ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง นิยาย บท 107

สรุปบท บทที่ 107-1 ทำความดีชดเชยความผิด: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

สรุปเนื้อหา บทที่ 107-1 ทำความดีชดเชยความผิด – ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง โดย Internet

บท บทที่ 107-1 ทำความดีชดเชยความผิด ของ ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 107-1 ทำความดีชดเชยความผิด
ทันใดนั้น เหล่าองค์ชายองค์หญิงก็พากันหันไปมององค์หญิงใหญ่ องค์หญิงหลินอันที่กอดแขนของจักรพรรดิหยวนจิ่งเอาไว้ก็อดใจเหลือบมองมาไม่ได้

รัชทายาทปราดมององค์หญิงใหญ่ด้วยหางตา

ในใจของพวกเขามีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา ‘ฮว๋ายชิ่งอยากส่งเสริมคนของตัวเองอีกแล้ว’

มีสองวิธีที่องค์ชายและองค์หญิงจะขยับขยายอำนาจของตัวเองได้ หนึ่งคือสร้างสัมพันธ์กับขุนนางในราชสำนัก ให้พวกเขาเป็นผู้สนับสนุนตน และสองคือส่งเสริมคนสนิท

อย่างแรกนั้นเป็นเพราะความกระหายอยากจะกำกับควบคุมของจักรพรรดิหยวนจิ่งรุนแรงเกินไป ความคิดจิตใจขององค์จักรพรรดิเข้าขั้นสุดยอด องค์ชายองค์อื่นๆ รวมถึงองค์รัชทายาทต่างก็ไม่กล้าจัดงานสังสรรค์อย่างโจ่งแจ้ง

อย่างหลังจึงเป็นวิธีการที่พวกเขามักใช้กัน

แต่ก็ต้องดูเวลาโอกาสด้วย เหล่าองค์ชายองค์หญิงคิดว่าตอนนี้ไม่ใช่โอกาสที่ดี เพราะงานนี้ยากเกินไป

จักรพรรดิหยวนจิ่งหรี่ตาและแย้มยิ้ม “ฮว๋ายชิ่งเลือกผู้ใดหรือ”

องค์หญิงใหญ่ตอบ “ฆ้องทองแดงสวี่ชีอันที่หน่วยงานลาดตระเวนยามวิกาลเพคะ”

องค์หญิงรองนึกขึ้นได้ทันใด ร้อง “เอ๊ะ” ออกมา แล้วกล่าวด้วยใบหน้าไร้เดียงสา “ก็คือฆ้องทองแดงผู้นั้นที่ทำท่าทางชื่นชมยกย่องพี่หญิงเหลือแสนในวันบวงสรวงบรรพบุรุษน่ะเหรอ พี่สาวยังพูดไปยิ้มไปกับเขาด้วยนี่เพคะ”

คำพูดนี้แฝงยาพิษ!

ต่อหน้าจักรพรรดิหยวนจิ่ง องค์หญิงใหญ่ก็ถูกให้ร้ายโดยการลอบแทงเสียได้

ควรรู้ว่าองค์หญิงใหญ่นั้นยังไม่อภิเษกสมรส แม้ว่าช่วงหลายปีนี้จักรพรรดิหยวนจิ่งจะหมกมุ่นกับการฝึกบำเพ็ญเต๋า และไม่สนใจเรื่องการสมรสของลูกชายลูกสาวก็ตาม แต่การที่องค์หญิงใหญ่ผู้สง่างามทำตัวล่อภู่ล่อแมลงเช่นนี้มันเรื่องอะไรกัน

องค์หญิงใหญ่กล่าวต่อ “เสด็จพ่อน่าจะได้ยินเกี่ยวกับคนผู้นี้มาแล้ว เขาก็คือหลานชายของทหารกองดาบ หัวหน้ากองร้อยสวี่ผิงจื้อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเงินภาษีเพคะ”

ในที่สุดจักรพรรดิหยวนจิ่งเริ่มสนใจแล้ว “ข้าจำได้แล้ว มีคนผู้นี้อยู่ แล้วยังหลอมเงินปลอมออกมาได้อีก ถ้าหากไม่ใช่เพราะการจัดเก็บเงินปลอมไม่สะดวกต้องใช้เกลือเยอะมากละก็ ข้าก็จะให้ท่านโหราจารย์หลอมมันออกมาเยอะๆ อยู่เชียว”

วัตถุดิบของเงินปลอมคือเกลือ และเกลือก็แพงเหลือเกิน หลังจากได้ยินรายงานของโหรสำนักโหราจารย์แล้ว จักรพรรดิหยวนจิ่งก็ล้มเลิกความคิดจะผลิตเงินปลอมจำนวนมากลงไป

“ไม่ใช่เพียงเท่านี้เพคะ ตอนที่คนผู้นี้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในอำเภอฉางเล่อก็ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม ไขคดีฆาตกรรมสำเร็จหลายต่อหลายครั้ง” องค์หญิงใหญ่เติมเชื้อไฟ

จักรพรรดิหยวนจิ่งกล่าวยิ้มๆ “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าก็ไม่ต้องทำให้มากความหรอก”

องค์หญิงใหญ่ก้มหน้า ยินดีจากใจจริง “เสด็จพ่อทรงต้องตรวจสอบให้กระจ่าง เมื่อวานนี้ฆ้องทองแดงสวี่ชีอันผู้นั้นขัดแย้งกับฆ้องเงินในหน่วยงานผู้หนึ่งจนฟันเขาบาดเจ็บสาหัสด้วยดาบเดียว ด้วยความผิดฐานเบื้องล่างทำร้ายเบื้องบน ตามกฎหมายแล้วจะต้องถูกตัดเอวเพคะ ตอนนี้คนถูกขังอยู่ในคุก หม่อมฉันขอให้เสด็จพ่ออนุญาตให้เขาทำความดีชดใช้ความผิดเพคะ”

องค์หญิงใหญ่ไม่ได้อธิบายสาเหตุของความขัดแย้งและไม่ได้ขออภัยโทษให้สวี่ชีอัน เพราะนางรู้ว่าเรื่องเหล่านี้ไม่สำคัญ

เสด็จพ่อไม่สนใจหรอกว่าใครถูกใครผิด เสด็จพ่อสนใจเพียงใครมีประโยชน์ ใครสามารถทำงานได้ต่างหาก

และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ จักรพรรดิหยวนจิ่งถึงขั้นไม่ลังเลหรือคิดพิจารณาใดๆ เขาพยักหน้ากล่าว “เอาล่ะ ในเมื่อฮว๋ายชิ่งมาขอความเมตตาให้เขา ข้าก็จะอนุญาตให้เขาทำความดีชดเชยร่วมไขคดี ถ้าหากภายในครึ่งเดือนยังจับคนร้ายตัวจริงที่ทำลายวัดบรรพบุรุษไม่ได้ ข้าจะสังหารเขาทันที”

“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ”

บรรดาองค์ชายองค์หญิงพากันออกไปจากห้องทรงพระอักษรแล้วเข้าไปรวมกลุ่มกับทหารรักษาพระองค์ของแต่ละคน องค์หญิงใหญ่รับกระบี่ของตนมาจากมือของหัวหน้าทหารรักษาพระองค์

องค์หญิงรองเกาะแขนขององค์รัชทายาทผู้เป็นพี่ชายท้องเดียวกัน กระซิบว่า “โธ่ ถูกฮว๋ายชิ่งแย่งไปก่อนก้าวหนึ่งแล้ว”

องค์รัชทายาทส่ายหน้า “ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องดี คดีนี้แม้แต่เว่ยเยวียนก็ยังรู้สึกว่าตึงมือ ฮว๋ายชิ่งเพียงเดินหมากไปเรื่อยเท่านั้น ถ้าฆ้องทองแดงผู้นั้นไขคดีได้จริงก็เป็นเรื่องยินดีที่ไม่คาดคิด ถ้าไม่สำเร็จฮว๋ายชิ่งก็ไม่เสียหายอะไร เดิมก็ต้องถูกตัดเอวอยู่แล้ว”

“ฮึ ฮว๋ายชิ่งใจดำเสียจริง” องค์หญิงรองย่นจมูกน้อยแล้วเอ่ยถาม “เสด็จพี่ เกิดอะไรขึ้นที่วัดหย่งเจิ้นซานเหอกันแน่”

พูดพลางเดินพลาง องค์รัชทายาทมองไปรอบๆ แล้วกระซิบบอก “คดีนี้ไม่ธรรมดา ไม่อย่างนั้นเว่ยเยวียนคงไม่ถึงกับทำหน้าอมทุกข์หรอก ความลับในนั้นเกรงว่าจะมีเพียงเสด็จพ่อที่รู้”

แน่นอนว่า ในอนาคตข้าก็จะได้รู้เช่นกัน…เขาเสริมอีกหนึ่งประโยคในใจเงียบๆ ขณะเดียวกัน ในหัวก็มีใบหน้าไม่แปดเปื้อนฝุ่นธุลีของราชครูหญิงวาบขึ้นมา ในใจเต็มไปด้วยความแค้นเคือง

“หลินอัน!”

จู่ๆ องค์หญิงใหญ่ก็ตะโกนร้องเรียกสองพี่น้องเอาไว้

องค์รัชทายาทและองค์หญิงรองหันหน้ากลับไปมองพร้อมกัน องค์หญิงหลินอันตวาดกลับอย่างเดือดดาล “อะไร!”

แล้วถือโอกาสนี้กอดแขนของพี่ชายรัชทายาทแน่นๆ

องค์หญิงใหญ่ถือกระบี่เดินเข้ามา กล่าวว่า “ไม่มีอะไร…”

สองพี่น้องผ่อนคลายท่าทีพร้อมกัน แต่จู่ๆ กระบี่ก็ฟาดเข้าที่ก้นขององค์หญิงรอง

หนานกงเชี่ยนโหรวร้อง “เฮอะ” ออกมา หัวเราะเยาะหยางเยี่ยนว่าเป็นคนทึ่มที่ฝึกยุทธ์จนโง่เง่าแล้วค่อยเอ่ยว่า

“แล้วเจ้าคิดว่าเหตุใดเมื่อคืนพ่อบุญธรรมต้องพูดประโยคนั้นกับองค์หญิงใหญ่ด้วยเล่า”

หยางเยี่ยนครุ่นคิด แล้วมีปฏิกิริยาขึ้นมาเมื่อนึกได้

เมื่อวานองค์หญิงใหญ่ส่งคนมาตรวจสอบที่มาที่ไปเรื่องความขัดแย้งระหว่างสวี่ชีอันกับจูเฉิงจู้ คิดดูแล้วค่อนข้างจะใส่ใจเขามากทีเดียว

เมื่อคืนพ่อบุญธรรมจึงจงใจส่งสัญญาณลับให้กับองค์หญิงใหญ่ ด้วยความเข้าใจกันโดยปริยายของคนฉลาด องค์หญิงใหญ่จึงใช้โอกาสนี้แนะนำสวี่ชีอันให้กับฝ่าบาท ให้เขาทำคุณชดเชยความผิด

เมื่อเป็นเช่นนี้ สวี่ชีอันก็สามารถหลุดพ้นความผิดได้อย่างสมเหตุสมผล ใครก็พูดอะไรไม่ได้

หยางเยี่ยนเดาได้นานแล้วว่าพ่อบุญธรรมจะต้องช่วยสวี่ชีอัน การนำเขาไปคุมขังไว้ในคุกและตัดสินให้ตัดเอวภายในเจ็ดวันล้วนเป็นการทำเพื่อให้คนในหน่วยงานราชการได้เห็น

ยิ่งมีอำนาจมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่อาจทำตามใจได้เท่านั้น

เขาขมวดคิ้ว “แต่ถ้าหากอีกครึ่งเดือนสวี่ชีอันไม่อาจไขคดีได้ล่ะขอรับ”

เว่ยเยวียนยิ้ม “เช่นนั้นเขาก็มีแต่ต้องประหาร จากนั้นก็ส่งตัวเข้าสู่ยุทธภพ แล้วเจ้าสวี่ชีอันผู้นี้จากเบี้ยสว่างก็จะกลายเป็นเบี้ยลับ”

พ่อบุญธรรมกลับให้ความสำคัญกับเขาขนาดนี้…หนานกงเชี่ยนโหรวและหยางเยี่ยนมีสีหน้าจริงจังขึ้นมา

เว่ยเยวียนราวกับนึกอะไรขึ้นได้ เขาหรี่ตายิ้มกล่าวว่า “ส่งคนไปบอกหลี่อวี้ชุนว่าฝ่าบาทอนุญาตให้สวี่ชีอันทำคุณชดเชยความผิด จึงจะคืนตำแหน่งเดิมให้หลี่อวี้ชุน”

นิ่งไปพักหนึ่ง เว่ยเยวียนก็แสดงท่าทีเหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม “ทำให้ยิ่งใหญ่สักหน่อย”

ผู้คุมนำซ่งถิงเฟิงและจูกว่างเสี้ยวมาที่คุก สีหน้าพวกเขาเปี่ยมไปด้วยความยินดีที่จะได้พาสหายร่วมงานออกจากคุก

สวี่ชีอันในตอนนี้กำลังปลดทุกข์กระเพาะปัสสาวะที่ขยายตัวขึ้นอยู่ มือข้างหนึ่งยันกำแพง แต่จู่ๆ เขาก็ถูกสหายร่วมงานและผู้คุมที่เข้ามาทำให้ตกใจจนสะดุ้ง มือน้อยสั่นระริก…

…………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง