หน้าต่างของรถม้าที่ปักอักษร ‘ชิ่ง’ เปิดออก มือขาวผ่องดุจหยกเลิกม่านขึ้น สวี่ชีอันมองเห็นคางเรียวขาวดุจหิมะขององค์หญิงใหญ่ ริมฝีปากเล็กแดงระเรื่อขยับขึ้น “ตามมา”
ในใจเขาปลื้มปีติ ขณะที่กำลังจะควบม้าเข้าไปใกล้ หางตาก็เหลือบเห็นหน้าต่างรถม้าคันที่สี่ถูกผลักออก ใบหน้าสวยอวบอิ่ม งามหยาดเยิ้มน่าหลงใหลชะโงกออกมา
นางจ้องมองสวี่ชีอัน สายตาทั้งสองสบประสาน มุมปากของนางยกขึ้น จากนั้นก็ปิดหน้าต่างลง
นั่นหรือองค์หญิงรอง โอ้…พระธิดาขององค์จักรพรรดิช่างงดงามเสียจริง สวี่ชีอันถอนสายตากลับ แล้วเปรียบเทียบองค์หญิงทั้งสองอยู่ในใจเงียบๆ
ถ้าให้คิดถึงความงามของสาวๆ อันหลากหลาย อาจคิดจนนอนไม่หลับ แต่ถ้าดันทุรังคิดจะวัดระดับความงามมันช่างเปล่าประโยชน์
เพราะทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับรสนิยม
แม้ผู้ชายมากมายจะบอกว่าชอบพี่สาวถุงน่องดำบ้างล่ะ สาวน้อยในชุดเครื่องแบบบ้างล่ะ…รสนิยมกว้างขวาง ภราดรภาพไร้ขอบเขต แต่ถึงอย่างไรต่อให้เป็นพวกบ้ากามเช่นนี้ พวกเขาก็นิยมชมชอบในความงามเช่นเดียวกัน
สวี่ชีอันไม่ได้ประเมินว่าองค์หญิงใหญ่กับองค์หญิงรองผู้ใดงดงามกว่า เฉพาะจากความประทับใจที่สององค์หญิงมอบให้ องค์หญิงใหญ่เป็นประเภทเยือกเย็นราวกับดอกบัวบนภูเขาหิมะ
รู้ทั้งรู้ว่านางสูงส่งสง่างาม ละมุนละไมสุภาพเรียบร้อย แต่ดันอดคิดลวนลามนางไม่ได้ และมองดูท่าทีเอียงอายและขวยเขินของนาง
ส่วนองค์หญิงรอง สวี่ชีอันไม่ได้พบปะบ่อยนัก ทว่าจากที่สบตาเมื่อครู่ สวี่ชีอันก็วาดภาพในหัวให้นางอยู่ในกางเกงขาสั้นจู๋ห่อหุ้มบั้นท้ายอันงอนงามและกลมกลึง เสื้อกล้ามสีขาวพันธนาการทรวงอกอันสะโอดสะอง ขาเรียวขาวดุจหิมะสวมรองเท้าผ้าใบสีขาว โยกย้ายอย่างเต็มที่อยู่บนฟลอร์เต้นรำ พร้อมกับผมลอนเป็นคลื่นที่ปลิวสยาย
หากอยู่ในยุคของเขา คงเป็นราชินีแห่งไนต์คลับได้สบายๆ
ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น หญิงสาวที่รักในการเที่ยวไนต์คลับมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ง่าย ทว่าอย่างไรเสียองค์หญิงรองก็เป็นคนยุคโบราณ สวี่ชีอันจึงไม่กล้ายืนยันในจุดนี้
…
เหล่าองค์ชายและองค์หญิงมีพระประสงค์จะออกไปร่วมเสวยกระยาหารและทำกิจกรรมข้างนอก โดยเลือกสถานที่เป็นทะเลสาบขนาดเล็กทัศนียภาพงดงามที่อยู่ในเขตพระราชฐาน
ริมทะเลสาบปลูกต้นสนซีดาร์และต้นสนมังกรเขียวชอุ่มตลอดปี รวมถึงทุ่งดอกไม้ที่ค่อยๆ โรยราไปทีละดอกๆ ในตอนนี้ คาดว่าทัศนียภาพจะต้องงดงามยิ่งขึ้นในฤดูใบไม้ผลิปีถัดไป
วันนี้แสงตะวันอบอุ่น ไร้สายลมพัดโบก ช่างเป็นวันที่เหมาะแก่การอาบแดดเหลือเกิน
ริมทะเลสาบมีแท่นสี่เหลี่ยมอยู่ เหล่าข้าหลวงช่วยกันขนย้ายโต๊ะยาว จุดกำยานไม้จันทน์ อาหารเลิศรสอันประณีตถูกนำออกมาจากกล่องใส่อาหารที่วางซ้อนกัน
สวี่ชีอันผูกม้าไว้กับต้นไม้ แล้วตามหลังองค์หญิงใหญ่โดยไม่ปริปากพูด โดยมีนางกำนัลสองคนคอยยกชายกระโปรงให้นาง
มวยผมขององค์หญิงใหญ่ถูกรวบอย่างเรียบง่ายดูสบาย ปักด้วยปิ่นทองระย้าอันล้ำค่า ปลายพู่ไหมสีทองประดับด้วยไข่มุกกลมวาว ยามเยื้องย่างพู่ระย้าจะแกว่งไกวไปมา ช่างงดงามเสียจริง
ทั้งคู่ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กัน ทว่าสวี่ชีอันก็เดินตามหลังนางทำหน้าที่เป็นทหารรักษาพระองค์ไปตามปกติ
ส่วนองค์ชายและองค์หญิงองค์อื่นก็เสด็จลงมาจากรถม้าอันโอ่อ่าเช่นกัน สวี่ชีอันกวาดสายตามอง รูปโฉมไม่ด้อยกว่ากันเลย องค์รัชทายาทสวมชุดพิธีการสีขาวปักลายงูหลาม มัดผมด้วยรัดเกล้าสีทอง รูปงามยิ่งนัก
อันที่จริงรูปลักษณ์ของเหล่าองค์ชายล้วนไม่ชวนให้สนใจ รวมถึงองค์รัชทายาทด้วย ถึงจะหล่อเหลาเพียงใดก็ไม่ได้รูปงามเช่นสวี่ฉือจิ้วเจ้าน้องชายผู้นั้น
ในบรรดาองค์หญิงทั้งสี่ องค์หญิงใหญ่และองค์หญิงรองรูปโฉมงดงาม โดดเด่นที่สุด
ยามประทับบนพระที่นั่ง ไม่รู้ว่าองค์หญิงรองตั้งใจหรือเผลอไปแย่งพระที่นั่งที่ควรจะเป็นองค์หญิงใหญ่กันแน่
ไม่มีผู้ใดตำหนิ ราวกับว่าเหล่าองค์ชายและองค์หญิงต่างชินชา แสร้งทำเมินเฉยไปเสีย
ส่วนองค์หญิงใหญ่ก็ไม่ได้ประทับในพระที่นั่งขององค์หญิงรอง แต่เลือกประทับห่างจากนางไปหนึ่งช่วงโต๊ะ
ความสัมพันธ์ขององค์หญิงใหญ่กับองค์หญิงรองไม่ลงรอยกัน? สวี่ชีอันจดจำรายละเอียดนี้ไว้
องค์รัชทายาทกวาดพระเนตรมองเหล่าพี่น้องที่ล้อมรอบ พร้อมตรัส “พวกเราไม่ได้ออกมาเที่ยวเล่นกันระยะหนึ่งแล้วนะ”
เหล่าองค์ชายต่างคล้อยตาม เหล่าองค์หญิงก็อมยิ้มบางๆ
สายตาของสวี่ชีอันทอดมองทะเลสาบ เขามองเงาดำที่แฉลบผ่านอยู่ในทะเลสาบขนาดเล็ก ไม่รู้ว่าเลี้ยงสิ่งใดเอาไว้
องค์รัชทายาทรับบทเป็นสีจิว[1]บนโต๊ะอาหารทำหน้าที่เปิดประเด็นสนทนาและเป็นพิธีกรงานเลี้ยง
การละเล่นในวงสุราในงานเลี้ยงทั้งหมดทั้งมวลก็มีอยู่ไม่กี่อย่าง แต่การละเล่นชั้นสูงนั้นมีน้อยยิ่งกว่า คนที่นั่งอยู่ที่นี่ล้วนเป็นผู้มีสกุลรุนชาติ จะให้มาเล่นทายนิ้วโยนเต๋าก็ดูไม่เข้าที จึงต้องเล่นเพียงการละเล่นชั้นสูง
การละเล่นชั้นสูงมีหลายรูปแบบ นอกเหนือจากการละเล่นชั้นสูงเช่นการแต่งกลอนสด อักษรประพันธ์กลอนก็ถือเป็นการละเล่นที่ค่อนข้างยากในบรรดาการละเล่นชั้นสูงเช่นกัน
องค์รัชทายาทเปิดหัวข้อด้วยคำว่า ‘ธารา’ คำแรกก็ต้องขึ้นต้นด้วยธารา
ในบทกลอนขององค์ชายรองคำที่สองก็ต้องเป็นคำว่า ‘ธารา’ เป็นต้น
ณ ที่แห่งนี้มีองค์ชายมากกว่าองค์หญิง เมื่อสิ้นสุดรอบแรก องค์ชายเจ็ดคิดจนหัวแทบแตกก็นึกถึงกลอนที่ลงท้ายด้วยคำว่า ‘ธารา’ ไม่ออก จึงถูกลงโทษให้ดื่มเหล้าหนึ่งจอก
องค์ชายแปดสิ้นพระชนม์เมื่อไม่กี่ปีก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง