”

“ก็ดีเหมือนกัน นี่ห้าร้อยเธออยากกินอะไรก็ซื้อมา ส่วนฉันเอาข้าวผัดต้มยำทะเล” สั่งอาหารตามสั่งซะด้วย ได้ทีเอาใหญ่เลยนะคนคนนี้

“โอเค งั้นนายไปนั่งจองโต๊ะ”

“ใช้คำดีๆ หน่อย เธอต้องพูดว่าไปนั่งรอ ไม่ใช่นั่งจอง”

“ค่ะๆ ไปนั่งรอที่โต๊ะก่อนนะเจ้าคะ เดี๋ยวอีกไม่นานจะมีอาหารไปเสิร์ฟ” อีกอย่างที่ไม่ต้องใช้คำว่าจองกับเขาก็เพราะว่าแค่เขาเดินไปคนก็ต่างหลบให้หมดแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม