[ตอนที่ 6 อ้อมกอดปลอดภัยเหมือนฐานลับ] – ตอนที่ต้องอ่านของ ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม
ตอนนี้ของ ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม โดย -BUTTER- ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง [ตอนที่ 6 อ้อมกอดปลอดภัยเหมือนฐานลับ] จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ทันทีที่ธาราธรกำลังจะออกรถ สายตาวายุก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวเปิดประตูออกมาจากบ้าน แต่สิ่งที่ทำให้เขาตกใจมากก็คือเลือดที่อยู่บนเสื้อของเธอ
นี่มันเกิดอะไรขึ้น!?!
แต่ยังไม่ทันที่วายุจะได้คิดอะไรต่อก็รีบเอ่ยขึ้นมาเสียงดัง “จอด!”
ธาราธรที่ได้ยินก็รีบเหยียบเบรกทันที เขาไม่เคยถูกพี่ตะโกนใส่แบบนี้ จึงรีบหันไปถามวายุด้วยสีหน้าหวาดระแวง “เกิดอะไรขึ้น แล้วนั่นพี่จะลงไปไหน”
วายุไม่ได้สนใจเสียงเรียกของธาราธรรีบเดินลงไปหาหญิงสาวด้วยท่าทางร้อนรนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “เกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทำไมเป็นแบบนี้!”
ยี่หวาที่ยังพอมีสติอยู่ถึงแม้จะเลือนรางไปบ้างเพราะเลือดที่ไหลออกมาไม่ยอมหยุด ได้ยินเสียงที่คุ้นหูอยู่ตรงหน้าก็รีบส่งยิ้มให้อีกฝ่ายพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงดีใจ “พี่วายุ...ดีจังที่พี่ยังอยู่”
วายุเริ่มมีสีหน้าไม่ดีขึ้นเรื่อยๆ หญิงสาวตรงหน้าของเขาในเวลาแบบนี้ยังจะมาส่งยิ้มให้เขาอีก
แม้ในใจจะกังวลขนาดไหน แต่วายุก็ยังคงต้องควบคุมตัวเอง จึงพยายามเอ่ยเสียงเรียบที่มีความเป็นห่วงแฝงอยู่ “เธอเป็นอะไร”
“หนูไม่ระวังก็เลยตกบันไดค่ะ” ยี่หวาตัดสินใจพูดโกหกออกไป เพราะเธอไม่อยากให้พ่อดูแย่ในสายตาคนอื่น จากนั้นยี่หวาก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ว่า “พี่วายุช่วยพาหนูไปที่บ้านหลังเมื่อกี้หน่อยได้ไหมคะ”
“ไปทำไม” ในเวลาแบบนี้ไม่ใช่ว่าเธอควรจะไปโรงพยาบาลหรอกเหรอ
“หนูต้องทำแผล อุปกรณ์อยู่ที่นั่น...” ยี่หวาที่อยู่ๆ เหมือนกับว่าจะเพิ่งนึกอะไรออกก็ทำหน้าตกใจ รีบพูดออกไปด้วยน้ำเสียงร้อนรน “ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ เดี๋ยวหนูทำให้รถแพงๆ ของพี่ต้องเปื้อน”
ทันทีที่พูดจบยี่หวาก็เดินเลี้ยวไปด้านข้างเพื่อที่จะเดินกลับไปบ้านผีสิงหลังนั้น แต่เดินได้เพียงไม่กี่ก้าวก็รู้สึกว่าตัวลอยขึ้นจากพื้น
วายุรู้ว่าหญิงสาวจะต้องหันมาบ่น ก็รีบพูดตัดหน้าด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เลอะแค่นี้ไม่เป็นไร เธอต้องรีบไปโรงพยาบาล”
“แต่หนู...” ยี่หวากำลังจะบอกว่าเธอไม่มีเงินก็ได้ยินเสียงวายุลอยเข้ามาก่อน
“ไม่มีแต่ ถือว่าตอบแทนที่ช่วยฉันไว้”
“ขอบคุณค่ะ” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเผด็จการแค่ไหน เธอจึงได้แต่ยอมรับ เพราะตอนนี้เธอแทบจะไม่มีแรงพูดแล้วด้วยซ้ำ
ไม่รู้ว่าทำไมพอเธออยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายคนนี้ ถึงได้รู้สึกปลอดภัยเหมือนกับตอนอยู่ในฐานลับเลย ดังนั้นเมื่อยี่หวารู้ว่าอีกไม่นานตัวเองจะถึงมือหมอแล้ว ที่ฝืนทนมาตั้งแต่แรกก็ถูกปลดปล่อย ทำให้หมดสติไปอยู่ในอ้อมกอดของวายุ
วายุเริ่มควบคุมตัวเองไม่อยู่ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหลับไปแล้ว รีบส่งเสียงร้อนรนไปให้ธาราธรที่กำลังงงกับเหตุการณ์อยู่ “รีบไปโรงพยาบาล ด่วน!”
“ครับๆ” เขาไม่เคยเห็นพี่ชายสูญเสียการควบคุมขนาดนี้มาก่อน จึงรีบออกรถทันทีไม่กล้าถามอะไรต่อ
ภายในห้องคนไข้ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง วายุกำลังนั่งอยู่ข้างเตียงมองผู้หญิงที่นอนหลับอยู่บนเตียง โดยมีผ้าพันแผลพันรอบศีรษะ ตามตัวเขียวช้ำไปหมด
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!
“ไม่รู้อะไรก็อยู่เงียบๆ”
เมื่อเห็นว่าวายุเริ่มไม่พอใจแล้วเขาก็ปิดปากทันที เขารู้ว่าวายุไม่ชอบการอธิบาย ซึ่งทุกทีเขาจะเข้าใจได้เอง แต่ครั้งนี้เขาไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมพี่เขาต้องทำดีกับผู้หญิงคนนี้
ในทุกวันเด็กของธาราธรมักจะวิ่งเข้ามาฟ้องเขาว่าถูกผู้หญิงที่ชื่อยี่หวาคอยทำร้าย ทั้งผลักตกบันได โยนของใส่หัว ขังไว้ในห้องน้ำ จนพวกเขาอยากจะให้ไล่เธอออก แต่เพราะตอนนี้วายุเป็นเจ้าของ ทำให้เขาไม่กล้าที่จะมาพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้ ทำได้แค่มีหลักฐานแล้วส่งให้ตำรวจจัดการ
ซึ่งครั้งล่าสุดยี่หวาก็ได้ผลักเพื่อนที่ชื่อดาหลาไปกลางถนนแต่โชคดีที่รถเหยียบเบรกทันทำให้ไม่มีใครเป็นอะไร แต่เพราะมีแค่พยานบุคคล ที่ตรงนั้นไม่มีกล้องวงจรปิดเลยทำให้ตำรวจไม่รับดำเนินคดี เพราะไม่มีหลักฐานเอาผิดได้
ทั้งที่ธาราธรเห็นกับตาว่าผู้หญิงคนนั้นผลักเพื่อนตัวเอง แต่แค่คำพูดของเขาแม้จะทำให้คนทั้งโรงเรียนเกลียดเธอ แต่ก็ไม่อาจทำให้เธอถูกไล่ออกได้
“งั้นผมขอตัวกลับก่อน พี่ให้คนขับรถมารับแทนแล้วกัน”
“นายให้คนขับรถมารับ ฉันจะขับกลับเอง”
“ก็ได้ครับ นี่กุญแจรถ”
พอส่งกุญแจรถให้กับวายุเสร็จ ธาราธรก็เดินออกมาจากห้องทันที ขืนอยู่ต่อมีหวังเขาได้อดทนจนเป็นบ้าแน่ เพราะถ้าพี่เขาปกป้องเธอขนาดนั้น ไม่ว่าใครก็ทำอะไรเธอไม่ได้
นี่มันหายนะชัดๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม