บทที่ 248 ระดมสมอง (2)
“เมื่อวานถูกลอบสังหารหรือ” เว่ยเยวียนดันกาน้ำชาไปหาสวี่ชีอัน แสดงท่าทางให้เขารินชา
สวี่ชีอันที่เพิ่งกินอิ่มไปเมื่อครู่ก็รินชาลงถ้วย แต่ไม่ได้ดื่ม เพียงพยักหน้าเอ่ยว่า “ผู้บงการเบื้องหลังเกี่ยวข้องกับคดีพระสนมฝู และอยู่ในวังขอรับ”
“เจ้าสงสัยฮองเฮา?”
ประโยคนี้ของเว่ยเยวียนกล่าวได้ตรงเกินไปแล้ว สวี่ชีอันไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรในทันที และเหลือบมองฮว๋ายชิ่งอย่างระมัดระวัง
ฮว๋ายชิ่งยังไม่ได้มองมาที่เขา ท่าทางมีเรื่องหนักใจ
ตอนนี้ท่าทางขององค์หญิงใหญ่เหมือนกับหญิงสาวที่ต้องเผชิญหน้ากับใบหย่าอย่างไรอย่างนั้น…สวี่ชีอันพึมพำในใจ
“วันนี้ฝ่าบาทเอ่ยเรื่องปลดฮองเฮาในการประชุม สาเหตุเป็นเพราะมือสังหารตัวจริงหลังม่านในคดีพระสนมฝู ก็คือฮองเฮา” เว่ยเยวียนกล่าว
“???”
สวี่ชีอันมองเขานิ่งงัน ในสมองผุดความคิดหนึ่งขึ้นมา ข้าหลับไปนานแค่ไหนเนี่ย
เหตุใดพอตื่นขึ้นมากลับมีความรู้เหมือนว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างนี้ ราวกับตนนอนหลับไปศตวรรษหนึ่ง
คดีพระสนมฝูเขาเป็นคนสืบด้วยตัวเอง ทุกย่างก้าวทุกเบาะแสเขาก็เป็นคนวิเคราะห์และคลำหามาเอง เขายังไม่กล้ารับรองเลยว่าฮองเฮาเป็นมือสังหาร แล้วจักรพรรดิหยวนจิ่งเอาอะไรมาพูด
เขาคิดว่าตัวเองเป็นโคนันหรือตี๋เหรินเจี๋ยรึไง?
แต่ต่อจากนั้น ประโยคจากองค์หญิงฮว๋ายชิ่งก็ทำให้สวี่ชีอันตะลึงอีกครั้ง
“เสด็จแม่ยอมรับแล้ว”
นี่พูดเรื่องบ้าอะไรกัน?
สวี่ชีอันโบกมือ “ขออภัยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมต้องการคิดสักครู่…”
เขาคิดอยู่นานแล้วเอ่ยถาม “ฝ่าบาทต้องการปลดฮองเฮา สาเหตุเพราะมือสังหารเบื้องหลังคดีพระสนมฝูคือฮองเฮา และฮองเฮาก็ทรงยอมรับจริงๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ?”
องค์ชายสี่พยักหน้า
“เป็นเพราะถูกบังคับหรือเปล่า” สวี่ชีอันคาดเดา
“ไม่มีทาง” เว่ยเยวียนส่ายหน้า แววตาแฝงความโชกโชนมองมาที่เขาแล้วเอ่ยเสียงต่ำ
“คดีพระสนมฝูเจ้าเป็นคนตรวจสอบเอง เบาะแสและรายละเอียดใดๆ ล้วนไม่มีใครเข้าใจดีไปกว่าเจ้า เจ้าลองคิดให้ดีๆ ในนั้นมีเรื่องน่าสงสัยอยู่หรือไม่ เช่นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลนัก วันนี้องค์หญิงกับองค์ชายเสด็จมาที่นี่ นอกจากจะปรึกษาเรื่องปลดฮองเฮากับข้าแล้ว ก็มีเรื่องมาขอให้เจ้าช่วยด้วย
“ฝ่าบาทยังไม่ได้เรียกป้ายทองของเจ้ากลับไป ขุนนางต้องการเวลาเพื่อยืนยันเรื่องนี้ เจ้ายังมีเวลาไปสืบคดีอยู่”
ฮว๋ายชิ่งและองค์ชายสี่มองไปที่สวี่ชีอันพร้อมกัน
องค์ชายสี่กุมมือคำนับ “รบกวนใต้เท้าสวี่แล้ว”
สวี่ชีอันไม่สนใจเขา สายตาหันไปมองที่ฮว๋ายชิ่ง
องค์หญิงผู้สูงส่งงามสง่าดุจบัวหิมะผู้นี้มองมาที่เขาด้วยแววตาราวกับสายน้ำยามใบไม้ร่วง “แผลเป็นอย่างไรบ้าง”
นางไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องคดี แต่เป็นห่วงบาดแผลของสวี่ชีอัน
ดูท่าทางสารภาพอย่างจริงใจของเจ้าแล้ว เช่นนั้นไม่เลิกขาดก็แล้วกัน…สวี่ชีอันเปล่งเสียง ‘อืม’ ออกมา “ขอบคุณองค์หญิงที่เป็นห่วง กระหม่อมไม่เป็นอะไรพ่ะย่ะค่ะ”
ผ่านไปพักหนึ่งก็เอ่ยต่อ “ในคดีของพระสนมฝู ฮองเฮามีแรงจูงใจและมีเหตุผลในการใส่ร้ายองค์รัชทายาทจริงๆ และจากเบาะแสที่กระหม่อมสืบมาได้เมื่อวาน ผู้บงการเบื้องหลังก็ชี้ไปที่ฮองเฮาจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ”
องค์ชายสี่รีบแทรกทันที “เป็นไปไม่ได้ เสด็จแม่ไม่ทำเรื่องเช่นนี้”
“องค์ชายอย่าเพิ่งรีบร้อน กระหม่อมยังพูดไม่จบ” สวี่ชีอันมองฮว๋ายชิ่งแล้วเอ่ยถาม “ฝ่าบาทมีหลักฐานอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ”
ฮว๋ายชิ่งส่ายหน้า “ไม่มี เสด็จแม่เป็นผู้รับผิดเอง”
สวี่ชีอันขมวดคิ้ว “นี่ก็แปลกแล้ว หากฝ่าบาทไม่มีหลักฐาน แล้วเหตุใดฮองเฮาถึงต้องรับผิด ในเมื่อฮองเฮารับผิดแล้ว เหตุใดพระนางถึงต้องส่งคนมาสังหารข้าด้วย”
ความขัดแย้งเกิดขึ้นแล้ว
องค์ชายสี่ถอนหายใจ “เพราะไม่รู้ ก็เลยมาหาเจ้านี่ไง ใต้เท้าสวี่ เจ้าไขคดีได้มากมาย หากเมืองหลวงยังมีคนที่สามารถสืบหาความจริงได้ภายในเวลาสั้นๆ แล้วคืนความบริสุทธิ์ให้เสด็จแม่ได้ เช่นนั้นคนผู้นั้นก็คงมีแต่เจ้าแล้ว”
สวี่ชีอันดื่มชาลงอึกแรกลงไปหลังจากเข้ามาในห้อง จากนั้นค่อยๆ เอ่ยว่า “ตอนที่กระหม่อมเพิ่งจะรับคดีมา ก็คิดว่าคดีพระสนมฝูคงมีความเป็นไปได้อยู่อย่างสอง หนึ่ง องค์รัชทายาททรงเมาสุราแล้วประพฤติมิชอบจริงๆ แล้วเป็นสาเหตุให้พระสนมฝูตาย สอง มีคนใส่ร้ายองค์รัชทายาท เพื่อหวังยึดตำแหน่งเจ้าแห่งวังบูรพา
“หลังจากตรวจสอบตำหนักชิงฟงของพระสนมฝูแล้ว กระหม่อมก็คาดเดาได้แล้วว่าองค์รัชทายาทถูกใส่ร้ายจริงๆ เช่นนั้นคดีนี้ก็อยู่ในความเป็นไปได้อย่างที่สอง มีใครใส่ร้ายองค์รัชทายาท เมื่อคิดต่อจากตรงนี้ เบาะแสต่างๆ ก็ล้วนชี้ไปที่ฮองเฮา ขอกล่าวตามตรง เมื่อสักครู่กระหม่อมก็สงสัยฮองเฮาอยู่บ้าง สงสัยว่าพระนางจะส่งคนมาลอบสังหารข้า
“แต่เมื่อรู้ว่าฮองเฮายอมรับว่าตนเป็นฆาตกรหลังม่านตัวจริง กระหม่อมก็เกิดความสงสัยในคดีนี้ขึ้นอีก เช่นนั้นเป้าหมายของผู้บงการเบื้องหลังก็ไม่ใช่แค่ใส่ร้ายองค์รัชทายาทธรรมดาๆ แล้ว เป็นการยิงทีเดียวได้นกสองตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง