ลานบ้านหลักกลางวิกาล ลมพัดแรงจนใบไม้แห้งบนพื้นส่งเสียงดังแกร่กๆ
ลู่เซิ่งกวาดตามอง ไม่พบเงาคน ค่อยๆ เร่งฝีเท้าอ้อมผ่านลานบ้านไปถึงลานหลัง ห้องน้ำสร้างเดี่ยวๆ ที่ลานหลัง มีห้องน้ำสองห้องตั้งแยกกัน
ตอนที่ลู่เซิ่งเดินไปถึง กลับค้นพบเงาคนสายหนึ่งยืนอยู่นอกห้องน้ำอย่างประหลาดใจ คนผู้นี้คล้ายเห็นเขาแล้ว ร่างเกร็งขึ้นอย่างชัดเจน
“ผู้ใด?!”
ลู่เซิ่งงงงัน เข้าใกล้ค่อยเห็นชัดว่าถึงกับเป็นคุณชายหล่อเหลาที่เป็นมือดีที่ฝึกกำลังภายในคนก่อนหน้า
คนผู้นี้ถือกระบี่สั้น สองตาเปล่งประกาย เห็นได้ว่าอยู่ในสภาพระวังภัย
“พี่ชายท่านนี้ ท่านก็มาตามหาคนที่สูญหายเช่นกันหรือ” หลี่ซุ่นซีถามเสียงทุ้ม เขาจำลู่เซิ่งได้
“คนหายหรือ” ลู่เซิ่งหยีตา สังหรณ์ไม่ดี
“เป็นไร พี่ชายไม่รู้หรือ” หลี่ซุ่นซีงุนงง
“พี่น้องของข้าสองคนออกมาเข้าห้องน้ำ ผ่านไปพักหนึ่งยังไม่กลับไป ข้าไม่วางใจจึงออกมาดู” ลู่เซิ่งอธิบายเรียบง่าย
หลี่ซุ่นซีสีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย “เมื่อเป็นแบบนี้ก็มีคนหายไปอีกสองคนแล้ว”
“พี่ชายหมายความว่าอะไร” ลู่เซิ่งเดินเข้าไปสองสามก้าว มองเข้าไปในห้องน้ำ ประตูไม้เปิดอ้าอยู่ ด้านในเหม็นยากทนทาน ในห้องเล็กแคบว่างเปล่าไม่มีใคร
ลู่เซิ่งสีหน้าแปรเปลี่ยน
“ท่านกำลังบอกว่าคนจำนวนมากก่อนหน้านี้ สตรีกับคนคุ้มกันที่เข้ามาด้วยกันเหล่านั้น…”
“ไม่เหลือสักคน หายไปหมด” หลี่ซุ่นซีถามเสียงทุ้ม “คนตั้งมากมาย พวกเขาอาจถูกขังอยู่ในที่ใด”
“ลองหาดูเถอะ หมู่บ้านใหญ่ปานนี้ อาจเจอเบาะแสอันใด” ลู่เซิ่งเสนอ เลียริมฝีปาก ใจเกิดเพลิงโทสะขึ้นส่วนหนึ่ง เรื่องหลักยังไม่เจอ กลับเสียคนไปสองคนแล้ว
หลี่ซุ่นซีพยักหน้า ทั้งสองคนวนรอบลานหลังบ้านด้วยกัน ไม่ทันไรก็พบห้องครัวที่มุมหนึ่ง
หลี่ซุ่นซีถือกระบี่สั้นผลักประตูเข้าไปก่อน
ประตูไม้เปิดอ้าออกโดยไร้ซุ่มเสียง เผยให้เห็นห้องครัวที่มีแต่ฝุ่นจับ
หม้อใหญ่คว่ำอยู่บนพื้น ชามกระเบื้องแตกเกลื่อน หยากไย่เกาะเต็มเตาไฟ ในมุมบนพื้นยังมีอาหารขึ้นราแห้งดำส่วนหนึ่งกระจัดกระจาย
“ครัวนี้ไม่ได้ใช้มานานแล้วหรือ” หลี่ซุ่นซีขมวดคิ้ว มองลู่เซิ่ง พบว่าอีกฝ่ายไม่ได้หวาดหวั่นนัก แสดงว่าไม่ใช่พบเจอเรื่องพิสดารแบบนี้เป็นครั้งแรก
“พี่ชายก่อนหน้านี้เคยเจอภูตผีมาเช่นกันหรือ” เขาลองถาม
ลู่เซิ่งกลับประหลาดใจอยู่บ้าง คุณชายร่ำรวยผู้นี้ถึงกับทำท่าเหมือนมีประสบการณ์
“ใช่ ก่อนหน้านี้เคยเจอเรื่องประหลาดทำนองนี้”
“มิน่า” หลี่ซุ่นซีมองลู่เซิ่ง “ตามที่ข้าเห็น คนที่หายตัวไปสมควรถูกขังไว้ชั่วคราว คนมากมายขนาดนั้นต่อให้เร็วอย่างไร ก็ไม่มีทางจัดการได้ทั้งหมดในเวลาครู่เดียว ก่อนหน้านี้ข้าตรวจสอบแล้ว ไม่พบการวางพิษใดๆ”
“พี่ชายมั่นใจหรือ” ลู่เซิ่งถามเสียงขรึม
“ก็แปดเก้าส่วนไม่ห่างสิบส่วน” หลี่ซุ่นซีกล่าวอย่างจริงจัง นั่งยองๆ เริ่มตรวจสอบรอยเท้ากับร่องรอยบนพื้นอย่างละเอียด
ลู่เซิ่งไม่เข้าใจ เคลื่อนไหวเหมือนกันกับเขา ไม่ทันไรก็มาถึงประตูชั้นใต้ดินในห้องครัว
“ข้าแซ่หลี่ หลี่ซุ่นซี พี่ชายชื่ออะไร” หลี่ซุ่นซีงัดแผ่นหินของชั้นใต้ดินโดยแรง
ฟิ้ว
กลิ่นเหม็นเน่าโชยมาปะทะหน้า
“แซ่ลู่ ชื่อเซิ่ง ตัวเยว่เซิง” ลู่เซิ่งตอบสั้นๆ
ทั้งสองคนรอจนกลิ่นเหม็นจางลงส่วนหนึ่ง ค่อยมองเข้าไปในชั้นใต้ดิน
ลู่เซิ่งหยิบหินเหล็กไฟออกมาถูหลายครั้ง สะเก็ดไฟสีเหลืองกระจายออก คนทั้งสองอาศัยแสงไฟชั่วคราวมองลงไปยังเงาคนหลายคนที่นอนหงายอยู่ในชั้นใต้ดิน
“อยู่นี่จริงๆ!” หลี่ซุ่นซีถอนใจ รีบกระโดดลงไป “พี่ลู่ช่วยข้าเฝ้าประตู”
“ได้” ลู่เซิ่งเห็นคนที่นอนอยู่ด้านในก็ถอนใจเบาๆ
ต้วนเหมิ่งอันก็อยู่ด้านในด้วย นอกจากนี้ยังมีสตรีสองนางกับผู้คุ้มกันอีกสองคน ทั้งหมดคล้ายสลบไสลนอนอยู่ด้านใน
หลี่ซุ่นซีใช้หนึ่งมือยกคนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ลู่เซิ่งรับมาวางไว้บนพื้นครัว
ไม่ทันไรคนทั้งสองก็ยกวคนห้าคนที่สลบอยู่ในชั้นใต้ดินขึ้นมาได้หมด
“ต่างมีลมหายใจอยู่” หลี่ซุ่นซีอังจมูกสตรีนางหนึ่ง “ไม่ทราบพี่ชายมองออกหรือไม่ว่าพวกเขาโดนอะไร”
เขาเงยหน้ามองลู่เซิ่ง เห็นอีกฝ่ายยังมีสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง สายตาเคร่งขรึม ก็ทราบว่าลู่เซิ่งไม่ธรรมดาเช่นกัน
“พี่หลี่มีวิธีหรือไม่” ลู่เซิ่งถามเสียงขรึม
“ย่อมมีวิธี ดูนี่” หลี่ซุ่นซีแสดงสีหน้าได้ใจ ล้วงของที่เหมือนหนังฟอกสีดำใบหนึ่งออกมา กัดนิ้วชี้ ปาดเลือดของตัวเองใส่
จากนั้นก็ประทับสิ่งนี้บนหน้าผากคนที่สลบอยู่
ลู่เซิ่งมองเงียบๆ ไม่เคลื่อนไหว
ไม่ทันไร คนที่นอนบนพื้นค่อยๆ ฟื้นขึ้นมาทีละคน
“ข้าอยู่ไหน”
“ชิงชิง ท่านไม่เป็นไรกระมัง”
“คุณหนู! บาดเจ็บหรือไม่”
“คุณชาย!” ต้วนเหมิ่งอันเดินมาถึงหน้าลู่เซิ่ง ก้มหน้างุดด้วยความละอาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง