ไม่มีใครเข้าใจการทำวันทยหัตถ์แบบชาติก่อนของสวี่ชีอัน แต่ซ่งถิงเฟิงกลับมองเห็นเจตนาสังหารจากฆ้องทองแดงบางคนซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรงของฆ้องเงินแซ่จู
“จับเขาไว้ อย่าให้เขาหนี” ซ่งถิงเฟิงตะโกนเสียงดังแล้วพุ่งเข้าไปเป็นคนแรก เขากดสวี่ชีอันเอาไว้ บิดสองมือไปด้านหลัง จากนั้นกวาดมองทุกคนรอบๆ
“ฆ้องทองแดงสวี่ชีอันโจมตีผู้บังคับบัญชา ไม่เคารพกฎหมาย จะต้องส่งตัวไปที่ทำการเพื่อตัดสินความ”
จูกว่างเสี้ยวเดินเข้ามาโดยไม่พูดอะไรสักคำ เขาปลดเชือกที่บริเวณเอวออกแล้วมัดสหายร่วมงานด้วยตัวเอง
เมื่อเห็นทั้งสองคนจับตัวสวี่ชีอันไว้แล้ว ฆ้องทองแดงที่อยู่รอบๆ ก็ถอนหายใจแผ่วเบา
สีหน้าของซ่งถิงเฟิงไม่น่ามอง เขาเอ่ยเสียงเบาอยู่ข้างหูจูกว่างเสี้ยว “เจ้าพาเขากลับไปที่ทำการ ข้าจะกลับไปก่อนก้าวหนึ่งแล้วรายงานเรื่องนี้ให้หัวหน้าฟัง จำให้ดี อย่าให้ลูกน้องของฆ้องเงินจูคุมตัว ต้องปกป้องเขา”
เมื่อเอ่ยเรื่องเหล่านี้จบ ซ่งถิงเฟิงก็กอบหมัดเอ่ย “คนผู้นี้กับข้าเป็นลูกน้องของฆ้องเงินหลี่เหมือนกัน เมื่อทำความผิดมหันต์เช่นนี้ พวกเราจึงมีส่วนรับผิดชอบ เราจะพาตัวเขากลับไปที่ทำการเอง ทุกท่านยึดทรัพย์ต่อเถิด”
“ได้!”
“ลำบากแล้ว”
ฆ้องทองแดงทุกคนเอ่ย
ในเมื่อซ่งถิงเฟิงรับแล้ว เช่นนั้นก็ต้องรับผิดชอบยามคนร้ายหนีไปในขณะเดียวกันด้วย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเขาแล้ว
อีกอย่าง ภารกิจการค้นบ้านยึดทรัพย์ก็ยังไม่เสร็จสิ้น ทุกคนยังอยากหาเงินกันอยู่
ซ่งถิงเฟิงและจูกว่างเสี้ยวพาสหายร่วมงานที่เล่นรัสเซียนรูเล็ตด้วยกันที่สำนักสังคีตเมื่อคืนมาสองสามคน แล้วคุมตัวสวี่ชีอันไปด้วยกัน
เหล่าซ่งโมโหแล้ว ระหว่างเดินไม่ใส่ใจสวี่ชีอัน ทั้งยังเตะเขาไปสองทีด้วย
เมื่อออกจากจวน เขาก็เดินทางไปก่อนหนึ่งก้าวอย่างรวดเร็ว
สวี่ชีอันถูกมัดตัวไว้ เขานั่งอยู่บนหลังม้าโดยมีฆ้องทองแดงสี่คนคุมตัวอยู่ และเดินทางไปยังที่ทำการ
ตอนนี้เอง ควันหลงจากพลังผ่านไปแล้ว สวี่ชีอันจึงได้เริ่มเป็นกังวลกับตัวเองขึ้นมา
กลัวตายก็กลัวตาย เพียงแต่เขาไม่เสียใจ สตรีบ้านขุนนางต้องโทษผู้นั้นไม่ได้มีความผิดด้วย เดิมทีพวกนางสามารถจากไปโดยไม่บุบสลายได้อยู่แล้ว
สวี่ชีอันปรับตัวเข้ากับกฎของยุคสมัยนี้มาตลอด พยายามทำให้ตนหลอมรวมเข้าไปให้ได้ วางตัวสำรวมคือคำพูดที่เขาเคยพูดกับสวี่ซินเหนียน
ขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่เขาพูดกับตัวเองด้วย
อย่างน้อยตอนนี้ตนก็เป็นทหารขั้นแปด จึงทำได้เพียงปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมเท่านั้น
จนกระทั่งเขาเห็นชะตาชีวิตที่เด็กคนนั้นต้องพบเจอ ศรัทธาที่ค่อยๆ ถูกแช่แข็งของตัวเขาก็พลันร้อนแรงสว่างไสวขึ้นมาทันใด เขาตามหาความตั้งใจแรกเริ่มของตนพบแล้ว
…
“ย่ะ ย่ะ ย่ะ…” ซ่งถิงเฟิงควบม้าทะยาน ด้านหนึ่งฟาดก้นม้า อีกด้านร้องลั่นว่า “หน่วยลาดตระเวนยามวิกาลทำงาน หลีกไป หลีกไปให้หมด”
คนเดินถนนพากันถอยหลบอย่างตื่นตระหนก เสียงด่าแช่งดังขึ้นเป็นทอดๆ
ซ่งถิงเฟิงเพิกเฉยต่อทุกสิ่ง เขาควบม้าอย่างรวดเร็วจนกลับมายังที่ทำการของหน่วยลาดตระเวนยามวิกาล จากนั้นก็รีบพุ่งเข้าไปในที่ทำการ แม้แต่เชือกม้าก็ยังไม่ได้โยนให้เจ้าหน้าที่พลเรือนผู้เฝ้าประตูด้วยซ้ำ
…
หลี่อวี้ชุนกำลังทำงานอยู่ในห้อง หูของเขาขยับ เงยหน้าขึ้น รออย่างเงียบๆ อยู่ชั่วครู่ ซ่งถิงเฟิงก็พุ่งเข้ามาในโถงชุนเฟิง
“เกิดเรื่องอะไร!” หลี่อวี้ชุนเอ่ยถาม
ฝีเท้ารีบร้อนกังวลเช่นนี้จะต้องมีเรื่องมารายงานแน่
“สวี่ชีอันเกือบจะฆ่าฆ้องเงินจู หัวหน้า รีบไปช่วยเขาเร็ว” ซ่งถิงเฟิงพูดรัวเร็วยิ่ง หลี่อวี้ชุนยังไม่ทันได้ถามกลับ เขาก็เอ่ยต่อ “จูกว่างเสี้ยวกับสหายร่วมงานคนอื่นกำลังคุมตัวเขากลับมาที่ทำการ อีกไม่นานฆ้องทองคำจูก็จะได้รับข่าวแล้ว ข้ากลัวว่าสวี่ชีอันจะไม่มีแม้แต่โอกาสจะกลับมายังที่ทำการขอรับ”
หลี่อวี้ชุนไม่ได้ถามต่อ เขาพลันผุดลุกขึ้นแล้วเดินนำซ่งถิงเฟิงพุ่งออกจากโถงชุนเฟิง
จุดหมายของเขาชัดเจนยิ่ง นั่นคือโถงเสินเชียงของหยางเยี่ยน
ผู้ที่สามารถจัดการกับฆ้องทองคำได้มีแค่ฆ้องทองคำเท่านั้น
ทั้งสองเดินกันรวดเร็ว หลี่อวี้ชุนเดินไปพูดไป “ที่แท้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
ซ่งถิงเฟิงหอบหายใจเล็กน้อยแล้วพูดรัว “คนแซ่จูจะหยามเกียรติสตรีบ้านขุนนางต้องโทษ สวี่หนิงเยี่ยนขัดขวาง ทั้งคู่ขัดแย้งกัน สวี่หนิงเยี่ยนใช้ดาบเดียวฟันจนฆ้องเงินจูบาดเจ็บ ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย…”
เมื่อซ่งถิงเฟิงพูดจบ เขาก็เสริมรายละเอียดเข้าไป ซึ่งรวมไปถึงเรื่องที่ฆ้องเงินจูจงใจเพ่งเล็งและหาเรื่องยุ่งยากให้กับสวี่ชีอันก่อนออกเดินทางด้วย
หยามเกียรติสตรีบ้านขุนนางต้องโทษเหรอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง