ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง นิยาย บท 202

บทที่ 202-2 สอบปากคำ

ข้อบกพร่องเยอะเหลือเกิน สวี่ชีอันไม่รู้จะชี้จุดพลาดอย่างไรเลยทีเดียว อย่างแรก ผีสาวตนนี้ได้รับคำสั่งมาจากหมายเลขสองจริงๆ ตอนแรกที่พบกันก็นึกสงสัยอยู่บ้าง แต่หลังจากนางเริ่มสอบถามถึงข้อมูลในคดีโจวหมินที่โรงน้ำชา สวี่ชีอันก็แน่ใจว่านางเป็นคนของหมายเลขสอง

หมายเลขสองมีแรงจูงใจที่แข็งแกร่งมากจริงๆ เมื่อคืนเพิ่งพูดว่าจะล่อลวง วันนี้ก็เริ่มลงมือทันที ไม่แปลกที่เป็นทหารหญิง…ผีสาวตนนี้ก็คือ ‘ปีศาจสาว’ อย่างนั้นหรือ

ที่แท้ ‘ปีศาจสาว’ ก็หมายถึงผีสาว?

อย่างที่สอง หมายเลขสองเป็นเทพธิดาของนิกายสวรรค์? อืม แต่ก็มีเหตุผลดี เพราะในบรรดาสายการฝึกตนใหญ่ๆ พวกที่เชี่ยวชาญการเลี้ยงผีและควบคุมผีแบบนี้ นอกจากสำนักพ่อมดแล้วก็มีลัทธิเต๋า

เขายังคงคิดว่ามีโชค หวังว่านี่จะเป็นผีสาวที่สำนักพ่อมดส่งมา แต่โลกนี้มักจะไม่เป็นดั่งใจหวังสักเท่าไหร่

อย่างสุดท้าย ความสามารถในการเลี้ยงผีของหมายเลขสองดูอ่อนด้อยเกินไปหรือเปล่า นี่คือการเลี้ยงผีรึ เลี้ยงนกสองหัวไม่ใช่หรือไง เขายังไม่ทันได้ประเคนไม้หนักนางก็สารภาพออกมาหมดแล้ว

“เจ้าช่างมีจิตใจจงรักภักดีเหลือเกิน” สวี่ชีอันเอ่ยเสียดสี

“บ่าวเป็นคนอาภัพ ตายตั้งแต่อายุยังน้อยแล้วมาเป็นผี ย่อมต้องเสียดายชีวิตสิเจ้าคะ” ซูซูถอนหายใจ ดวงตาฉลาดเฉลียวหมุนกลอกไปมาแล้วกล่าวเสริม

“ตอนที่บ่าวตายยังเป็นสาวพรหมจรรย์ด้วยนะ”

แล้วยังไงล่ะ? เพราะยังไม่เคยลิ้มรสบุรุษ ดังนั้นจึงมีปราณอาฆาตแผ่ซ่าน แล้วกลายเป็น ‘ปีศาจสาว’เช่นนั้นหรือ สวี่ชีอันถามต่อไป “เหตุใดเทพธิดาของนิกายสวรรค์จึงกลายเป็นจอมยุทธหญิงนกนางแอ่นเหินไปได้ แล้วเหตุใดจึงมาปราบโจรที่อวิ๋นโจว”

“นิกายสวรรค์ฝึกฝนเต๋าสวรรค์ หากต้องการไปสู่ระดับขั้นลึกล้ำสูงสุดก็ต้องลืมเลือนความรู้สึก ดั่งคำที่ว่าอยากออกจากโลกก็ต้องเข้าสู่โลก เพื่อให้มองทะลุโลกแห่งฝุ่นธุลีแดงได้ปรุโปร่ง นายท่านจึงลงจากเขามาท่องเที่ยวตามคำสั่งอาจารย์เจ้าค่ะ”

จากนั้นก็กลายเป็นจอมยุทธหญิงนกนางแอ่นเหินผู้ผดุงความยุติธรรม ที่ไม่ว่าใครพูดถึงก็ต้องยกนิ้วโป้งพูดว่า ‘ยอดเยี่ยม’ ให้ ไม่รู้ว่าหลังจากพวกผู้อาวุโสในนิกายสวรรค์รู้เรื่องแล้วจะกระอักเลือดเพราะความโมโหหรือไม่

“…คิก!” ครั้งนี้สวี่ชีอันไม่อดกลั้นอีก เขาหัวเราะออกมาเลย

เขารู้สึกว่าตัวตนของหมายเลขสองมีแต่ข้อบกพร่องเต็มไปหมด

ผีสาวจ้องเขาเขม็ง “ท่านยังมีอะไรอยากถามอีกหรือไม่ ถามจบแล้วก็รีบปล่อยข้าน้อยเถิดเจ้าค่ะ”

“โจวหมินตายด้วยน้ำมือของหยางชวนหนานใช่หรือไม่”

“บ่าวไม่ทราบเจ้าค่ะ”

“หลี่เมี่ยวเจินเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่”

“เรื่องนี้บ่าวรู้ ย่อมไม่เกี่ยวข้องแน่นอนเจ้าค่ะ บ่าวอยู่ข้างกายนายท่านตลอด”

คำพูดของซูซูไม่มีหลักฐาน แต่สวี่ชีอันเลือกที่จะเชื่อ จากการประเมินที่ได้มาจากกลุ่มสนทนาในหนังสือปฐพี หมายเลขสองเป็นคนเที่ยงธรรม บุคลิกนิสัยควรค่าแก่การเชื่อถือ

แต่ว่าผู้บัญชาการหยางชวนหนานนั้นดีหรือร้าย ยังต้องพิสูจน์กันต่อ

“ขั้นการฝึกตนของหลี่เมี่ยวเจินล่ะ”

“ขั้นห้าเจ้าค่ะ”

ขั้นห้าของลัทธิเต๋าคืออะไรนะ สวี่ชีอันพยักหน้า “นางส่งเจ้ามายั่วยวนข้า แล้วจากนั้นคิดจะทำอะไร อืม ข้าหมายถึงเรื่องแบบนั้นน่ะ จะใช้ภาพมายามาล่อลวงข้าหรือ”

ซูซูพลันเผยสีหน้าแบบที่บุรุษล้วนรู้ดีออกมาแล้วหัวเราะคิกคัก “คุณชายก็ กายเนื้อของบ่าวสูญสลายไปนานแล้ว ไม่อาจใกล้ชิดแนบเนื้อกับท่านได้ แต่สามารถสิงร่างของสตรีได้นะเจ้าคะ หากท่านเห็นสตรีคนใดบนถนน เพียงออกคำสั่ง บ่าวก็จะเข้าไปสิงร่างนางได้ ฮิๆๆ”

“ข้าไม่ใช่คนแบบนั้น” สวี่ชีอันกล่าวเสียงเบา “อีกอย่าง นางเป็นอะไรกับหยางชวนหนาน”

“หลายเดือนก่อน ผู้บัญชาการกับนายท่านเคยไปปราบโจรด้วยกัน จึงมีมิตรภาพที่ดีต่อกันอย่างยิ่งเจ้าค่ะ”

สวี่ชีอันซึ่งไม่ใช่มือใหม่ในแวดวงขุนนางอีกต่อไป เขาคาดเดาได้ทันทีว่าเจตนาที่แท้จริงในการไปปราบโจรของหยางชวนหนานก็คือ…ทำเพื่อรับมือกับการตรวจสอบข้าราชสำนัก

“คำถามสุดท้าย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง