บทที่ 525 ขับไล่ภูตผีปีศาจ (2)
บนทุ่งกว้างที่แห้งแล้ง ชายหนุ่มสวมชุดคลุมสีเขียว มองไปทางน่าหลันเทียนลู่ด้วยความอบอุ่น กล่าว “วันนี้เจ้าจะต้องตายอย่างมิต้องสงสัย”
ตงฟางหว่านหรงพาลูกศิษย์ของตำหนักมังกรตงไห่ รวมทั้งภิกษุของสำนักพุทธ กรูเข้ามาอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นเช่นนี้ นางก็โล่งใจ พลางกล่าวราวกับยกภูเขาออกจากอก “พวกเจ้ารอข้าอยู่ที่นี่”
ตงฟางหว่านหรงเข้าใกล้น่าหลันเทียนลู่ที่สวมชุดคลุมพ่อมดตัวยาว ทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด พร้อมกับพึมพำอยู่ในปาก หลังจากนั้นไม่นาน ร่างกายของน่าหลันเทียนลู่ก็สั่นสะท้าน ดวงตามองไปทางตงฟางหว่านหรงด้วยความว่างเปล่า
“เจ้า…”
“ท่านอาจารย์ ข้าเอง หรงเอ๋อร์”
น่าหลันเทียนลู่เงียบไปสักพัก พลางกล่าวอย่างละเมอก็มิปาน “เติบโต…ขนาดนี้เชียว…”
หลังจากได้ยิน ตงฟางหว่านหรงมีทั้งความสุขและความเศร้าปะปนกัน ช่วงเกิดยุทธการด่านซานไห่ นางเพิ่งอายุสิบสามปี เป็นช่วงวัยที่ไร้เดียงสา
“ท่านอาจารย์ หลังจากท่านเสียไป วิญญาณถูกกักอยู่ในเจดีย์ของสำนักพุทธ ตอนนี้ผ่านมายี่สิบปีแล้ว”
ตงฟางหว่านหรงกล่าวอย่างรวดเร็ว “ศิษย์มาช่วยท่านแล้ว…”
นางกล่าวถึง ‘ข้อตกลง’ ระหว่างสำนักพ่อมดและสำนักพุทธอีกรอบ กล่าว “ตอนนี้ท่านต้องให้พวกเราออกจากดินแดนแห่งความฝันของท่าน รอให้คนของสำนักพุทธไต่ขึ้นไปขั้นที่สาม สื่อสาร และเข้าควบคุมเจดีย์ชั่วคราว จึงจะสามารถปลดผนึกให้ท่านได้”
“ยี่สิบปีแล้ว…ตอนนี้ภายนอกเป็นเช่นไรบ้าง…เว่ยเยวียน เว่ยเยวียนเป็นเช่นไรบ้าง…”
น่าหลันเทียนลู่ถามอย่างละเมอก็มิปาน
เขาในตอนนี้ ออกจากสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น
เว่ยเยวียนเสียชีวิตแล้ว…ตงฟางหว่านหรงไม่กล้ากล่าวความจริงออกมา เกรงว่าจะกระตุ้นจนปลุกอาจารย์ให้ตื่น เมื่อเขาตื่นขึ้นมา ดินแดนแห่งความฝันก็จะแตกสลายอย่างแน่นอน
เช่นนั้น ชาวยุทธภพของเหลยโจวก็จะสามารถหลุดพ้นความลำบากได้
“เรื่องนี้กล่าวแล้วเรื่องมันยาว ท่านอาจารย์ รอให้ท่านหลุดพ้นความลำบาก ข้าค่อยบอกท่านอีกครั้ง…”
ตงฟางหว่านหรงยังไม่ทันได้กล่าวอะไร ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้อง
เมื่อหันกลับมาอย่างตะลึงงัน กลับเป็นลูกศิษย์ท่านหนึ่งของตำหนักมังกรตงไห่ แหงนคอสู่ฟ้ากู่ร้องเสียงยาวโดยไม่มีคำเตือน
ตงฟางหว่านชิงลงมืออย่างเด็ดขาด หยุดยั้งลูกศิษย์คนนั้นไว้ ด้วยท่าทางโกรธจนขมวดคิ้ว “เจ้ากำลังทำอะไร?”
ลูกศิษย์ท่านนั้นมีสีหน้างงงวย
ฉานซือที่สงบนิ่งกล่าวเสียงเคร่งขรึม “เขาถูกกระทบจิตใจจากใครบางคน ตลอดเส้นทางเขาไม่มีปัญหาใดๆ แต่หลังจากที่พวกเราค้นพบจิตสำนึกของน่าหลันเทียนลู่ เขาก็เป่าปากส่งสัญญาณ แจ้งคนที่ควบคุมเขาให้ทราบทันที”
“ข้า ข้า…ไม่ทราบอะไรทั้งนั้น”
ลูกศิษย์ท่านนั้นทั้งตกใจทั้งโมโหทั้งรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม
ตงฟางหว่านชิงขมวดคิ้วแน่น เมื่อมองเข้าไปในส่วนลึกของหมอกหนาทึบ ทันใดนั้นหมอกควันก็สั่นไหว มีเงาร่างหนึ่งบินออกมาอย่างรวดเร็ว ยิงธนูไปทางตงฟางหว่านชิง
ภายหลังสองแขนแนบเข้าหากัน ติดกับหน้าอก
‘ปัง!’
สองเท้าของตงฟางหว่านชิงไถลไปข้างหลัง
ฉานซือที่สงบนนิ่งสองมือประสานเข้าหากัน พลางท่องบทสวดมนต์ “หยุดการตัดชีวิต”
ร่างที่จู่โจมนั้นแข็งทื่อในทันที ไม่สามารถลงมือโจมตีตงฟางหว่านชิงได้ คนคนนี้ผิวคล้ำ หน้าตาดุร้าย เป็นแม่ทัพหลี่เส่าอวิ๋นอย่างแน่นอน
ในเวลานี้ จอมยุทธ์ภิกษุจิ้งหยวนก้าวเท้าออก ต่อยไปที่หน้าอกของหลี่เส่าอวิ๋น จนเขากระเด็นลอยออกไปไอรีนโนเวล
ด้านหลังทุกคน หมอกหนาสั่นไหวอีกครั้ง มีเงาอีกสองร่างพุ่งเข้ามา พร้อมกับเป้าหมายที่ชัดเจน ‘ตงฟางหว่านชิง’
ถังหยวนอู่ทั้งหลบหลีกทั้งพุ่งชน พยายามต้านทานลูกศิษย์ตำหนักมังกรตงไห่ที่กระจัดกระจาย เพื่อเคลียร์เส้นทางให้หยวนอี้
การจับตงฟางหว่านชิง เป็นแผนการของสวี่ชีอัน
ในโลกดินแดนแห่งความฝัน จอมยุทธ์เป็นฝ่ายถูกกระทำมากเกินไป หากต้องการควบคุมพ่อมดแห่งความฝันอย่างตงฟางหว่านหรงให้ได้ผล คือปลอยให้นางพาตนเองและคนอื่นๆ ออกจากดินแดนแห่งความฝัน วิธีที่ได้ผลที่สุดคือจับตงฟางหว่านชิงเป็นตัวประกัน
หลี่หลิงซู่เคยบอกว่า พี่น้องตระกูลตงฟางพึ่งพาอาศัยกันดำรงชีวิตตั้งแต่เด็ก มีความรู้สึกที่แน่นแฟ้น หากขู่เข็ญเอาชีวิตน้องสาว เกรงว่าตงฟางหว่านหรงคงไม่ยินยอม
เหิงอินอันดับหนึ่งสิบมือประสานกัน ใช้ศีลจำกัดความเคลื่อนไหวของหยวนอี้และถังหยวนอู่ ศีลเดิมของฉานซือพึ่งพาอาศัยการขยายของจิตเดิม มีความเกี่ยวข้องกับร่างกายไม่มากนัก
สวี่ชีอันฉวยโอกาสที่สำนักพุทธและลูกศิษย์ถูกหลี่เส่าอวิ๋นและอีกสามคนควบคุมไว้ พาหลิวอวิ๋นออกมาจากหมอกหนา และเข้าโจมตีตงฟางหว่านชิง
“หว่านชิง มานี่!”
ตงฟางหว่านหรงตะโกนเรียก
“เจ้าสื่อสารกับเจ้าแห่งวัสสานน่าหลันต่อไป ข้ายังสกัดกั้นไหว” ตงฟางหว่านชิงกล่าวอย่างราบเรียบ
“ท่านอาจารย์ รีบพาพวกข้าออกไป” ตงฟางหว่านหรงกล่าวเร่งรีบ
นางคิดไม่ถึงเลยว่าจะต้องฆ่าชาวยุทธภพเหลยโจวในดินแดนแห่งความฝัน ยิ่งทางนี้มีความเคลื่อนไหวมากเท่าไร ก็จะยิ่งดึงดูดชาวยุทธภพเหลยโจวมากเท่านั้น
พลังแรงเกือบสองร้อยกว่าคน ไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขาได้
“แต่ว่าข้า…ยังต่อสู้ชนะเว่ยเยวียนไม่ได้เลย…” น่าหลันเทียนลู่บ่นพึมพำ
…
หลิวอวิ๋นเหมือนกับมีดที่แหลมคม เจาะเข้าไปในกลุ่มภิกษุสำนักพุทธ สกัดกั้นกำลังเสริมระลอกแรกที่เข้ามาขัดขวางสวี่ชีอัน
ตบะขั้นห้าที่เปลี่ยนแปลงของนาง จิตเดิมแข็งแกร่ง การจัดการกับกลุ่มภิกษุที่หยาบคาย แม้จะกินแรง แต่ก็ต่อสู้กันไปมาไอรีนโนเวล
เนื่องจากสวี่ชีอันมีความสามารถที่พิเศษ จึงมีหน้าที่ต่อสู้กับจิตเดิมของตงฟางหว่านชิง
เขาไม่กล่าวใดๆ เมื่อเข้าใกล้ตงฟางหว่านชิง เขาก็ส่งเสียงร้องออกมา ใช้ความสามารถของซินกู่สั่นไหวจิตเดิมของตงฟางหว่านชิง ก่อให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะในระยะสั้น
ฝ่ามือตบไปยังกลางศีรษะของสาวงาม
ฝ่ามือนี้ตบลงไป เขาสามารถกลืนกินพลังวิญญาณของอีกฝ่ายอย่างน้อยได้สามสิบส่วน
พลังวิญญาณคล้ายกับพละกำลัง ตราบใดที่ไม่ถูกกลืนกินจนหมด จิตเดิมก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายถึงแก่นแท้ได้ อย่างมากสุดจิตเดิมจะอ่อนล้า และการรักษาจำเป็นต้องใช้เวลานาน
“ฮึ!”
หลังจากตงฟางหว่านชิงหลุดพ้นจากอาการวิงเวียนศีรษะ ก็ตอบสนองด้วยกระบวนท่าที่สอดคล้องกับจอมยุทธ์ กำหมัด และต่อยไปทางฝ่ามือของสวี่ชีอัน
เมื่อกำปั้นชนกัน แต่ไม่เกิดเสียงดังออกมา ช่วงเวลาต่อมา ตงฟางหว่านชิงถูกครอบครองด้วยความเจ็บปวดราวกับวิญญาณฉีกขาด นางเดินเซไปข้างหลัง มองแขนของตนเองด้วยความไม่อยากเชื่อ
แขนเล็กทั้งท่อนหายไป ตั้งแต่ข้อศอกลงมาเหลือแต่ความว่างเปล่า
แต่สวี่ชีอันล้มจนกระเด็นออกไป ราวกับสายว่าวขาด
‘จิตเดิมไม่แข็งแกร่ง แม้จะอ่อนแอ แต่สามารถกลืนกินพลังวิญญาณได้’…ตงฟางหว่านชิงคาดการณ์ คิดว่าพลังวิญญาณของตนเองจะเสียหายอย่างมาก แต่ก่อนหน้านั้น สามารถเอาชนะผู้ชายที่มีจิตใจอ่อนแอคนนี้ให้ขวัญหนีดีฝ่อได้
นางแปลงกายเป็นลำแสงและตามออกไป
…
ตงฟางหว่านชิงสื่อสารกับน่าหลันเทียนลู่อย่างอดทน เสริมด้วยความสามารถของพ่อมดแห่งความฝัน สร้างการชี้นำทางที่แน่นอน
“ท่านอาจารย์ หลังยุทธการด่านซานไห่สิ้นสุดลง สำนักพ่อมดยังอยู่ นี่เป็นเพียงหนึ่งในสงครามที่ท่านเป็นผู้สั่งการ ภายภาคหน้ายังมีสงครามอีกมากมายรอท่านอยู่
“ยุทธการด่านซานไห่…แพ้แล้ว?”
“ใช่ แพ้แล้ว”
“ต้าฟ่งชนะสงครามในครั้งนี้ เหมือนกับบรรยากาศที่รุนแรงยิ่งขึ้น สำนักพ่อมดไม่มีโอกาสอีกแล้ว..”
“ไม่ บัดนี้ต้าฟ่งกำลังอ่อนแอ ชีพจรมังกรกระเจิดกระเจิง เป็นช่วงเวลาที่เปราะบางที่สุด ท่านอาจารย์ สำนักพ่อมดต้องการท่าน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง