ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง นิยาย บท 228

บทที่ 228-1 ค่าบำเหน็จ (2)

ภายในห้องน้ำชาที่เงียบสงบ พระอาทิตย์ยามบ่ายสาดส่องผ่านเข้ามาในหอสังเกตการณ์ที่กว้างขวางและสว่างไสว

เว่ยเยวียนอ่านเอกสารราชการตามปกติ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขายังคงเป็นขันทีใหญ่ผู้ที่มีใบหน้าเย็นชา

ดวงอาทิตย์ค่อยๆ เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตก พระอาทิตย์ยามเย็นให้แสงสว่างสีส้มแดง ก้อนเมฆทางทิศตะวันตกสะท้อนแสงดั่งไฟ

เอกสารราชการที่อยู่ในมือเว่ยเยวียน แม้แต่หนึ่งหน้าก็ไม่เปิดอ่าน เขานั่งเหี่ยวเฉามาสองชั่วยามแล้ว

ขณะปิดเอกสารพลางนวดคลึงระหว่างคิ้ว เว่ยเยวียนตะโกนเรียก “เชี่ยนโหรว”

“ท่านพ่อบุญธรรม…” เมื่อหนานกงเชี่ยนโหรวได้ยินเสียง ใบหน้าหล่อเหลาชวนมองก็เต็มไปด้วยความกังวล

“รวมพลฆ้องทองคำทั้งหมดที่อยู่ในที่ทำการปกครองมา” เว่ยเยวียนกล่าว

หนานกงเชี่ยนโหรวถอยออกไป ไม่นาน ก็พาฆ้องทองคำหกคนกลับมา

เวลานี้ เว่ยเยวียนเอามือไพล่หลังยืนอยู่ตรงกลางห้องน้ำชา จ้องมองไปที่เหล่าฆ้องทองคำอย่างเงียบๆ

“เว่ยกง” พวกฆ้องทองคำคารวะ

เว่ยเยวียนพยักหน้าเบาๆ เอ่ยอย่างเนิบช้า “ถ่ายทอดคำสั่งไปยังบุตรในเงามืดทุกคนที่อยู่ด้านนอก ให้แทรกซึมไปยังเมืองต่างๆ ในแถบตงเป่ย ก่อนเริ่มต้นคิมหันตฤดู ข้าต้องการแผนผังการป้องกันชายแดนทางฝั่งซีหนานของสำนักพ่อมด ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด”

ฆ้องทองคำจางไคไท่ตกตะลึง “เว่ยกง…”

ฆ้องทองคำคนอื่นๆ ต่างก็ตกตะลึงเช่นกัน

เว่ยเยวียนเอ่ยอย่างเรียบเฉย “และหลังการเก็บเกี่ยวในช่วงสารทฤดู ข้าจะเข้าโจมตีสำนักพ่อมดเสีย”

เป็นไปตามคาด…ฆ้องทองคำหลายคนสังเกตเว่ยเยวียนอย่างระมัดระวัง ในที่สุดก็ค้นพบความผิดปกติบางอย่างของขันทีใหญ่ท่านนี้ ในอดีตเว่ยกงมักจะมีท่าทางเหนือคนที่ฉลาดเป็นกรดและสามารถจัดการกับทุกสิ่งได้ มีอารมณ์ที่สงบนิ่งเหมาะสมกับตำแหน่ง

แต่เว่ยกงตอนนี้ไม่เหมือนกับตัวเขาในอดีตแล้ว ภายในดวงตาที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชน ได้เผาไหม้ด้วยคมดาบและจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้

จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้และการตัดสินใจที่เด็ดขาด เฉกเช่นเดียวกันกับช่วงการสู้รบที่ด่านซานไห่ในปีนั้น

ฆ้องทองคำก้มศีรษะพร้อมกัน ตอบกลับตามระเบียบ “น้อมรับคำสั่ง”

ฆ้องทองคำหลายคนขอตัวก่อนเลี่ยงออกไปจากหอเฮ่าชี่ ฆ้องทองคำท่านหนึ่งขมวดคิ้วเอ่ย “เกรงว่าราชสำนักจะไม่ทำสงครามด้วยวิธีที่ง่ายเป็นแน่”

หนานกงเชี่ยนโหรวหัวเราะเสียงเย็น ราชสำนักไม่ทำสงครามด้วยวิธีที่ง่าย แต่สำนักพ่อมดทำได้ เมืองทางตงเป่ยก็ทำได้ แค่เริ่มส่งข้อมูลลับออกไปโดยผ่านเส้นทางลับ ก็ไม่ต้องกลัวว่าสำนักพ่อมดจะไม่ติดกับ

เมื่อพรมแดนถูกรุกราน ฝ่าบาทและองค์ชายในท้องพระโรงต้องไม่สามารถเมินเฉยได้แน่

ตามวิธีการของท่านพ่อบุญธรรม คิดจะต่อสู้กับสำนักพ่อมด ขึ้นอยู่กับว่าเขาเต็มใจจะสู้หรือไม่ ไม่ใช่ว่าฝ่าบาทต้องการสู้หรือไม่

จางไคไท่หันไปทางหนานกงเชี่ยนโหรว ขมวดคิ้วเอ่ย “วันนี้ท้องพระโรงเกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่หรือไม่ เว่ยกงค่อนข้างผิดปกติ”

หนานกงเชี่ยนโหรวพยักหน้า “วันนี้มีจดหมายด่วนที่จางสิงอิงจากอวิ๋นโจวส่งมา เหมือนตามที่ท่านพ่อบุญธรรมคิดไว้ คิดไม่ถึงว่าพวกเขาได้ก่อกบฏที่อวิ๋นโจวแล้ว”

เขาหยุดชะงักไปสักพัก กวาดสายตามองไปที่กลุ่มฆ้องทองคำ เอ่ยเสียงเคร่งขรึม “สวี่ชีอันได้เสียชีวิตในหน้าที่แล้ว”

กลุ่มฆ้องทองคำเงยหน้าขึ้นทันที พลางมองไปทางหอเฮ่าชี่

เวลานี้ สวี่ชีอันยังคงล่องเรืออยู่บนผิวน้ำ

หยางเชียนฮ่วนไม่ได้ลักพาตัวเหลียงโหย่วผิง?!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง