ตั้งแต่ยี่หวากลับมาถึงที่บ้าน เรนจิก็ทำตัวเหมือนเงาตามติดยี่หวาไม่ยอมห่าง เธอที่เพิ่งคั้นน้ำผลไม้เสร็จก็ส่งให้เรนจิ “เดี๋ยวเรนเอาแก้วนี้ไปให้พ่อเรนที่โซฟาหน่อยนะ”
จากที่ปกติวายุมักจะนั่งทำงานอยู่ในห้อง แต่ตอนนี้เขาก็ไม่ต่างจากเรนจิเปลี่ยนมานั่งทำงานที่ห้องรับแขกแทน เพื่อที่ยี่หวาจะได้อยู่ในขอบเขตสายตาของเขา
เรนจิยื่นมือไปรับแก้วน้ำผลไม้จากนั้นก็ยกขึ้นดื่มเอง ยี่หวาที่เห็นดังนั้นก็ได้แต่ทำหน้ามึนงง “อันนี้ของพ่อหนูนะ”
“แต่ที่พ่อเป็นพ่อได้ก็เพราะผมนะ”
“…” ยี่หวาถึงกับพูดไม่ออก ส่วนวายุที่ได้ยินก็น้ำตาเกือบไหลออกมา นับวันทำไมลูกของเขาถึงได้เจ้าเล่ห์แบบนี้
วายุที่รู้ว่าเรนจิคงไม่มีทางเดินเอาน้ำมาให้เขาแน่ จึงลุกขึ้นเดินมาเอาเอง “ขอบคุณ”
“จริงสิฉันซื้อพายมาด้วยค่ะ ทานคู่น้ำผลไม้ก็อร่อยไปอีกแบบ” ยี่หวาเดินไปหยิบพายในถุงแล้วหยิบใส่จานให้วายุและเรนจิ
แต่ดูเหมือนว่าเธอจะซื้อพายมาน้อยไป เพราะไม่คิดว่าเรนจิจะชอบขนาดนี้ ซึ่งพอเจ้าตัวน้อยเห็นว่าพายในจานหมดแล้วก็หันไปพูดกับวายุ “ขอบคุณที่ซื้อพายมาให้ผม”
วายุคิ้วขมวด “หม่ามี๊ของลูกเป็นคนซื้อมา” ไม่ใช่เขา
“ขอบคุณที่พ่อจะกลับไปที่ร้านแล้วซื้อพายมาให้ผม”
ยี่หวาที่ได้ยินถึงกับหลุดขำออกมา ทำไมคนเก่งของเธอแสบได้ขนาดนี้ ทำเอาวายุพูดไม่ออกยอมขับรถออกไปซื้อพายให้เรนจิแต่โดยดี
พอวายุกลับมาถึงบ้านบนโซฟาขนาดใหญ่ในห้องรับแขกกลับเห็นยี่หวาและเรนจิกำลังนอนกอดกันอยู่ คิดถูกจริงๆ ที่เขาซื้อข้าวเข้ามาด้วย วายุเดินเอาของไปเก็บไว้ในตู้กับข้าวก่อนจะเดินมานั่งที่โซฟาเพื่อทำงานต่อ ยี่หวาที่รู้สึกตัวลืมตาอย่างสะลึมสะลือเห็นวายุนั่งทำงานอยู่อีกฝั่งของโซฟาก็ลุกขึ้นอุ้มเรนจิแล้วเดินไปหาวายุ พร้อมกับนอนลงบนโซฟาอีกครั้งแต่คราวนี้หัวของเธอกลับอยู่บนตักของเขา
กลายเป็นว่าตอนนี้ตักของวายุกลายเป็นหมอนให้หญิงสาวที่กำลังหลับโดยมีเด็กน้อยอยู่ในอ้อมกอดด้วย วายุลูบหัวยี่หวาเบาๆ อีกมือก็พิมพ์งานไปด้วย ถ้าเวลาหยุดอยู่แค่นี้ก็คงจะดี…
เช้าวันต่อมายี่หวามาส่งเรนจิที่โรงเรียนกับวายุด้วย จากนั้นทั้งสองคนก็ตรงไปยังโรงพยาบาลซึ่งวายุได้นัดหมอเอาไว้แล้ว
“สวัสดีค่ะ” ยี่หวายกมือไหว้รชานนท์ทันทีที่เดินเข้ามาในห้องตรวจ
“สวัสดีครับ นี่เป็นครั้งแรกที่หมอเจอคุณตอนตื่น” เพราะทุกครั้งหญิงสาวตรงหน้ามักจะหลับอยู่ตลอด “คุณแน่ใจแล้วใช่ไหม”
เพราะวายุได้คุยกับรชานนท์ก่อนหน้านี้แล้วว่าทำไมเธอถึงไม่ยอมเข้ารับการรักษาตั้งแต่แรก
“แน่ใจค่ะ ฉันอยากจำได้”
“งั้นเดี๋ยวคุณตามพยาบาลไปเปลี่ยนชุดได้เลย จะได้เริ่มตรวจสมองด้วยซีทีสแกน*”
“ค่ะ”
หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จยี่หวาก็นอนราบลงบนเตียงของเครื่องสแกน จากนั้นเตียงก็ค่อยๆ ถูกเคลื่อนเข้าไปภายในเครื่อง พอบริเวณสมองอยู่ตรงกับวงแหวนสแกน เครื่องก็เริ่มทำการหมุนเพื่อฉายรังสีเอกซเรย์ไปรอบๆ
เวลาผ่านไปยี่สิบนาทีก็สิ้นสุดการตรวจ ก่อนจะกลับยี่หวาก็เข้าไปคุยกับหมอเพื่อนัดมาตรวจอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม