ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม นิยาย บท 58

เวนิสที่ยืนอยู่ลืมตาขึ้นช้าๆ ในแววตามีความสดใสตามนิสัยของเธอ พยายามเดินหลบผู้คนไปมาอย่างระมัดระวัง แต่แล้ววินาทีต่อมาก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินชนเธอแล้วทะลุผ่านไป สายตาที่สดใสก็กลายเป็นว่างเปล่าและหวาดกลัวอย่างฉับพลัน

“โอ้ว!” กวินอุทานออกมาอย่างไม่เชื่อสายตา ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยแสดงหนังเลยจริงๆ งั้นเหรอ

แม้แต่พีรพัฒน์ยังอึ้ง ไม่คิดว่าน้องสาวตัวเองจะแสดงได้ดีขนาดนี้ สมแล้วที่เป็นน้องสาวเขา

เวนิสเดินไปเรื่อยๆ ด้วยท่าทางเหม่อลอย พยายามเรียกคนรอบข้างด้วยเสียงที่แหบแห้งอย่างน่าสงสารทำเอาคนที่กำลังดูอยู่ถึงกับน้ำตาคลอ

บ้าจริง! ผู้หญิงคนนี้แสดงได้ไม่ถึงสิบนาทีก็สามารถดึงผู้ชมให้เข้าไปอยู่ในโลกของเธอได้อย่างง่ายดาย ถ้าเธอได้เป็นนักแสดงเต็มตัวเมื่อไหร่ วงการบันเทิงจะต้องสั่นสะเทือน!

ขณะที่เวนิสกำลังเดินอย่างไร้ความหวัง เธอก็รู้สึกได้ว่าผู้หญิงคนหนึ่งเดินหลบเธอ แววตามีความมึนงงไม่มั่นใจว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่า เพื่อความแน่ใจเวนิสจึงรีบเดินไปดักหน้าผู้หญิงคนนั้น แล้วเธอก็หลบเวนิสจริงๆ

ชั่วขณะนั้นเองแววตาเวนิสที่ตอนนี้เต็มไปด้วยความหวัง น้ำตาไหลออกมาทั้งสองข้างอย่างดีใจ ในที่สุดก็มีคนมองเห็นเธอ...

พอจบฉากที่ยี่หวาต้องแสดงเธอก็ยืนนิ่งรอให้ผู้กำกับสั่งคัท แต่ดูเหมือนเขาจะหลุดเข้าไปในโลกที่เธอสร้างเมื่อครู่แล้ว พีรพัฒน์ที่รู้สึกตัวก่อนจึงรีบตะโกนแทนผู้กำกับ

“คัท!”

จากนั้นสติทุกคนก็กลับมา กวินถึงกับพูดอะไรไม่ออก เขาก็ถ่ายหนังมาเยอะแต่ไม่เคยเจอใครที่การแสดงสุดยอดขนาดนี้ สามารถพาผู้ชมเข้าถึงบทบาทได้เพียงไม่กี่นาทีแม้ว่าจะมีบทพูดแค่ไม่กี่คำ “เธอสาบานนะว่าไม่เคยแสดงหนังมาก่อน”

“ค่ะ ทำไมเหรอคะ” หรือว่าที่แสดงเมื่อกี้มันออกมาแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ

“มันดีมาก! ฟีลกู๊ด!”

“ขอบคุณค่ะ” ยี่หวาขอบคุณตามมารยาท เพราะเธอเองก็ไม่รู้ตัวว่าเล่นออกมายังไงเหมือนกัน

พอกวินเดินออกไปแล้วพีรพัฒน์ก็รีบหันมาพูดกับยี่หวา “พี่บอกแล้วว่าเราทำได้ แต่แบบนี้มันก็ดีเกินไปเปล่า ตอนแสดงกำลังคิดอะไรอยู่” พีรพัฒน์อดชมไม่ได้ เพราะยี่หวาแสดงได้ดีมากจริงๆ

“หวานึกถึงตอนที่ตื่นมาในป่าแล้วไม่เจอใคร แถมจำอะไรไม่ได้แม้แต่ชื่อของตัวเองเมื่อสี่ปีก่อน”

พีรพัฒน์สีหน้าเศร้าหมองลง พูดออกมาอย่างรู้สึกผิด “พี่ขอโทษที่มาหาเราช้า” เพราะถ้าเขาไม่มัวแต่กลัวตากับยายแล้วมารับเธอไปอยู่ด้วยให้เร็วกว่านี้ น้องสาวเขาก็คงไม่ต้องเกิดอุบัติเหตุในครั้งนั้น

“มันผ่านไปแล้ว ช่างมันเถอะค่ะ” สีหน้ายี่หวาบ่งบอกว่าเธอไม่เป็นอะไรจริงๆ

กวินเพิ่งดูวิดีโอที่ถ่ายเมื่อครู่อีกครั้งจบก็เดินเข้ามาหายี่หวาด้วยใบหน้ามีความสุขมาก “เธอแสดงได้ดีมากจริงๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไม่เคยแสดงหนังมาก่อน แถมยังจำบทได้เร็วอีกด้วย”

“ผู้กำกับชมเกินไปแล้วค่ะ” เพราะบทพูดก็แค่ไม่กี่คำเอง

“ไม่เกินไปเลย เธอสุดยอดจริงๆ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เริ่มถ่ายทำฉากของเธอเลยได้ไหม เพราะฉากนักแสดงคนอื่นก็ถ่ายทำไปได้เกินครึ่งแล้ว”

“ได้ค่ะ” รีบถ่ายก็ดีเหมือนกัน เธอจะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่นต่อ

“เยี่ยม! ยินดีที่ได้ร่วมงานด้วย” กวินยื่นมือออกไปตรงหน้ายี่หวา

ยี่หวายื่นมือไปจับ “ฝากตัวด้วยค่ะ” ก่อนจะหันไปพูดกับพี่ชายตัวเอง “งั้นหวาขอตัวก่อนนะ ต้องเข้าบริษัทอีก”

“โอเค งั้นเดี๋ยวพี่เดินไปส่งหน้าบริษัทแล้วกัน เพราะฉากที่พี่ต้องถ่ายยังไม่ถึงเวลา”

“ก็ดีค่ะ” อย่างน้อยๆ ทุกสายตาก็จะได้จับจ้องไปที่พีรพัฒน์ ไม่ใช่เธอ

ในขณะเดียวกันที่หน้าทางเข้าสตูดิโอเอฟฟิล์ม ผู้ชายที่มีใบหน้าเย็นชา ทรงผมสีเทาเข้มทำให้ดูมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก เพราะคนส่วนน้อยมากที่ทำผมสีนี้แล้วจะรอด กำลังลงจากรถเพื่อที่จะเดินเข้ามาในสตูดิโอ

แต่ทันทีที่ขาแตะถึงพื้น เสียงกรีดร้องตะโกนโหวกเหวกโวยวายก็ดังขึ้นมาก่อนจนแสบแก้วหู ทำเอาชายหนุ่มถึงกับขมวดคิ้วอย่างรำคาญ แต่พอเขานึกถึงสัญญาที่ให้ไว้กับผู้จัดการ ใบหน้าจากที่ดูโกรธก็เปลี่ยนมาเป็นเรียบเฉย

“กรี๊ด!!! เดวิล!!! ทางนี้ค่ะ ฉันอยู่ทางนี้!”

“พี่เดวิล! ขอลายเซ็นหน่อยค่ะ”

“ขอถ่ายรูปหน่อยค่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม