หลังจากที่ควิลเลอร์ฟังพีรพัฒน์อวดน้องสาวจบ เขาก็พายี่หวามายังศูนย์การค้าชั้นนำแห่งหนึ่งที่มีคนพลุกพล่านไม่เบา ทั้งที่ตอนนี้ยังเป็นช่วงบ่ายอยู่แท้ๆ
เหตุผลที่ควิลเลอร์พายี่หวามาที่นี่ เพราะเขาต้องการดูว่ากิริยาท่าทางของยี่หวาว่าเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการเดิน หรือการพูดคุย
“คิดซะว่าวันนี้เรามาเดินช็อปปิ้งกัน เธอมีอะไรที่อยากซื้อไหม ตามสบายเลยนะ ฉันจะเดินเป็นเพื่อนเอง”
ยี่หวาพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เพราะเธอพอจะรู้เหตุผลที่ควิลเลอร์พาเธอมาที่นี่แล้ว งั้นก็ดีเลยเธอจะได้ซื้อพวกของใช้เข้าบ้าน
เพราะหลังจากที่กลับมาจากต่างจังหวัด ยี่หวาก็เพิ่งรู้ว่าเรนจิกับวายุย้ายมาอยู่บ้านอีกหลังแล้ว และด้วยความที่เรนจิติดเธอมากเขาก็เลยขอให้เธอไปอยู่ที่บ้านหลังนั้นด้วย พอเจอลูกอ้อนของเจ้าเด็กน้อยเข้าไปแม้แต่เธอก็ยากที่จะปฏิเสธ ทำให้ตอนนี้เธอกลายเป็นส่วนหนึ่งของบ้านหลังนั้นแล้ว
จากการสำรวจกิริยาท่าทางของยี่หวา ควิลเลอร์ก็รู้สึกพอใจยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เพราะการวางตัวของเธอดีมาก ดูธรรมชาติเป็นกันเอง แม้ว่าจะมีบางครั้งที่รู้สึกว่าเข้าถึงยาก แต่ก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเธอที่ทำให้ผู้คนต่างก็หันมอง
“ถ้าอย่างนั้นวันนี้เราแยกกันตรงนี้แล้วกัน” ควิลเลอร์พูดขึ้น เนื่องจากตอนที่มาทั้งสองคนแยกกันขับรถมา “ฉันขอเบอร์โทรเธอหน่อยเผื่อมีงานอะไรจะได้ติดต่อไป”
“ได้ค่ะ” ยี่หวารับโทรศัพท์มาจากมือควิลเลอร์ก่อนจะกดหมายเลขโทรศัพท์ของเธอลงไป “นี่ค่ะ”
“แล้วก็ขอไอจีเธอด้วย รูปอะไรที่ดูเป็นส่วนตัวช่วงนี้ก็แนะนำให้ลบทิ้งไม่ก็ซ่อนไว้พวกนักข่าวจะได้ไม่ตามมาขุดทีหลัง”
“เอ่อ...ฉันไม่เล่นไอจีค่ะ”
“แล้วเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ล่ะ”
“ก็ไม่มีค่ะ” เพราะเธอไม่ชอบความวุ่นวาย อีกอย่างเธอก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเล่นโซเชียลพวกนี้ด้วย
“ตาย ตาย เธอไปอยู่หลุมไหนมา ทำไมถึงไม่เล่นสื่อพวกนี้ แต่ก็ดีเหมือนกันพวกนักข่าวจะได้ไม่ตามขุดเรื่องเก่าๆ ได้ ถ้าอย่างนั้นเธอสมัครไอจีเดี๋ยวนี้เลย ใช้เบอร์สมัครก็ได้แล้วก็ลงรูปสักหนึ่งรูป และถ้าว่างๆ ก็สมัครทวิตเตอร์ไปด้วยเลย”
ถอนตัวกลับตอนนี้ยังทันไหม?
“ค่ะ”
หลังจากที่แยกกับควิลเลอร์ก็เย็นแล้ว ยี่หวาจึงไม่ได้ไปรับเรนจิที่โรงเรียน เธอตรงกลับมาบ้านวายุเลย และพอเธอกลับมาถึงก็เห็นวายุกับเรนจินั่งเล่นอยู่ตรงห้องรับแขก
“หม่ามี๊กลับมาแล้ว!” เรนจิที่หันไปเห็นยี่หวาก็รีบลุกขึ้นจากโซฟาแล้ววิ่งไปกอดขายี่หวาด้วยความดีใจ
“คนเก่งกลับบ้านเร็วจัง”
“วันนี้พ่อไม่มีงาน ก็เลยกลับบ้านเร็วครับ”
ยี่หวาทำหน้าแปลกใจเล็กน้อย นักธุรกิจระดับเขาจะมีวันที่ไม่มีงานด้วยเหรอ
วายุรู้ว่ายี่หวากำลังคิดอะไร และมันก็เป็นอย่างที่เธอคิด คนอย่างเขาไม่มีทางว่างแน่ เพราะงั้นเขาก็เลยเอางานที่บริษัททั้งหมดมาทำที่บ้านแทน เพียงเท่านี้เขาก็จะได้อยู่กับเธอเกือบตลอดเวลาแล้ว
“เรนหิวยัง หม่ามี๊ซื้อของมาเยอะเลย เดี๋ยวหม่ามี๊ทำกับข้าวให้กิน”
“หิวแล้วครับ”
“งั้นเรนไปนั่งรอที่โซฟากับพ่อก่อนนะ พอเสร็จเดี๋ยวหม่ามี๊เดินไปเรียก”
“ครับหม่ามี๊”
พอทุกคนกินข้าวเสร็จ วายุก็เป็นคนขอล้างจานเอง ถึงแม้ว่าตอนแรกยี่หวาจะไม่ยอมแต่เพราะท่าทางน่าเกรงขามของเขาทำให้เธอต้องยอมแต่โดยดี นี่ขนาดแค่เรื่องล้างจานเองนะ ไม่อยากจะคิดถึงตอนเธอทำอะไรผิดแล้วโดนโกรธเลย คงจะน่ากลัวกว่านี้เยอะ
ทางที่ดีก็ควรทำตัวดีๆ เข้าไว้...
ในขณะที่วายุกำลังล้างจาน ยี่หวากับเรนจิก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำที่ห้องของตัวเอง ส่วนวายุที่ล้างจานเสร็จเรียบร้อยก็กลับไปทำงานค้างที่ห้องทำงานต่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม