“หมั้นกับฉันนะ” วายุพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พร้อมกับหยิบกล่องกํามะหยี่รูปหัวใจสีแดงขนาดเล็กขึ้นมา และเปิดออกตรงหน้ายี่หวา
“ฮะ! เดี๋ยว…เดี๋ยวนะคะ” ยี่หวาที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก สีหน้าเหลอหลา
“ฉันไม่อยากรอแล้ว อย่างน้อยๆ ก็ขอให้ฉันได้จองเธอไว้ก่อนได้ไหม” น้ำเสียงวายุอ่อนโยนพยายามขอร้องหญิงสาว
“พี่วายุกำลังขอหนูหมั้นจริงๆ เหรอ” เธอพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าตอนนี้เธอไม่ได้กำลังฝันอยู่
“จริง” วายุพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เพื่อให้หญิงสาวรู้ว่าเธอไม่ได้กำลังฝันอยู่
“แต่หนูไม่มีอะไรเลยนะ ยังเรียนอยู่เลย แถมอายุยังห่างกับพี่ตั้งหลายปีอีก”
“ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ขอแค่รักกันก็พอ”
“พี่…พี่รักหนู?”
เธอได้ยินอะไรผิดหรือเปล่า พี่วายุกำลังสารภาพรักกับเธออยู่ใช่ไหม ไม่ใช่สิ เขากำลังขอเธอหมั้นอยู่ นี่มันยิ่งใหญ่กว่าบอกรักอีกนะ
โอ๊ย! งงไปหมดแล้ว…
“ใช่ ฉันรักเธอ แล้วเธอรักฉันไหม?”
ยี่หวาเอามือทั้งสองข้างตบหน้าตัวเองสองทีเบาๆ เพื่อเป็นการดึงสติกลับมา “นี่หนูไม่ได้ฝันจริงๆ ใช่ไหม แต่พี่วายุรวยมากถ้ามาคบกับหนูมันจะไม่เป็นปัญหาเหรอคะ”
วายุรู้ว่าหญิงสาวหมายถึงอะไร เพราะเขาก็รู้ตัวดีว่าแม่ของเขาก็คงไม่มีทางยอมเรื่องนี้แน่ๆ แต่แล้วยังไงล่ะ ในเมื่อเขารักผู้หญิงคนนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะต้องถูกไล่ออกจากตระกูล เขาก็จะไม่มีทางยอมเสียเธอไปแน่
ยี่หวาที่เห็นวายุเงียบไป เธอก็รู้ได้ทันทีว่าชายหนุ่มตรงหน้ากำลังคิดอะไรอยู่ ในเมื่อพี่วายุอุตส่าห์ยอมเลือกเธอแล้ว ทำไมเธอจะต้องปล่อยเขาไปด้วยล่ะ
“ถ้าอย่างนั้นเอาแบบนี้ไหมคะ หนูยอมหมั้นกับพี่วายุก็ได้ แต่…” วายุมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาที่กำลังมีความหวัง “ขอให้พี่เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับก่อนได้ไหม”
“ทำไม” วายุรีบตอบกลับทันที เขาไม่เข้าใจในเมื่อเขาอุตส่าห์ทนเก็บเรื่องเธอไว้เป็นความลับมาตลอดสามปีแล้ว นี่ยังจะให้เขาต้องมาอดทนอีกเหรอ
หรือว่าเธออายที่จะคบกับเขา…
ยี่หวาเห็นสีหน้าเหยเกของวายุก็รีบเอ่ยขึ้น “หนูไม่ได้อายที่หมั้นกับพี่นะ อย่าเข้าใจผิด เพียงแต่หนูอยากมีทุกอย่างเพื่อให้พี่วายุไม่ต้องอายคนอื่นที่คบกับหนู”
“ฉันไม่อาย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม