บทที่ 201-1 เฮ้อ ผู้หญิง
ซ่งถิงเฟิงซื้อลูกผีผาเชื่อมมาสามผลจากพ่อค้าหาบเร่ข้างถนน เนื้อค่อนข้างแข็ง จึงต้องหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ สี่เหลี่ยม ลักษณะคล้ายคลึงกับยาอมแก้เจ็บคอในชาติก่อนของสวี่ชีอัน
ในเมืองหลวงเสาะหาลูกอมเนื้อแข็งแบบนี้กินไม่ได้เลย มันทั้งชุ่มคอทั้งหวาน และเป็นของขึ้นชื่อของในอวิ๋นโจวด้วย
‘บ้าเอ๊ย แม้แต่ลูกอมก็ยังแข็งกว่าข้า’ …ซ่งถิงเฟิงคิดพลางมองรอบๆ แล้วกล่าวอย่างทอดถอนใจ “อยู่ในอวิ๋นโจวเหมือนกัน แต่เมืองไป๋ตี้กับที่อื่นๆ กลับแตกต่างกัน ดูทิวทัศน์พวกนี้สิ เกือบคิดว่าอวิ๋นโจวเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองไปจริงๆ แล้ว”
ตลอดการเดินทาง พวกเขาผ่านอำเภอหลายแห่ง และได้เห็นท้องนารกร้างผืนใหญ่กับหมู่บ้านทรุดโทรมไม่มีคนอาศัยอยู่ จึงตระหนักได้ถึงความรกร้างเงียบเหงาของอวิ๋นโจวอย่างชัดเจน
ประชาชนทุกข์ยาก!
“เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีพื้นที่อุดมสมบูรณ์ถึงเพียงนี้ ทำนาโดยไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารยังได้ หรืออาศัยภูเขาหาเลี้ยงชีพสามชั่วคนก็ยังดี ทั้งยังอยู่ใกล้กับทะเลเปิดที่มีเกลืออุดมสมบูรณ์อีก…” จูกว่างเสี้ยวผู้เงียบขรึมพูดน้อยเอ่ยออกมาเป็นกระบุงอย่างหาได้ยาก เขากล่าวด้วยอารมณ์หดหู่
“แต่เหตุใดจึงตกอยู่ในสภาพนี้ได้”
ซ่งถิงเฟิงและสวี่ชีอันสะท้อนใจ คนแรกเอ่ยเสียงเบา “มาอวิ๋นโจวครั้งนี้ก็เพื่อกำจัดเนื้อร้ายเรื้อรัง และกำจัดผู้บัญชาการที่สมรู้ร่วมคิดกับกองโจร จากนั้นเรื่องโจรในอวิ๋นโจวคงจะดีขึ้นไม่น้อย หนิงเยี่ยนพูดถูก เราไม่ควรหมกมุ่นอยู่กับสำนักสังคีต ลูกผู้ชายควรทำบางอย่างเพื่อประเทศชาติและประชาชน…ให้ตายเถอะ นั่นนางฟ้า!”
สวี่ชีอันและจูกว่างเสี้ยวหันหน้ามองตาม ดวงตาสองคู่ก็พลันสว่างไสวเป็นประกาย เพราะที่ถนนด้านหน้ามีสตรีงามล่มแคว้นล่มเมืองผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น
นางสวมชุดกระโปรงประณีตงดงาม จัดแต่งทรงผมที่กำลังนิยม เข็มขัดไหมเส้นเล็กประดับไพลินเกี่ยวอยู่บนเอวเล็ก
ผิวเนียนละเอียดเป็นสีขาวราวหิมะ ดวงตาดำขลับเงางาม ริมฝีปากสีแดงสดใส จมูกโด่งตั้งรับกับใบหน้าเรียวที่งามเลิศเป็นหนึ่งไม่มีสอง
สวยแจ่ม…หัวของสวี่ชีอันมีคำนี้แวบขึ้นมา
คนงามหยดย้อยที่มีใบหน้ารูปแตงและดวงตากลมโต เป็นผู้หญิงประเภทที่สวี่ชีอันชื่นชอบเป็นพิเศษ ยิ่งถ้ามีเสน่ห์แบบนางจิ้งจอกก็ยิ่งดี สตรีงามใบหน้ารูปแตงตามฉบับมาตรฐานที่สุดที่เขาเคยพบมีอยู่สามคนคือ สวี่หลิงเยวี่ย ฮว๋ายชิ่ง และหมายเลขสอง
แต่บุคลิกของพวกนางสามคนจะเป็นแบบสาวมัธยมปลายสะสวย สาวแกร่งผู้เย็นชาสูงส่ง และตำรวจสาวผู้องอาจกล้าหาญ
มีเพียงสตรีงามที่ได้พบโดยบังเอิญนางนี้เท่านั้นที่มีใบหน้ารูปแตงเปี่ยมเสน่ห์แบบปีศาจจิ้งจอก แค่มองแวบแรกก็ถูกใจ นี่แหละนางฟ้าในอุดมคติของเขา
สมบูรณ์แบบ นี่มันคนงามในฝันของข้าชัดๆ…สวี่ชีอันใจสั่นไหว คิดแค่ว่าในที่สุดก็ได้พบกับความรักในโลกที่แสนโดดเดี่ยวนี่สักที แม่น้ำรั่วสามพันลี้ เพียงหนึ่งจอกก็ดับกระหาย[1] ฝูเซียงเอย ฮว๋ายชิ่งเอย หลินอันเอย ราชครูอะไรพวกนั้น ล้วนเป็นเพียงหมอกควันผ่านตาทั้งหมด
หืม?
เขาตระหนักได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ แม้ว่าสตรีที่อยู่ไกลๆ ผู้นั้นจะงดงาม แต่ก็ไม่มีทางกดทับหรือเอาชนะปีศาจสาวงามเหล่านั้นได้แค่เพราะหน้าตาพ้องต้องตรงกันกับสาวในอุดมคติของเขาหรอก…เขาจับสังเกตสถานการณ์ที่ไม่สมเหตุสมผลนี้ได้อย่างว่องไว ทำให้สวี่ชีอันค่อยๆ คืนสติ
ต่อจากนั้น นิ้วหัวแม่มือข้างซ้ายพลันร้อนขึ้นเล็กน้อย แหวนปานจื่อ[2]หยกที่ฆราวาสจื่อหยางมอบให้แผ่กระแสอุ่นร้อนออกมาหล่อหลอมจิตวิญญาณของเขา
เมื่อมองไปที่สตรีงามล่มบ้านล่มเมืองอีกครั้ง นัยน์ตาของสวี่ชีอันก็หดเกร็ง ที่เห็นนั่นไม่ใช่ความงามล้ำเลิศน่าตกตะลึงแล้ว แต่เป็นหุ่นกระดาษที่ทำขึ้นด้วยฝีมือประณีต
หุ่นกระดาษจัดแต่งทรงผมที่กำลังนิยม สวมชุดกระโปรงงดงาม แต่งเนื้อแต่งตัวเหมือนกับสาวงามเปี่ยมเสน่ห์แบบนางจิ้งจอกไม่มีผิด
ทว่าใบหน้างามประณีตกลับซีดเผือด แววตาไร้แวว ไร้ซึ่งกลิ่นอายแห่งชีวิต
‘เฮือก’
พบเจอเรื่องน่าพิศวงตอนกลางวันแสกๆ แบบนี้ สวี่ชีอันจึงสูดหายใจเข้าลึก
นี่ไม่ใช่มนุษย์ มันคือผี…ไฉ่เวยเคยกล่าวว่าภูตผีปีศาจสามารถมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ได้นานพอดู บางตนก็ผูกพันกับสถานที่ เช่นผีสาวในบ่อน้ำที่บ้านใหม่ของข้า…บ้างก็เป็นยอดฝีมือที่สิ้นชีพแต่วิญญาณยังคงเป็นอมตะ ทว่าก็ยังมีเวลาจำกัดอยู่ดี ไม่ได้ดำรงอยู่ตลอดไป…
สวี่ชีอันคาดเดาได้ในทันที ผีสาวตนนี้ถูกคงบงการอยู่ เบื้องหลังมีคนเลี้ยงผีอยู่คนหนึ่ง
ผีสาวตนนี้ร้ายกาจมาก แม้แต่ข้าก็ยังลุ่มหลงจนได้…ถ้าไม่ใช่เพราะลัทธิขงจื๊อที่มีความเที่ยงตรงยิ่งใหญ่ไพศาลจนมารปีศาจไม่กล้ำกรายล่ะก็ ครั้งนี้ข้าอาจจะถูกล่มเรือเข้าจริงก็ได้…สวี่ชีอันถอนสายตากลับมาเงียบๆ เหลือบมองสองเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างกาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง