บทที่ 609 มหาราชครูผู้เสียศักดิ์ศรียามชรา (1)
กระจกเทพฮุ่นเทียนเอ่ยว่า
“ความสามารถของข้าเจ้าก็ได้เห็นมาแล้ว ข้าสามารถดูดซับจิตเดิมของเป้าหมายได้โดยไม่รู้ตัว และครอบงำกายหยาบผ่านจิตเดิม ทำให้ตัวเป้าหมายกลายเป็นหุ่นเชิด
“ในปีนั้นท่านประมุขผู้ยิ่งใหญ่กำราบปีศาจมากมายอย่างอยู่หมัดโดยพึ่งพาข้า ทว่าตอนนี้ ข้าดูดซับได้เพียงวิญญาณฟ้า จึงทำให้กายหยาบตายลงอย่างช้าๆ
“ฮึ่ม หากตัวเป้าหมายเป็นสิ่งมีชีวิตธรรมดาหรือตบะต่ำตื้นอย่างมาก ข้าก็สามารถครอบงำอีกฝ่ายได้เช่นกัน และไม่จำเป็นต้องดูดซับวิญญาณฟ้าซึ่งๆ หน้า เจ้าถึงขั้นสามารถบังคับควบคุมภายในระยะหมื่นลี้”
บังคับควบคุมภายในระยะหมื่นลี้ นี่มันวิปริตเหมือนการพรากพรหมจารีภายในระยะหมื่นลี้แท้ๆ เลย…สวี่ชีอันยากจะปิดบังความประหลาดใจ รู้สึกว่าไม่สมเหตุสมผลเล็กน้อย
กระจกเทพฮุ่นเทียนเอ่ยเสริมว่า
“ยิ่งระยะห่างไกลเท่าไร พลังควบคุมก็จะยิ่งอ่อนลงเท่านั้น โดยทั่วไปภายในระยะหมื่นลี้สามารถควบคุมได้เพียงสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีสติปัญญา ตอนนี้ข้าไม่สมบูรณ์แล้ว ความสามารถนี้จึงไม่อาจสำแดงได้
“จุดอ่อนก็คือ สภาวะของหุ่นเชิดที่ถูกข้าควบคุมจะไม่สามารถปิดบังได้ ผู้มีฝีมือที่ตบะสูงหรือแตกฉานขอบเขตจิตเดิมจะแยกแยะออก
“หากระยะไกลเกินไป แม้แต่คนธรรมดาก็ควบคุมไม่ได้เลย”
สวี่ชีอันเข้าใจในทันที
“ความสามารถที่สองของข้าสามารถส่องทะลุจิ่วโจวโดยไม่สนระยะห่าง แต่สถานที่พิเศษบางแห่งไม่สามารถสอดแนมได้ อย่างเช่นภูเขาศักดิ์สิทธิ์อรัญตาที่สำนักพุทธ”
กระจกเทพฮุ่นเทียนเอ่ยอย่างทอดถอนใจว่า “ข้าเป็นร่างไม่สมบูรณ์ไปแล้ว ไม่อาจส่องทะลุจิ่วโจวได้ แต่ในรัศมีสองพันลี้คิดว่าคงไม่มีปัญหา”
“จะใช้งานเจ้าได้อย่างไร หยดเลือดยอมรับเจ้าของหรือ” สวี่ชีอันถาม
กระจกเทพฮุ่นเทียนเอ่ยเยาะเย้ยว่า
“อย่าเอาข้าไปเทียบอาวุธเวทมนตร์ชั้นต่ำพวกนั้น เพียงข้ายอมรับเจ้า ยอมร่วมมือกับเจ้า เจ้าก็สามารถใช้งานข้าได้ หากข้าไม่ยอม ต่อให้เจ้าหยดเลือดยอมรับเจ้าของก็เปล่าประโยชน์”
นี่หมายถึงเศษชิ้นส่วนหนังสือปฐพีด้วย…สวี่ชีอันส่งเสียง ‘โอ้’ พลันนึกถึงของวิเศษที่ไม่สมบูรณ์เช่นเดียวกัน เหตุใดเศษชิ้นส่วนหนังสือปฐพีจึงไม่มีจิตสำนึกเป็นของตนเอง
“ด้วยรัศมีเพียงสองพันลี้ คงมองไม่เห็นสถานการณ์ในอวิ๋นโจว ฮึ่ม ข้าลองดูก่อน” สวี่ชีอันเอ่ยในทันทีว่า
“ส่องถึงเมืองหลวงต้าฟ่งไหม”
กระจกเทพฮุ่นเทียนเอ่ยอย่างลังเลใจว่า “เมืองหลวงต้าฟ่งมีจอมยุทธ์ขั้นหนึ่งกับโหรขั้นหนึ่งอย่างละคน ข้าส่องไม่ถึง”
“ไม่เป็นไรหรอก จอมยุทธ์คนนั้นตายไปหลายร้อยปีแล้ว ส่วนโหรขั้นหนึ่งก็คงไม่สนใจเจ้า”
สวี่ชีอันตบหน้ากระจกเพื่อส่งสัญญาณให้มันรีบดำเนินการ
มันเหมือนไม่รู้ความลับที่ว่าผู้ได้รับโชคชะตาไม่อาจอยู่ยืนยง ขณะสวี่ชีอันคิดในใจ หน้ากระจกสัมฤทธิ์ก็เกิดความเปลี่ยนแปลง เนื้อสัมฤทธิ์หายไป กลายเป็นใสแวววาวราวกระจกแก้ว
ในกระจกแก้วสะท้อนภาพเมืองอันสวยงามที่กว้างใหญ่
สวี่ชีอันที่ก้มมองเมืองหลวงหลายครั้งแยกแยะออกว่าข้างล่างเป็นเมืองหลวงได้ในไม่นาน
“ข้ารู้สึกว่ามีคนกำลังแอบมองข้า…”
กระจกเทพฮุ่นเทียนถ่ายทอดความคิดออกมา
ท่านโหราจารย์สินะ…สวี่ชีอันพยักหน้า “ไม่ต้องสนใจ เขาก็แค่ตาเฒ่าเฮงซวย”
หวังว่าท่านโหราจารย์จะไม่ได้ยิน เขากล่าวเสริมประโยคหนึ่งอย่างเงียบๆ ในใจ
กระจกเทพฮุ่นเทียนไม่ได้สนใจ ทั้งยังเอ่ยอย่างลำพองใจว่า “ตอนนี้รู้ถึงความทรงพลังของข้าแล้วสิท่า”
เมืองหลวงห่างจากที่นี่ไม่ถึงสองพันลี้
“วางตำแหน่งไว้ที่เมืองหลวง…เคลื่อนไปทางเหนือเจ็ดสิบจั้ง (1 จั้งเท่ากับ 3.33 เมตร) เคลื่อนอีกสิบจั้ง…ได้แล้วๆ สามารถมองทะลุห้องได้ไหม”
ระหว่างสื่อสาร กระจกแสดงให้เห็นตำหนักเสาอินและฉากในห้องนอนของหลินอัน
“สามารถระบุตำแหน่งได้ไหม เอ่อ ก็คือว่าสามารถมองเห็นที่นี่ได้ตรงๆ เลยคราวหน้า ไม่ต้องให้เจ้าชี้ทางอีก”
“เหมือนว่าเจ้ากำลังเคลือบแคลงความสามารถของข้า”
กระจกเทพฮุ่นเทียนถ่ายทอดความรู้สึกไม่สบอารมณ์ออกมา ตามด้วยการเอ่ยว่า “อยากให้ข้าหาตำแหน่งอ่างอาบน้ำไหม ข้ารู้ว่าเพศชายชอบมองเพศหญิงอาบน้ำ”
รอให้ค่ำก่อนแล้วค่อยมาดู…สวี่ชีอันเอ่ยด้วยเสียงอันหนักแน่นว่า “พูดจาเลอะเทอะ ข้าต่างกับเพศชายที่เจ้ารู้จัก”
กระจกเทพฮุ่นเทียนเอ่ยด้วยความประหลาดใจว่า “เจ้าชอบมองเพศชายอาบน้ำหรือ”
“เจ้าเป็นนักตบมุกหรือ” สวี่ชีอันให้กระจกเทพฮุ่นเทียนหาตำแหน่งจวนสวี่ต่อ คราวนี้ มันเล็งไปยังอ่างอาบน้ำโดยตรงด้วยความรู้อกรู้ใจ
นี่ไม่ใช่ห้องของอารองกับอาสะใภ้หรอกหรือ…สวี่ชีอันแทบอึ้ง เขาเอ่ยด้วยความโกรธว่า
“ไม่ ที่นี่ไม่ต้องหาตำแหน่งถังอาบน้ำ เจ้าเป็นของวิเศษที่ใช้การได้มาก่อนจริงๆ หรือ”
“เจ้าชอบเพศชายจริงด้วย” กระจกวิเศษฮุ่นเทียนเข้าใจในทันใด
สวี่ชีอันเบื่อที่จะอธิบายผู้ป่วยทางจิต เขาวางตำแหน่งไปที่ห้องโถงในจวนสวี่
“เอ๋ นี่หลิงอินกำลังจะออกไปข้างนอกหรือ ไปเรียนหรือ”
ในภาพ เขาเห็นสวี่หลิงอินแบก ‘กระเป๋าหนังสือ’ ที่ทำจากถุงผ้าใบเล็กๆ และมัดผมแบบเด็กผู้ชาย ถูกสวี่เอ้อร์หลางจูงออกจากบ้านด้วยความไม่เต็มใจ
อาสะใภ้สั่งกำชับอยู่ข้างๆ นางพูดอะไรบางอย่าง
กระจกเทพฮุ่นเทียนไม่มีความสามารถด้านเสียง ทำได้เพียงมองภาพ
“อาสะใภ้ยังไม่ล้มเลิกการศึกษาเล่าเรียนของหลิงอิน ช่างเป็นความรักของแม่ที่มีต่อลูกอันยิ่งใหญ่เสียจริง แม้จะประสบความผิดหวังนับครั้งไม่ถ้วน ตบหน้าตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า อาสะใภ้ก็ยังไม่ละทิ้งความปรารถนาที่อยากให้บุตรสาวกลายเป็นคนที่ดีเลิศ”
สวี่ชีอันเย้ยไปชุดหนึ่ง หลังจากระบุตำแหน่งจวนสวี่ เขาก็ให้กระจกหาตำแหน่งอารามรัตนะต่อ
ทันทีที่ภาพเปลี่ยนก็ปรากฏภาพอารามอันสง่างาม เขากำหนดตำแหน่งไปยังลานเล็กๆ ที่เงียบสงบในชั่วประเดี๋ยวนั้น บนสระน้ำในลานมียอดสตรีงามสวมชุดขนนกและใส่มงกุฎดอกบัวคนหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่เหนือสระน้ำ
นางหลับตานั่งสมาธิ
ทันใดนั้นเอง นางก็ลืมตาขึ้น แล้วมองมาทางสวี่ชีอัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง