ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง นิยาย บท 678

“นี่​คือ​…”

โหย​วซือ​ถามสอง​คำ​นี้​ออกมา​โดยไม่รู้ตัว​ ภายในใจ​ของ​เขา​กำลัง​ต่อต้าน​ ไม่อยาก​ตกหลุมพราง​ของ​สวี่​ชีอัน​

แต่​เมื่อ​เขา​เห็น​’ศพ​โบราณ​ศพ​นี้​ดวงตา​ของ​เขา​ควบคุม​ไม่ได้​ อารมณ์​ของ​เขา​ยาก​ที่จะ​สงบ​ลง​ ความปรารถนา​ของ​เขา​ดุจดัง​กระแสน้ำ​พลัง​มหาศาล​ที่​โหม​ซัดสาด​สติสัมปชัญญะ​ของ​เขา​จน​พังทลาย​

มัน​สมบูรณ์แบบ​อย่างยิ่ง​ ศพ​ศพ​นี้​สมบูรณ์แบบ​อย่างยิ่ง​ มัน​เป็น​ศพ​ที่​สมบูรณ์แบบ​กว่า​ศพ​ใดๆ​ ที่​เขา​เคย​เห็น​มา และ​ดึงดูดใจ​มากกว่า​หุ่นกระบอก​ใดๆ​ ใน​เผ่า​ซือ​กู่​ ถึงแม้ว่า​มองดู​แล้ว​มัน​จะชำรุดทรุดโทรม​อย่าง​มาก​

สวี่​ชีอัน​ไม่ได้​ตอบคำถาม​ของ​เขา​ แต่​พูด​ยิ้ม​ๆ ว่า​

“หาก​หัวหน้า​โหย​วซือ​สนใจ​ ลอง​เข้า​ไปดู​ใกล้​ๆ ก็ได้​”

“หึ​ ข้า​ไม่ได้​สนใจ​แม้แต่น้อย​” โหย​วซือ​ตอบ​แบบ​ปากแข็ง​ ปีก​ทั้งสอง​ข้าง​กระพือ​อย่าง​ระมัดระวัง​ ร่อน​ลง​ข้างๆ​ โลงศพ​

จ้องมอง​ไป​ที่​ศพ​โบราณ​เป็นเวลา​นาน​โดย​ไม่พูด​อะไร​แม้แต่​คำ​เดียว​ กรงเล็บ​ทั้งสอง​ข้าง​ขยับ​ไปมา​ เดิน​วน​ดู​รอบ​ๆ โลงศพ​หนึ่ง​รอบ​อย่าง​ใจจดใจจ่อ​จังหวะ​ก้าว​ของ​มัน​ช้ามาก​ๆ ราวกับ​นัก​สะสมของเก่า​กำลัง​ชื่นชม​โบราณวัตถุ​ยุค​โบราณ​ที่​ล้ำค่า​

ทันใดนั้น​โหย​วซือ​ก็​ร้อง​ “เอ๊ะ​” แล้วก็​จิก​ที่​ใบหน้า​ของ​ศพ​โบราณ​อย่าง​แรง​

จะงอย​ปาก​เร็ว​เหมือน​สาย​ฟ้าแลบ​ เห็น​ได้​ชัว่า​ได้​ใช้แรง​ที่​มีอยู่​ทั้งหมด​แล้ว​ แต่​ก็​ไม่สามารถ​ทำลาย​ศพ​โบราณ​ได้​ และ​ไม่มีเสียง​กระทบ​กัน​ของ​โลหะ​ดัง​ออกมา​

โหย​วซือ​เงยหน้า​ขึ้น​อย่าง​แรง​ มอง​ไป​ที่​สวี่​ชีอัน​ อยาก​จะพูด​แต่​ก็​เงียบ​ไป​ชั่วขณะ​ แต่​ก็​ยังคง​ทนไม่ไหว​ จึงถามด้วย​น้ำ​เสียงทุ้ม​ต่ำ​ว่า​

“นี่​ไม่เหมือน​ศพ​ของ​ทหาร​ แต่​ความทนทาน​และ​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​ร่างกาย​นั้น​มีมากกว่า​ศพ​เดิน​ได้​ขั้น​สามของ​ข้า​”

สวี่​ชีอัน​พูด​ยิ้ม​ๆ ว่า​

“ผู้เชี่ยวชาญ​นี่​นา​ ใช่แล้ว​ นี่​ไม่ใช่ศพ​ของ​ทหาร​ ศพ​นี้​เป็น​ซากศพ​ของ​ผู้​กล้า​แห่ง​ลัทธิ​เต๋า​ท่าน​หนึ่ง​ เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ เขา​เป็น​สุดยอด​ของ​ขั้น​สอง​ หลังจาก​ล้มเหลว​ใน​การ​หนี​เคราะห์กรรม​ ก็ได้​ผลัด​ร่าง​เก่า​ กลายเป็น​ศพ​นี้​”

ความจริง​สุดยอด​ของ​ขั้น​สอง​เป็น​การประเมิน​แบบ​รอบคอบ​มาก​

น้ำเสียง​ของ​โหย​วซือ​มีความ​ทุ้ม​เล็กน้อย​ “สุดยอด​ของ​ขั้น​สอง​ เจ้าแน่ใจ​ว่า​เป็น​สุดยอด​ของ​ขั้น​สอง​?”

ขณะที่​ถาม ปีก​ทั้งสอง​ข้าง​ของ​เขา​กระพือ​หลายครั้ง​โดยไม่รู้ตัว​ เหมือน​เป็นการ​เน้น​น้ำเสียง​ให้​หนักแน่น​

“เทพ​เจ้าหยาง​ขั้น​สามไม่มีร่างกาย​ที่​แข็งแกร่ง​และ​เป็น​อมตะ​เช่นนี้​” สวี่​ชีอัน​พูด​ยิ้ม​ๆ

โหย​วซือ​หมดหนทาง​โต้แย้ง​ เทพ​เจ้าหยาง​ของ​ลัทธิ​เต๋า​ไม่มีร่างกาย​แบบนี้​จริงๆ​ และ​เมื่อ​ครู่​เขา​ได้​ทดสอบ​ด้วย​ตนเอง​ นี่​ไม่ใช่ร่างกาย​ของ​ทหาร​จริงๆ​

“ทำไม​เขา​จึงถูก​ทำลาย​ขนาด​นี้​?”

โหย​วซือ​พยายาม​ทำให้​น้ำเสียง​สงบ​อย่าง​เต็มที่​ เพื่อ​ไม่ให้​สวี่​ชีอัน​ฟังออก​ว่า​เสียใจ​และ​อยากได้​ศพ​ศพ​นี้​ขนาด​ไหน​

เจ้าต้อง​รู้​ว่า​มัน​เคย​เกิด​สติปัญญา​ อาจจะ​บ้าคลั่ง​มากยิ่งขึ้น​…สวี่​ชีอัน​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ก็​ตัดสินใจ​เล่า​เรื่องราว​ให้​โหย​วซือ​ฟัง แบบนี้​สามารถ​เพิ่ม​เงื่อนไข​ ทำให้​อีก​ฝ่าย​ยิ่ง​หมดหนทาง​ที่จะ​ปฏิเสธ​

“เรื่อง​นี้​พูด​แล้ว​มัน​ยาว​ ศพ​นี้​เคย​เกิด​สติปัญญา​มาก่อน​ มีจิตสำนึก​เป็น​ของ​ตนเอง​ ไม่ต่าง​จาก​สิ่งมีชีวิต​ปกติ​ ข้า​ปิดผนึก​มัน​ไว้​ใน​สุสาน​ที่​พบ​มัน​ หลังจากนั้น​เป็นเวลา​นาน​ ได้​กลับมา​ที่​สุสาน​โดยบังเอิญ​ จึงพบ​ว่า​ร่างกาย​ของ​เขา​ถูก​ทำลาย​ น่าสยดสยอง​เป็น​อย่างยิ่ง​”

ทุกคน​สามารถ​เห็น​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ ร่างกาย​ของ​นก​ยักษ์​แข็งทื่อ​ และ​ไม่ได้​ขยับเขยื้อน​เป็นเวลา​นาน​

“เจ้าหลอก​ข้า​! เจ้าหลอก​ข้า​! เจ้าหลอก​ข้า​!”

โหย​วซือ​วู่วาม​อย่าง​ไม่เคย​เป็นมา​ก่อน​ ตะคอก​เสียงดัง​

ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​กลุ่ม​ควบคุม​ศพ​มืออาชีพ​ เป้าหมาย​ทาง​ความรู้​สูงสุด​ของ​เผ่า​ซือ​กู่​ก็​คือ​จะทำ​อย่างไร​ให้​ “ฟื้นคืนชีพ​”

สิ่งนี้​ไม่เหมือนกับ​การ​ที่​ผู้​กล้า​จิต​เดิม​ยึดครอง​ศพ​ การกระทำ​เช่นนี้​เรียก​ว่าการ​เคลื่อนย้าย​วิญญาณ​ไป​ยัง​ศพ​ การ​เข้าสิง​ และ​สิ่งที่​ปรมาจารย์​ซือ​กู่​ต้องการ​ก็​คือ​การ​ทำให้​ศพ​กลับมา​มีชีวิต​

คน​ที่​ตาย​ไป​แล้ว​จริงๆ​ ย่อม​ไม่สามารถ​ฟื้นคืนชีพ​ได้​ แต่​ยังมี​อีก​วิธี​หนึ่ง​ที่​ตาย​แล้ว​คืนชีพ​ได้​ ก็​คือ​การ​ทำให้​ศพ​เกิด​สติปัญญา​

แต่​เป้าหมาย​ที่​ยิ่งใหญ่​นี้​ หลาย​พันปี​มานี้​ เผ่า​ซือ​กู่​ไม่เคย​ประสบความสำเร็จ​เลย​

หลง​ถูและ​คนอื่นๆ​ ต่าง​มองหน้า​กัน​อย่าง​หมดปัญญา​ สีหน้า​ประหลาด​ โดยเฉพาะ​หลวนอวี้​และ​ฉุน​เยียน​ ใน​แววตา​ของ​สาวงาม​ทั้งสอง​มีแวว​รังเกียจ​ผ่าน​เข้ามา​แวบ​หนึ่ง​

เพราะ​พวก​นาง​คิดถึง​เรื่อง​เรื่อง​หนึ่ง​

บรรดา​ผู้อาวุโส​ของ​เผ่า​ซือ​กู่​เคย​คาดการณ์​ไว้​ว่า​ วิญญาณ​ที่​ได้รับ​ความเสียหาย​ที่​เหลืออยู่​ใน​ร่างกาย​ของ​ศพ​เดิน​ได้​ หาก​เพาะเลี้ยง​ได้​อย่าง​เหมาะสม​ ก็​จะสามารถ​แปร​เปลี่ยนเป็น​จิต​เดิม​ได้​อย่าง​แท้จริง​ ศพ​ก็​จะเกิด​สติปัญญา​

จากนั้น​ก็​จะฟื้นคืนชีพ​และ​เกิด​ใหม่​

วิญญาณ​ที่​ได้รับ​ความเสียหาย​ที่​ไม่มีปณิธาน​เป็น​ของ​ตนเอง​จะแปร​เปลี่ยนเป็น​จิต​เดิม​อย่าง​แท้จริง​ได้​อย่างไร​? มัน​น่าขัน​และ​ไร้สาระ​เช่นเดียวกับ​มนุษย์​ ที่​สร้าง​ร่างกาย​โดยตรง​โดย​ไม่ได้​ผ่าน​การ​ตั้งครรภ์​สิบ​เดือน​นั่นแหละ​

