ยี่หวาตรวจดูเอกสารที่ค้างไว้เสร็จ ก็ขับรถกลับมายังคอนโดของตนเพื่อเปลี่ยนเป็นรถคันที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ดีที่ว่าหลังจากคืนวันนั้นวายุก็จัดการให้คนของเขาขับรถคันนี้มาจอดไว้ที่คอนโดของเธออยู่ก่อนแล้ว เพราะเธอเองก็ลืมไปเสียสนิทเลย แต่ดูเหมือนว่าจากนี้ไปเธอคงต้องขับแต่คันนี้แล้ว ไม่อย่างนั้นคนอื่นอาจจะสงสัยในสถานะของเธอได้
เมื่อเปลี่ยนรถเสร็จแล้วยี่หวาก็ขับมายังศูนย์การค้าชื่อดัง ในขณะที่เธอกำลังเดินอยู่นั้นก็รู้สึกถึงสายตาที่กำลังจ้องมองมายังทางเธอ ถ้าเป็นสายตาปกติทั่วไปเธอก็ชินชาแล้ว แต่สายตานี้เธอรู้สึกถึงแรงอาฆาต และไม่มีทางที่เธอจะคิดไปเองแน่
ยี่หวาทำเป็นไม่สนใจเดินต่อไปตามปกติ ยังไงจุดประสงค์ที่เธอมาวันนี้ก็เพราะงาน อย่างน้อยๆ ก็ขอทำงานให้เสร็จก่อน เมื่อเดินมาถึงสถานที่เป้าหมายยี่หวากลับหยุดยืนอยู่หน้าร้านแล้วใช้สายตาสำรวจจากภายนอกเพียงเท่านั้น เพราะเธอเชื่อมั่นในตัววายุว่างานที่ออกมาจะไม่ผิดพลาด แต่เธอเพียงแค่อยากรู้จุดวางสินค้าเท่านั้น และดูเหมือนว่าจะจัดร้านออกมาได้ดีเลยทีเดียว
เสร็จไปหนึ่งงาน ต่อไปก็จัดการกับคนที่คอยตามเธออยู่ ยี่หวารีบเดินเพื่อที่จะไปยังชั้นจอดรถใต้ดิน แต่เพราะเธอให้ความสำคัญกับคนที่กำลังตามมากไปหน่อยทำให้เผลอไปชนเข้ากับคนคนหนึ่ง
โชคดีที่ยี่หวาทรงตัวอยู่ จึงไม่ล้มลงไปกับพื้น ไม่รอช้ายี่หวารีบโค้งตัวลง “ขอโทษค่ะ”
“นี่เธอ! เดินยังไงถึงได้ชนเข้ากับท่านประธานแบบนี้ อยากตายหรือไง!” เสียงผู้ชายที่อยู่ด้านข้างของคนที่ยี่หวาชนดังขึ้น เธอจึงเงยหน้าขึ้นไปมอง ก็พบว่าชายคนนี้อยู่ในชุดสูทสีดำอย่างกับพวกบอดี้การ์ด ส่วนคนที่เธอชนก็อยู่ในชุดสูทสีน้ำเงินที่ดูน่าเกรงขามกำลังจ้องเธออย่างไม่พอใจอยู่
แต่เมื่อสายตาของยี่หวาสบเข้ากับชายหนุ่มตรงหน้า วินาทีต่อมาสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนฉับพลัน จากผู้ชายที่ดูน่ากลัวในตอนแรก ตอนนี้กลับดูอบอุ่น คิดถึง และโหยหา เหมือนว่าเจอสิ่งที่ตามหามานาน
เอ่อ...รู้สึกขนลุกยังไงไม่รู้...
“ฉันขอโทษจริงๆ ค่ะ” ดูจากลักษณะของผู้ชายคนนี้แล้ว ไม่ใช่คนที่เธอจะต่อกรด้วยง่ายๆ ยิ่งตอนนี้เธอไม่ใช่คนของหมอนั่นด้วยแล้ว เธอเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง เพราะฉะนั้นทางที่ดีก็อยู่อย่างสงบเจียมตัวดีกว่า
“เนียร...” ผู้ชายตรงหน้ายี่หวาเอ่ยออกมาด้วยเสียงสั่นๆ เนียรงั้นเหรอ? หมายความว่ายังไง เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่ายี่หวากำลังทำหน้ามึนงงก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “เนียร...คุณกลับมาหาผมแล้วใช่ไหม?”
ผู้ชายคนนี้กำลังคุยกับเธออยู่เหรอ เพื่อความแน่ใจยี่หวาจึงหันไปมองข้างหลัง แต่ก็พบว่าว่างเปล่า “ฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณพูดค่ะ แล้วอีกอย่างฉันก็ไม่ใช่เนียรด้วยค่ะ ถ้าคุณไม่โกรธเรื่องที่ฉันชนแล้ว งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ”
แต่ในขณะที่ยี่หวากำลังเดินไป ข้อมือของเธอก็ถูกมือหนาจับเอาไว้ก่อน “อย่าเพิ่งไป คุณอย่าใจร้ายกับผมเลย ครั้งนั้นผมผิดจริงๆ ที่ไล่คุณออกไป ผมรอคุณมาห้าปี ผมไม่มีทางลืมคุณเด็ดขาด”
“ฉันว่าคุณต้องเข้าใจผิดอะไรแน่ๆ ค่ะ เพราะว่าฉันไม่รู้จักคุณจริงๆ หน้าฉันดูเหมือนคนโกหกเหรอคะ” สีหน้ายี่หวาจริงจังมาก อีกอย่างดูเหมือนว่าคนคนนี้จะไม่รู้จักชื่อจริงของเธอแสดงว่าก่อนหน้านี้เธอก็คงไม่รู้จักเขาจริงๆ “ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวค่ะ”
ยี่หวายื่นมืออีกข้างไปแกะมือเขา แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมปล่อย “ไม่มีทาง...ผมไม่มีทางจำผิด”
“แต่ฉันไม่รู้จักคุณ” ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้ดื้อด้านแบบนี้ ถ้าไม่ติดว่ามีบอดี้การ์ดห้าคนยืนข้างหลังเขา มีหวังผู้ชายคนนี้คงจะถูกเธอทำให้นอนไปกับพื้นแล้ว
“ผมโจเซฟไง ที่เคยช่วยคุณตอนจมน้ำ”
ยี่หวาจำไม่ได้ว่าตัวเองเคยตกน้ำด้วย ไม่แน่บางทีนี่ก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอกลัวน้ำก็ได้ แต่ถึงยังไงเธอก็ไม่อยากเกี่ยวข้องกับผู้ชายขี้ตื๊อคนนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะหล่อก็เถอะ “ฉันไม่เคยตกน้ำค่ะ”
“ไม่จริง!”
“จริงค่ะ อีกอย่างฉันไม่มีเหตุผลที่จะต้องโกหกคุณนี่คะ”
“ผมจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าคุณคือเนียร ผมไม่มีทางยอมแพ้เด็ดขาด”
“คุณบอกว่ารู้จักฉัน แต่ชื่อของฉันคุณยังไม่รู้เลย”
“งั้นคุณก็บอกผมมาสิ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม