ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง นิยาย บท 100

เขาเพิ่งจะส่งข้อความนี้เสร็จ กำลังจะเขียนข้อความต่อไป กระจกหยกก็มีข้อความส่องวาบขึ้นมาเป็นชุด

‘หนึ่ง: เรื่องวงในอะไร’

‘สอง: เจ้ารู้ความลับอะไร’

‘สี่: หมายเลขสาม ซังผอมีความลับจริงๆ หรือ’

‘ห้า: บอกพวกเราได้หรือไม่’

‘หก: อามิตาพุทธ’

‘เก้า: สหายน้อยเชิญกล่าว’

“…” สวี่ชีอันนั่งยองๆ อยู่ในพงหญ้าเหม็นฉึ่ง นิ่งไปพักหนึ่ง

ดูเหมือนว่าทุกคนจะสนใจเรื่องนี้กันนะ ก็จริง ถึงอย่างไรก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับกระบี่คุ้มเมืองอันล้ำค่าของต้าฟ่งนี่นา ความลับสุดยอดเช่นนี้ไม่มีใครไม่อยากรู้หรอก

โดยเฉพาะเมื่อทุกคนในพรรคฟ้าดินไม่ใช่ปุถุชนคนธรรมดา ล้วนแต่มีกลุ่มอำนาจอยู่เบื้องหลัง หรือไม่ตัวเขาก็มีพลังอยู่พอควร

คนเช่นนี้จะยิ่งสนใจความลับสุดยอดเหล่านี้ แม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง แต่ก็ไม่แน่ว่าในเวลาใดเวลาหนึ่ง ความลับเหล่านี้อาจจะมีบทบาทอย่างที่ยากจะจินตนาการก็ได้

‘สาม : ไม่ได้มียอดฝีมือระดับหนึ่งมาโจมตีหรอก เรื่องนี้ข้าแทบจะยืนยันได้เลย’

สวี่ชีอันไม่ได้บอกจนหมด

นิ่งไปพักหนึ่ง เขาก็เขียนข้อความส่ง ‘สาม: แต่ว่า ทำไมข้าต้องบอกพวกเจ้าด้วย’

ไม่มีใครพูดอะไรอยู่นาน

อา ยังดีที่ไม่มีคนยืนขึ้นพูดโง่ๆ ว่า ‘มิใช่บอกว่าข้อมูลดีๆ ต้องแบ่งปันช่วยเหลือซึ่งกันและกันหรอกหรือ’

นี่มันสนุกชะมัด ถ้าหากในกลุ่มมีพวกเถียงเก่งหรือว่าพวกคอยกินฟรีอยู่ล่ะก็ แผนการของเขาคงใช้ไม่ได้ง่ายๆ

สวี่ชีอันถือโอกาสพูด ‘นักบวชเต๋าจินเหลียน ข้าคิดว่าพรรคฟ้าดินมีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่ง หากไม่จัดการกับข้อเสียนี้ พรรคฟ้าดินก็จะเป็นแค่องค์กรหละหลวมซึ่งประกอบด้วยกลุ่มคนที่ภายนอกดูสนิทสนมแต่ความจริงไม่ใช่ ความช่วยเหลือที่มอบให้ทุกคนก็จะมีจำกัด’

‘เก้า: สหายน้อยเชิญกล่าว’

‘สาม: ยอมรับว่าการช่วยเหลือกันและกันและแบ่งปันข้อมูลคือวัตถุประสงค์ของพรรคฟ้าดิน แต่มันเป็นอุดมคติเกินไป ข้าบอกความลับนี้กับทุกคนได้ แต่ข้าจะได้อะไรล่ะ ไม่ได้อะไรทั้งนั้น ข้าแบ่งปันความลับข้อนี้ แต่คนที่ชอบแอบอ่านอยู่เงียบๆ อย่างหมายเลขหนึ่งก็จะได้กัดแทะอาหารที่โยนให้อย่างสบายใจน่ะสิ หลังจากมีครั้งแรกและครั้งที่สองแล้ว ข้าก็จะกลายเป็นว่าไม่อยากแบ่งปันข้อมูลหรือแบ่งปันความลับอะไรอีก’

‘หนึ่ง: เจ้าว่าใครกัดแทะอาหารที่โยนมาให้กัน’

หมายเลขหนึ่งคล้ายจะโมโหนิดหน่อย

คนที่พูดถึงก็คือเจ้าไง เจ้านั่นแหละที่ชอบเฝ้าหน้าจอที่สุด…สวี่ชีอันไม่สนใจหมายเลขหนึ่ง เขาเขียนข้อความต่อ ‘ท่านนักบวช ทุกคนในพรรคฟ้าดิน แต่ละคนอยู่ห่างไกล ไม่รู้จักกัน เป็นคนแปลกหน้าโดยธรรมชาติ ขาดความไว้เนื้อเชื่อใจและพื้นฐานของการให้ ข้าขอถาม ผู้ใดยินดีจะอุทิศตนให้คนแปลกหน้าโดยไม่เห็นแก่ตัวบ้าง’

คนแซ่สวี่เกลียดพวกกินฟรีที่สุดแล้ว ต้องหยุดพฤติกรรมแบบนี้โดยเด็ดขาด

พันคำพูดหมื่นคำจาสรุปได้เป็นประโยคนี้ ‘ทำไมข้าต้องแบ่งปันความลับให้กับพวกเจ้าด้วย’

‘เก้า: คำพูดนี้ของสหายน้อยมีเหตุผล’

เมื่อเห็นเช่นนี้ สวี่ชีอันก็แย้มยิ้ม ‘ท่านนักบวชเห็นด้วยก็ดีแล้ว ข้าเชื่อว่าทุกท่านคงจะเห็นด้วยเช่นกันนะ’

สมาชิกพรรคฟ้าดินเงียบงัน

‘สาม: ท่านนักบวช ข้ามีความคิดหนึ่ง ตอนที่ท่านมอบชิ้นส่วนหมายเลขสามให้ข้านั้น ชิ้นส่วนหมายเลขสามถูกผนึกห้ามอยู่ จึงไม่ได้ติดต่อกับชิ้นส่วนอื่นๆ เช่นนั้นพวกเราสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้หรือไม่’

‘เก้า: สหายน้อยมีความคิดอะไร’ นักบวชเต๋าจินเหลียน

‘ข้าจะยกตัวอย่าง ข้านำความลับของซังผอมาขายให้พรรคฟ้าดินในราคาห้าร้อยตำลึงทอง ผู้ที่อยากรู้ข้อมูลสามารถส่งข้อความมาให้ข้าผ่านหนังสือปฐพีได้ ท่านนักบวชก็ช่วยผนึกเจ้าของชิ้นส่วนที่ไม่สนใจซื้อขายเหล่านั้นให้ข้า แน่นอนว่าข้าไม่ใช่คนที่สนใจวัตถุเงินทอง แต่ถ้าหากไม่มีใครมีข้อมูลที่มีค่าเท่ากันเล่าก็ ข้าสามารถอนุญาตให้พวกเจ้าใช้ทองคำและเงินขาวมาแลกเปลี่ยนได้’

เร็ว รีบใช้เงินทองมาซื้อข้อมูลของข้าเร็ว ข้าจะได้ไปซื้อบ้านหลังใหญ่ที่เมืองชั้นใน…สวี่ชีอันเปลี่ยนท่านั่งยอง จ้องมองไปที่ผิวกระจกอย่างคาดหวัง

ตอนนี้แม้แต่พงหญ้าเหม็นหึ่งก็หอมหวนขึ้นมาแล้ว

‘เก้า: พูดอย่างไม่ปิดบัง แม้ว่าข้าจะรู้วิชาผนึกหนังสือปฐพี แต่อาการบาดเจ็บของข้ายังไม่หายดี วันนั้นที่กลับไปชิงหนังสือปฐพีมาก็ได้ปลุกจิตดั้งเดิมของผู้นำเต๋าเข้า ทำให้หนังสือปฐพีถูกปิดผนึก ข้าก็ได้รับบาดเจ็บ ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุนี้ ข้าคงไม่มีสภาพย่ำแย่เช่นนี้หรอก’

….รอยยิ้มบนใบหน้าของสวี่ชีอันค่อยๆ หายไป

เขาเดาได้ไม่ผิด นักบวชเต๋าจินเหลียนยอมมอบชิ้นส่วนหนังสือปฐพีให้กับทุกคนในพรรคฟ้าดิน จะต้องมีวิธีควบคุมและเก็บกลับมาแน่

แต่เขาเดาจุดเริ่มต้นได้ ทว่ากลับเดาบทสรุปไม่ได้

ก็หมายความว่าในระยะใกล้นี้ไม่อาจเปิดใช้งานการคุยส่วนตัวได้น่ะสิ

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครพูดอะไรอยู่นาน หมายเลขหนึ่งก็ส่งข้อความเร่งด่วนมา

เขา (นาง) ไม่อยากเห็นการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ล้มเหลวโดยไม่ได้อะไร

‘หนึ่ง: ไม่อย่างนั้นทำเช่นนี้ เจ้าสามารถเปิดเผยความลับให้พวกเราได้ พวกเราสัญญาว่าจะให้ข้อมูลที่มีค่าเท่ากันเป็นการแลกเปลี่ยนและสามารถใช้เงินทองซื้อได้ด้วย’

‘สี่: แต่นี่ก็ยังมีช่องโหว่อยู่ อย่างเช่นใช้ความลับที่มีค่าเท่ากันมาแลกกับหมายเลขสาม หมายเลขสามไม่เสียเปรียบ แต่ความลับของข้ากลับถูกสมาชิกคนอื่นๆ ได้ไปโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ’

‘สอง: อีกอย่างพวกเราล้วนอยู่ห่างไกลกัน ต่อให้คิดจะซื้อความลับของเจ้า แล้วจะส่งเงินไปถึงมือเจ้าอย่างไร’

ทุกคนส่งข้อความกันอย่างกระตือรือร้น แสดงความคิดเห็นและความกังวลของตนออกมา

มุมปากของสวี่ชีอันกระตุก เหล่าสมาชิกพรรคฟ้าดินไม่ใช่แค่ให้ความสำคัญกับความลับที่เขามี แต่ยังมีเหตุผลที่ว่าพวกเขามองเห็นผลประโยชน์อยู่

ถ้าหากวิธีการของตนเป็นจริงได้ดั่งใจ เช่นนั้นพวกเขาก็สามารถใช้ข้อมูลที่พวกเขามีอยู่มาแลกกับค่าตอบแทนได้น่ะสิ

ได้ๆ มีผลประโยชน์จึงมีแรงจูงใจ นี่สิถึงจะเป็นท่าทางที่การประชุมทางธุรกิจพึงมี

‘สาม: ก่อนที่อาการบาดเจ็บของนักบวชเต๋าจินเหลียนจะหายดี ไม่สู้พวกเราทำเช่นนี้ ข้าสามารถบอกความลับให้กับพวกเจ้าได้ พวกเจ้าก็ใช้ข้อมูลที่มีค่าเท่ากันกับเงินทองมาแลกเปลี่ยน แต่สามารถลงบัญชีไว้ได้ ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าตอบแทนตอนนี้ แบบนี้ความกังวลของหมายเลขสี่ก็จะไม่มีแล้ว ส่วนความกังวลของหมายเลขสองนั้น ข้าจะคิดหาวิธีจัดการชั่วคราวก่อน อืม ข้ายังสามารถให้ติดเป็นหนี้ได้ ในอนาคตสามารถใช้ข้อมูลมูลค่าเท่ากันมาแลกเปลี่ยน’

‘เช่นนั้นแบบนี้ก็จะไม่มีปัญหาแล้ว…’ ทุกคนคิดในใจ

‘หนึ่ง: ข้าไม่มีความเห็นอื่น’

‘สอง: ข้าด้วย’

‘สี่: อืม เช่นนั้นก็ทำตามวิธีการของหมายเลขสามเถิด’

‘ห้า: ข้าไม่มีปัญหา’

‘หก: ข้าก็เช่นกัน’

‘สาม: เหตุใดหมายเลขเจ็ดกับหมายเลขแปดจึงไม่เคยพูดอะไรเลย ถ้าพวกเจ้าไม่ออกความเห็น การแลกเปลี่ยนนี้ก็ไม่อาจทำสำเร็จได้นะ’

นักบวชเต๋าจินเหลียนกระโดดออกมาอธิบาย ‘หมายเลขเจ็ดหายตัวไปตั้งแต่ปีที่แล้ว หมายเลขแปดต้องตายไปแล้วแน่ ก็ละเว้นพวกเขาทั้งคู่ไว้ชั่วคราวเถิด’

‘สี่: แต่หมายเลขเจ็ดยังมีชีวิตอยู่ ใช่หรือไม่’

‘สอง: ชิ้นส่วนหนังสือปฐพีของหมายเลขเจ็ดอยู่ที่ข้า…อืม เป็นเพราะเหตุผลบางอย่างเขาจึงแกล้งตายเพื่อหลบหนี ลี้ภัยไปแล้ว’

‘สาม: เช่นนั้นข้าก็ไม่มีปัญหา’

สวี่ชีอันหยุดนิ่งไปชั่วขณะแล้วส่งข้อความอีกครั้ง ‘ข้าได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือดังมาจากซังผอ!’

‘เสียงขอความช่วยเหลือดังมาจากทะเลสาบซังผอหรือ!’

ประโยคราวกับเมฆลอยลมโชยของหมายเลขสามคล้ายกับฟ้าผ่าลงมาในใจของทุกคนในพรรคฟ้าดินทันที

สถานที่พิสูจน์เต๋าของจักรพรรดิผู้ก่อตั้งต้าฟ่ง ในทะเลสาบที่ใช้สักการะกระบี่คุ้มเมืองอันล้ำค่ากลับมีเสียงขอความช่วยเหลือดังออกมาอย่างนั้นหรือ…

ใครกำลังข้อความช่วยเหลือ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง