ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง นิยาย บท 253

บทที่ 253 เปิดเผยตรงไปตรงมา (1)

ในพริบตาเดียว สวี่ชีอันยากจะปกปิดใบหน้าตกตะลึงและสีหน้าประหลาดใจได้

ผลที่วิชามองปราณตรวจจับได้ทำให้ภายในใจเขาพลันตื่นตัว หลากหลายความคิดกระทบเข้าด้วยกัน ดอกไม้ไฟสาดกระเซ็นทั่วทิศ

เขาพลันนึกถึงความเป็นไปได้สองประการ ประการแรก จริงๆ แล้วหลางเอ๋อร์ไม่ชอบกินขนมโก๋ สาเหตุที่แสดงออกว่าชอบกินก็เพราะอยากให้เฉินกุ้ยเฟยสนใจ

ประการที่สอง นางกำลังโกหก วิชามองปราณไม่ได้จำแนกออกมา ซึ่งนี่หมายความว่านางมีอาวุธเวทมนตร์ที่ใช้กำบังวิชามองปราณอยู่บนตัว

ความเป็นไปได้อย่างแรกมิอาจวินิจฉัยได้ในทันที

ความเป็นไปได้อย่างที่สอง สมกับเป็นเหตุผลที่ทำให้สวี่ชีอันขนลุกขนพอง อะดรีนาลีนหลั่งพลุ่งพล่าน

สาวใช้ของตำหนักจิ่งซิ่วมีอาวุธเวทมนตร์ที่กำบังวิชามองปราณได้อย่างไร

นางพกอาวุธเวทมนตร์ที่ใช้กำบังวิชามองปราณไว้เพราะอะไรกัน

เว้นเสียแต่ว่าไม่กี่วันมานี้นางต้องใช้อาวุธเวทมนตร์ปิดฟ้าข้ามทะเล[1] เว้นเสียแต่นางรู้ว่าตนจะเจอกับการสอบสวนในเร็ววัน

ไม่กี่วันมานี้นางทำอะไรไปบ้าง

นางเคยไปที่ห้องโอสถหลวง!

ถึงขนาดยอมให้ต้นหลี่ตายแทนต้นเถา[2] อันที่จริงหลางเอ๋อร์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็น ‘คนนอก’ ปลอมตัวมางั้นหรือ…สวี่ชีอันคิดว่ามีความเป็นไปได้น้อย หากเป็นหน้ากากหนังมนุษย์ก็หลุดรอดสายตาเขาไปไม่ได้

หากเป็นวิชา ‘จำแลง’ ของผู้แข็งแกร่งระดับสูงก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ ที่นี่คือพระราชวัง ผู้แข็งแกร่งระดับสูงลักลอบเข้ามาไม่ได้อยู่แล้ว

“ใต้เท้าสวี่?”

หลางเอ๋อร์ขมวดคิ้ว หรี่ตามองสวี่ชีอันที่สูญเสียการควบคุมทางอารมณ์ไป

มิอาจตัดสินใจบุ่มบ่ามได้ นางอาจจะแค่ไม่ชอบกินขนมโก๋ จึงพูดความในใจออกมาโดยไม่รู้ตัว

สวี่ชีอันคิดในใจพลางสงบสติอารมณ์อย่างไม่ลนลาน แต่ให้สีหน้ายังคง ‘ความย่ำแย่’ อยู่ระดับหนึ่ง จ้องมองหลางเอ๋อร์เขม็ง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเล็กน้อย

“แม้พี่หลางเอ๋อร์จะเป็นคนใกล้ชิดของเฉินกุ้ยเฟย ทว่าก็นิสัยฉุนเฉียวเกินไปหน่อย ข้าเคยหลั่งเลือดเพื่อราชสำนัก เคยสร้างความดีความชอบอันใหญ่ยิ่ง ท่าทีของพี่หลางเอ๋อร์โอหังเช่นนี้ ไม่พอใจอะไรข้าหรือ”

หลางเอ๋อร์ชำเลืองมองเขาแล้วเอ่ยอย่างแผ่วเบา “ใต้เท้าสวี่คิดมากแล้ว ข้าน้อยมิได้โอหัง แล้วก็ไม่ได้ไม่พอใจใต้เท้าสวี่ด้วย”

ชะงักงันก่อนจะคารวะพร้อมเอ่ย “ข้าน้อยยังต้องรีบกลับไปรับใช้กุ้ยเฟย”

พูดจบก็ข้ามธรณีประตูจากไป

สวี่ชีอันมองแผ่นหลังของสาวใช้จากไป หัวใจก็จมลงสู่ก้นบึ้ง

ในการตอบสนองของวิชามองปราณเมื่อครู่ หลางเอ๋อร์ยังคงไม่ได้โกหก

การซักถามประโยคสุดท้าย สวี่ชีอันกำลังกลบเกลื่อนท่าทางไร้สติของตนอยู่ แล้วก็ขุดหลุมรอให้หลางเอ๋อร์กระโดดลงไป

อันดับแรก หลางเอ๋อร์ไม่สบอารมณ์กับการสอบสวนรอบนี้นัก ความรู้สึกที่มีต่อเขาก็เฉยชาด้วยเช่นกัน อยากปลีกตัวออกไปให้เร็วที่สุด…สวี่ชีอันยืนยันจุดนี้ได้

คนปกติเวลาเผชิญหน้ากับคำถามว่า ‘เจ้าเกลียดข้าหรือไม่’ จากมารยาทจะตอบขอไปทีโดยไม่รู้ตัว ไม่ยอมรับ ดังนั้นนี่ก็เป็นการโกหก

แต่จากการตอบสนองของวิชามองปราณ อารมณ์ของหลางเอ๋อร์มั่นคงผิดปกติ ตรวจจับไม่พบคำโกหก

ด้วยเหตุนี้ก็แทบจะยืนยันได้ว่าบนตัวของสาวใช้ผู้นี้มีอาวุธเวทมนตร์กำบังวิชามองปราณ อีกด้านก็ยืนยันความร้อนตัวของนาง จงใจใช้วิธีการนี้หาทางหลบเลี่ยงการทรมานให้ยอมรับสารภาพ

เมื่อเป็นเช่นนี้ความจริงที่พอคิดๆ ดูแล้วก็พลันน่าสะพรึงได้เผยออกมาแล้ว

คนที่อยู่เบื้องหลังคือนาง!

เฉินกุ้ยเฟย?!

บัดนี้รายละเอียดและเบาะแสนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาในสมองของสวี่ชีอัน ฟีโรโมนประหนึ่งน้ำทะเลสาบที่เดือดพล่าน

ข้าคิดไม่ถึงเลยจริงๆ…รีบออกไปจากที่นี่ รายงานการค้นพบของข้ากับเว่ยกงและฮว๋ายชิ่ง…สวี่ชีอันไม่อยากจะอยู่ที่ตำหนักจิ่งซิ่วต่อไปแล้ว

ความรู้สึกนี้คล้ายกับเข้าไปในโรงเตี๊ยมในหุบเขารกร้างแห่งหนึ่งในค่ำคืนอันมืดมิด แต่กลับพบว่านี่เป็นบ้านผีสิง พนักงานต้อนรับเป็นปีศาจที่ลูกตาห้อยอยู่บนหน้าและหนอนชอนไชเนื้อเน่าเต็มใบหน้า

อาหารแต่ละจานบนโต๊ะก็มีทั้งหนอน อึ เนื้อเน่า และหัวคน…

สวี่ชีอันก็เป็นมนุษย์ที่พบความลับของบ้านผีสิงโดยบังเอิญ ขนลุกขนพอง แค่อยากแสร้งทำเป็นว่าตนไม่รู้อะไรทั้งนั้น จากนั้นก็ฉวยโอกาสรีบออกมาก่อนที่ปีศาจจะรู้ตัว

“ข้าถามเสร็จแล้ว ขันทีน้อย พวกเรากลับกันเถอะ”

สวี่ชีอันสูดหายใจลึก แล้วจากไปอย่างสุขุมเยือกเย็น

“ขอรับ!”

ขันทีน้อยไม่ได้สงสัยเขา ขานรับอย่างผ่อนคลายยิ่ง แล้วข้ามธรณีประตูโถงด้านข้างตามหลังสวี่ชีอันไป

ช้าก่อน!

จังหวะก้าวของสวี่ชีอันชะงักในทันใด หากเฉินกุ้ยเฟยเป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง เช่นนั้นทุกสิ่งที่ฮองเฮาประสบนั้นก็เป็นค่าตอบแทนที่เฉินกุ้ยเฟยเกือบจะต้องจ่าย นั่นคือการปลดตำแหน่งและส่งเข้าตำหนักเย็น

องค์รัชทายาทถูกใส่ร้ายหรือไม่ มิอาจรู้แน่ชัด…องค์รัชทายาทเป็นอย่างไร สวี่ชีอันไม่ได้สนใจ สิ่งที่เขาสนใจคือ หลินอันจะทำอย่างไร

วันนี้นางมีความสุขยิ่ง เพราะคดีกำลังจะคลี่คลาย องค์รัชทายาทพ้นความผิดเป็นเรื่องในไม่ช้าก็เร็ว

ทว่าต่อจากนั้นข้าอาจจะผลักเสด็จแม่ของนางลงในเหวลึกสุดจะหยั่งถึงด้วยมือของข้าเอง หลังจากนางรู้เรื่องนี้คงจะเกลียดข้าไปเลย

เมื่อเทียบกับฮว๋ายชิ่ง หญิงสาวเฉกเช่นหลินอันจะทนรับความกระทบกระเทือนจิตใจได้แย่กว่า เสด็จแม่ถูกส่งเข้าตำหนักเย็น อาจถึงขั้นได้รับผ้าขาว[3]และเหล้าพิษก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น

ไม่ต้องเอ่ยถึงความรักของจักรพรรดิ แค่ในเรื่องตำแหน่ง กุ้ยเฟยก็ห่างไกลกับฮองเฮามากโขแล้ว

ฮองเฮาเป็นพระอัครมเหสีขององค์จักรพรรดิ บางทีฆ่าสนมไปสักคนคงไม่ถูกประทานความตาย ทว่ากุ้ยเฟยล่ะ กุ้ยเฟยจะได้รับสิทธิเช่นนี้หรือ

“ใต้เท้าสวี่ ใต้เท้าสวี่ขอรับ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง