ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม นิยาย บท 45

“ว่าแต่เมื่อไหร่ลูกจะเลิกเล่นเป็นดาราสักที นี่ลูกได้เป็นแค่นางร้ายในละครมาสี่ปีแล้วนะ แทนที่จะเข้ามาช่วยในงานบริษัทของพ่อ” ญาณิศาพูดขึ้นอย่างเหลืออดเหลือทนเมื่อเห็นว่าลูกสาวตัวเองที่ตอนนี้อายุยี่สิบสี่ปีแล้วแต่ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย

โชคดีที่ยี่หวาไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้ว ไม่อย่างนั้นบริษัทของคุณดนัยณัฐทั้งหมดอาจจะตกเป็นของผู้หญิงคนนั้นก็ได้

“ก็งานเอกสารแบบนั้นมันน่าเบื่อนี่คะ อีกอย่างถึงดาจะเป็นแค่นางร้ายในละครก็จริง แต่ก็ดังกว่านางเอกบางคนแล้วกัน”

“ไม่รู้แหละเพราะเดี๋ยวอีกไม่นานลูกก็จะต้องแต่งงานแล้ว อย่างน้อยๆ ลูกก็ควรทำตัวให้ดูดีกว่าตอนนี้”

พอญาณิศาพูดจบ ตาของดาหลาก็ลุกวาวเป็นประกายทันที รีบเอ่ยตอบกลับไปว่า “คุณวายุยอมแต่งแล้วเหรอ”

เพราะตลอดสี่ปีที่ผ่านมาวายุไม่แม้แต่จะพูดกับเธอหรือมาให้เธอเห็นหน้าเลยด้วยซ้ำ มีแค่ช่วงนี้ที่ได้เห็นผ่านๆ แถมเขายังปฏิเสธการหมั้นหมายทุกรอบ ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงเรื่องแต่งงานเลย

“ไม่ยอมก็ต้องยอม เพราะครั้งนี้คุณหญิงพิชญ์สิณีเป็นคนบังคับ”

เมื่อรู้ว่าการแต่งงานครั้งนี้เกิดจากการบังคับ และวายุก็ไม่ได้เต็มใจ แววตาของดาหลาก็หม่นหมองลงทันที แต่เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้นก็กลับมาประกายเหมือนเดิม

ไม่เต็มใจก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงเธอก็ได้แต่งงานกับเขาอยู่ดี

“แต่ถ้าอย่างนั้นแฟนคลับดาก็จะรู้เรื่องที่ดามีลูกสิ”

ถ้าเกิดแฟนคลับรับไม่ได้ แล้วเกิดเลิกติดตามเธอขึ้นมาจะทำยังไง กว่าเธอจะดังได้ขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะ เธอต้องเป็นข่าวกับคนอื่นไม่รู้ตั้งกี่คน

“ถึงเวลานั้นคนอื่นต่างก็ต้องคิดว่าลูกเป็นแค่แม่เลี้ยง เพราะทุกวันนี้มีแต่คนคิดว่าเด็กคนนั้นเป็นเพียงลูกนอกสมรสของ ภูวิศ พิทวัสชญวงศ์”

“จริงด้วยค่ะ เผลอๆ ถ้าได้เปิดตัวกับวายุ ดาต้องดังกว่านี้แน่ๆ แถมอาจจะได้เล่นหนังด้วยก็ได้”

เนื่องจากสี่ปีที่ผ่านมาวายุไม่ยอมเปิดตัวกับเธอเลย แต่จะให้เปิดตัวยังไงก่อน ขนาดตัวเขาเองก็มีคนน้อยนักที่จะรู้จักใบหน้าจริงๆ ของเขา อีกอย่างตลอดสี่ปีมานี้เธอเพิ่งจะเคยเห็นหน้าวายุอีกครั้งก็เมื่อเร็วๆ นี้เอง เพราะเธอจะได้ไปที่บ้านพิทวัสแค่วันหยุด และเวลาที่เธอไปเขาก็มักจะอยู่แต่ในห้อง หรือบางครั้งก็ไม่อยู่เลย

เธอก็เคยแอบถ่ายรูปตอนอยู่บ้านนั้น แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าเป็นบ้านพิทวัส เพราะไม่เคยมีนักข่าวคนไหนกล้าทำข่าวเกี่ยวกับคนในตระกูลนี้ ส่วนเด็กคนนั้นก็เป็นเพียงปากต่อปากที่ลือกันไปทั่วเท่านั้น ไม่เคยมีข่าวออกมาจริงๆ