ใน​มุมมอง​ของ​ผู้คน​หก​ชน​เผ่า​นี้​ นี่​เป็นการ​หา​ข้ออ้าง​คน​ของ​เผ่า​ซือ​กู่​เกี่ยวกับ​ความสัมพันธ์​ของ​ตัวเอง​กับ​ความพิกลพิการ​ของ​ศพ​ ยัดเยียด​นำ​ศพ​เดิน​ได้มา​เปรียบกับ​คน​

เมื่อ​สบตา​ที่​ที่​เต็ม​ไป​คำถาม​ของ​โหย​วซือ​ สวี่​ชีอัน​ทำ​เหมือน​ทบทวน​ความหลัง​เล็กน้อย​ แล้ว​พูดว่า​

“มัน​เคย​บอก​ข้า​ว่า​ ตอนที่​นักพรต​คน​นั้น​ผลัด​ร่าง​เก่า​ มีวิญญาณ​ที่​ได้รับ​ความเสียหาย​ส่วนหนึ่ง​เหลืออยู่​ใน​นั้น​ วิญญาณ​ที่​ได้รับ​ความเสียหาย​ส่วน​นี้​ได้รับ​การซ่อมแซม​โดย​วิธีการ​พิเศษ​ของ​นักพรต​ จน​กลายเป็น​จิต​เดิม​ที่​สมบูรณ์​”

ผู้นำ​ทุก​คนฟัง​แล้ว​ต่าง​ตกตะลึง​ หันไป​มอง​โหย​วซือ​ด้วย​ใบ​หน้าที่​ประหลาดใจ​ ต่าง​ก็​พบ​ว่า​เขา​ตกใจ​ด้วย​ความหวาดกลัว​อยู่​ตั้ง​นาน​แล้ว​

“เป็นจริง​ดั่ง​คาด​จริงๆ​ ด้วย​ เป็นจริง​ดั่ง​คาด​จริงๆ​ ด้วย​ เหล่า​บรรพชน​คาดการณ์​ไว้​ไม่มีผิด​ มีวิธีการ​ทำให้​ศพ​ “ฟื้นคืนชีพ​” จริงๆ​ ด้วย​ เป็น​แบบอย่าง​ที่​มีมาก่อน​จริงๆ​ นี่​ไม่ใช่การ​เพ้อฝัน​ที่​เลื่อนลอย​จริงๆ​…”

โหย​วซือ​ยิ่ง​พูด​ยิ่ง​ตื่นเต้น​ ท้ายที่สุด​ ปีก​ทั้งสอง​ข้าง​ก็​กระพือ​ไม่หยุด​ เหมือน​คน​กำลัง​เต้นแร้งเต้นกา​

สวี่​ชีอัน​รอ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ จนกระทั่ง​ผู้นำ​ของ​เผ่า​ซือ​กู่​คน​นี้​เริ่ม​สงบ​ลง​ จึงพูด​ต่อว่า​

“ถ้าเช่นนั้น​ ศพ​โบราณ​ศพ​นี้​สามารถ​แลกเปลี่ยน​กับ​การ​ที่​เจ้าไม่เป็น​พันธมิตร​กับ​อวิ๋น​โจว​ได้​หรือไม่​?”

หลง​ถูและ​คนอื่นๆ​ จ้องมอง​นก​ยักษ์​โดย​พร้อมเพรียงกัน​

…โหย​วซือ​นึกถึง​คำพูด​ที่​ตนเอง​ได้​สาบาน​ไว้​อย่าง​จริงใจ​เมื่อ​ครู่​ ก็​นิ่ง​ไป​ชั่วขณะ​

สุดท้าย​ความปรารถนา​ที่​มีต่อ​ศพ​โบราณ​ก็​อยู่​เหนือ​ความอัปยศ​และ​ศักดิ์ศรี​ จึงกระแอม​ แล้ว​พูด​ด้วย​น้ำ​เสียงแหบ​พร่า​ว่า​

“หลง​ถูพูด​ถูก​ เว่ยเยวียน​ตาย​ไป​แล้ว​ ความแค้น​นี้​ก็​สิ้นสุดลง​ด้วย​ ข้า​ไม่ควร​ปล่อย​ให้​คนใน​เผ่า​ต้อง​ตาย​เปล่า​ เพราะ​ความ​ถือ​ทิฐิ​ส่วนตัว​ของ​ข้า​ สำหรับ​ศพ​โบราณ​ศพ​นี้​ คำพูด​ของ​เจ้าเพียง​ด้าน​เดียว​ ข้า​จะไม่เชื่อ​ง่ายๆ​ แต่​ใน​เมื่อ​เจ้าได้​เกลี้ยกล่อม​เผ่า​อื่นๆ​ หก​เผ่า​แล้ว​ อืม​ ข้า​ก็​จะยอม​ฝืนใจ​รับปาก​ก็แล้วกัน​…”

สวี่​ชีอัน​ยิ้ม​และ​พูดว่า​ “ดีแล้ว​”

เขา​พูด​พร้อมกับ​ปิด​ฝาโลงศพ​ แล้ว​เก็บ​โลงศพ​กลับ​เข้าไป​ใน​เศษชิ้นส่วน​หนังสือ​ปฐพี​

“นี่​ เจ้า…” โหย​วซือ​ตะโกน​ พยายาม​ระงับ​ไฟแห่ง​ความโกรธ​ พูด​ด้วย​น้ำเสียง​เคร่งขรึม​ว่า​

“ข้า​บอก​แล้ว​ว่า​จะไม่เป็น​พันธมิตร​กับ​อวิ๋น​โจว​ เจ้าไม่ได้ยิน​?”

“ข้า​ได้ยิน​แล้ว​” รอยยิ้ม​ของ​สวี่​ชีอัน​ยังคง​เหมือนเดิม​

“ข้า​บอ​กว่า​จะมอบ​ศพ​โบราณ​นี้​ให้​กับ​เจ้า ก็​ต้อง​มอบให้​เจ้าอย่าง​แน่นอน​ แต่​ไม่ใช่ตอนนี้​ เมื่อ​สงคราม​ใน​ภาค​กลาง​สิ้นสุดลง​ ข้า​จะทำตาม​คำสัญญา​”

โหย​วซือ​จะรับปาก​ได้​อย่างไร​ ไม่ได้​เห็น​ศพ​โบราณ​ศพ​นี้​ก็​ยัง​พอ​รับได้​ แต่​ใน​เมื่อ​ได้​เห็น​แล้ว​ เขา​ก็​จะไม่ยอมให้​ตัวเอง​สูญเสีย​มัน​ไป​ ใคร​จะยอม​สูญเสีย​สิ่งที่​ตัวเอง​ชื่นชอบ​มาตลอดชีวิต​กัน​เล่า​!

“ข้า​จะเชื่อได้​อย่างไร​ว่า​เจ้าจะทำตาม​คำมั่นสัญญา​” เขา​ยิ้ม​หยัน​พูด​ด้วย​น้ำ​เสียงแหบ​พร่า​

สวี่​ชีอัน​ก็​ยิ้ม​หยัน​ตอบ​เช่นกัน​

“แล้ว​ทำไม​ข้า​ถึงต้อง​เชื่อ​เจ้า ถ้าต่อไป​เจ้าบิดพลิ้ว​ แอบ​เป็น​พันธมิตร​กับ​อวิ๋น​โจว​ แล้ว​ข้า​จะทำ​อย่างไร​?”

โหย​วซือ​มีนิสัย​แข็งกร้าว​ และ​ไม่ประนีประนอม​ พูด​แบบ​ตา​ต่อตา​ ฟัน​ต่อ​ฟัน​ว่า​

“ทิ้ง​ศพ​ไว้​ หรือไม่​ก็​ตัดความสัมพันธ์​กัน​อย่าง​เด็ดขาด​”

“ลาก่อน​!”

สวี่​ชีอัน​หันหลัง​เดิน​จากไป​ พร้อมกับ​นับ​ สาม สอง​ หนึ่ง​ อยู่​ใน​ใจ…

สวี่​ชีอัน​ซึ่งเป็น​ปรมาจารย์​ซือ​กู่​เช่นเดียวกัน​ จึงมั่นใจ​อย่างยิ่ง​ว่า​ โหย​วซือ​ไม่มีทาง​ปฏิเสธ​ตัวเอง​ ก็​เหมือนกับ​ที่​เขา​ไม่มีทาง​ปฏิเสธ​ท่าน​น้า​

“ช้าก่อน​!”

โหย​วซือ​ตะโกน​ออกมา​เบา​ๆ กางปีก​ออก​อย่าง​ร้อนใจ​ เมื่อ​สวี่​ชีอัน​หยุด​เดิน​และ​หัน​กลับมา​ เขา​รีบ​หุบ​ปีก​ทันที​ หัน​หัว​นก​มอง​ไป​ทาง​หนึ่ง​

“คืน​ศพ​เดิน​ได้​ขั้น​สามศพ​นี้​ให้​ข้า​ นอกจากนี้​ เจ้าจะต้อง​เขียน​หลักฐาน​ที่​เป็น​ลายลักษณ์อักษร​ ท่ามกลาง​พี่น้อง​ร่วม​เผ่า​ทุกคน​ที่​เป็น​…ประจักษ์พยาน​”

สวี่​ชีอัน​หยิบ​อุปกรณ์​ออกมา​ เขียน​หลักฐาน​ที่​เป็น​ลายลักษณ์อักษร​ฉบับ​หนึ่ง​ ท่ามกลาง​แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​และ​คนอื่นๆ​ ที่​เป็น​ประจักษ์พยาน​ให้​เขา​ทันที​ พร้อมกับ​ประทับ​ลายนิ้วมือ​

“เก็บ​ให้​ดี​ ชาว​ภาค​กลาง​ต่าง​รู้กัน​ว่า​ฆ้อง​เงิน​คน​นี้​เป็น​คน​รักษา​คำมั่นสัญญา​”

สวี่​ชีอัน​เป่า​หมึก​จน​แห้ง​ แล้ว​พับ​กระดาษ​ หนีบ​ไว้​ที่​ปลายนิ้ว​ส่งให้​

นก​ยักษ์​ทำ​น้ำเสียง​ไม่พอใจ​ “แล้ว​ข้า​จะมารับ​ศพ​เดิน​ได้ที่​เผ่า​ลี่​กู่​”

หลังจาก​พูด​จบ​ มัน​ก็​ชะโงก​หัว​มาอย่าง​ระมัดระวัง​ คาบ​กระดาษ​ไป​ แล้ว​กระพือปีก​บิน​ขึ้นไป​บน​ท้องฟ้า​

นก​ยักษ์​บิน​อย่าง​ช้าๆ ประวิง​เวลา​ และ​มั่นคง​ ราวกับ​กลัว​ว่า​จะบิน​เร็ว​เกินไป​ แล้ว​ลม​จะพัด​หลักฐาน​ใน​ปาก​จน​ขาด​

เฮ้ ไม่แก้แค้น​พ่อ​ที่​ถูก​สังหาร​แล้ว​หรือ​? สวี่​ชีอัน​มอง​ที่​ด้านหลัง​ของ​นก​ยักษ์​ที่​บิน​สูง แอบ​ตะโกน​อยู่​ภายในใจ​

หลังจาก​การเจรจาต่อรอง​สิ้นสุดลง​ นี่​จึงเป็นการ​รู้เขารู้เรา​ รบ​ร้อย​ครั้ง​ชนะ​ร้อย​ครั้ง​อย่าง​แท้จริง​ …เขา​ถอน​สาย​ตากลับ​ กวาดตา​มอง​หลวนอวี้​และ​ฉุน​เยียน​ ยิ้ม​ตาหยี​แล้ว​พูดว่า​

“นี่​เป็น​การรักษา​อาการ​บาดเจ็บ​ให้​พี่สาว​ทั้งสอง​”

เขา​นำ​เจดีย์​พุทธะ​ออกมา​ ปล่อย​ให้​ม่าน​ลวงตา​ของ​ร่าง​ธรรม​เชี่ยวชาญ​โอสถ​ลอย​อยู่​บน​ยอด​เจดีย์​

เมื่อ​ครู่​หลวนอวี้​และ​ฉุน​เยียน​ได้​เปิดหูเปิดตา​เห็น​เจดีย์​พุทธะ​ซ่อมแซม​ร่าง​ของ​ศพ​เดิน​ได้ที่​ไม่สมประกอบ​ มีความรู้สึก​ทั้ง​แปลกใจ​และ​ประหลาดใจ​ ต่อ​ของ​วิเศษ​ของ​พระโพธิสัตว์​ใน​ตำนาน​

ขวด​หยก​สาด​รัศมี​ที่​เหมือน​เศษทองคำ​ลงมา​ ดุจดัง​สายฝน​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​กำลัง​ปกคลุม​พวก​นาง​

ความเจ็บปวด​จาก​การ​ที่​กระดูก​หัก​ค่อยๆ​ หาย​ไป​อย่าง​ช้าๆ สิ่งที่​เข้ามา​แทนที่​ก็​คือ​ความ​เย็น​ชุ่มฉ่ำที่​เข้าไป​ถึงหัวใจ​

หลวนอวี้​กางแขน​ทั้งสอง​ข้างออก​ เยื้องกราย​หมุนตัว​ไป​รอบ​ๆ กระโปรง​ยาว​บานสะพรั่ง​เหมือน​ดอกไม้​บาน​ นาง​กลายเป็น​หญิงสาว​พราว​เสน่ห์​ผู้​งดงาม​อีกครั้ง​ พูด​พร้อม​รอย​ยิ้มละไม​

“มีสิ่งที่​คอย​ปกป้อง​เช่นนี้​แล้ว​ ข้าน้อย​ก็​ไม่กลัว​ความดุร้าย​บน​เตียง​ของ​ฆ้อง​เงิน​สวี่​แล้ว​”

นาง​ยอมรับ​ความแตกต่าง​ด้าน​พละกำลัง​ของ​ทั้งสองฝ่าย​อย่าง​แท้จริง​แล้ว​ มีของ​วิเศษ​ที่​มหัศจรรย์​เช่นนี้​ ฝ่าย​ตนเอง​ไม่มีทาง​ชนะ​เขา​ได้​เลย​ และ​เมื่อ​ครู่​เขา​ได้​ยั้ง​มือ​แล้ว​จริงๆ​

ฉุน​เยียน​พยักหน้า​อย่าง​สำรวม​ แสดง​ความ​ขอบคุณ​

เจ้าเตรียมพร้อม​รับ​ความเจ็บปวด​แล้ว​หรือยัง​?…สวี่​ชีอัน​มอง​หญิงสาว​พราว​เสน่ห์​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ จากนั้น​ก็​หันไป​ตอบรับ​ฉุน​เยียน​

ตอนนี้​ ในที่สุด​สวี่​ชีอัน​ก็​มีเวลา​ที่จะ​จัดการ​กับ​เรื่อง​อื่น​แล้ว​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง