ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง นิยาย บท 685

เมือง​เวิ่ง​ อำเภอ​ซงซาน​

หลังจากที่​สวี่​ซินเหนียน​ฟังราย​งานการ​บาดเจ็บ​และ​เสียชีวิต​จากรอง​แม่ทัพ​แล้ว​ ก็​เป่า​ลม​ออกจาก​ปาก​โดย​ไม่มีเสียง​

“ออก​ไป​ได้​ ให้​บรรดา​ทหาร​ระวัง​ให้​มาก​หน่อย​ อย่า​ให้​ยอด​ฝีมือ​จาก​กองกำลัง​ของ​ข้าศึก​ฉวยโอกาส​โจมตี​ใน​ยามวิกาล​ได้​”

หลังจาก​การ​โจมตีเมือง​สอง​ครั้ง​ กองกำลัง​ชั้นยอด​ของ​ข้าศึก​ยังคง​รักษา​กฎ​ไว้​ได้​อย่าง​ครบถ้วน​ คน​ที่​ตาย​ล้วน​เป็น​กองกำลัง​ผสม​ที่​ก่อ​ตั้งขึ้น​จาก​ผู้ลี้ภัย​

แม่ทัพ​ของ​กองทัพ​อวิ๋น​โจว​เป็น​คน​ฉลาด​ รู้จัก​ใช้ชีวิต​ของ​ผู้ลี้ภัย​มาผลาญ​กระสุน​ปืนใหญ่​และ​ลูกธนู​ของ​กองกำลัง​ป้องกัน​เมือง​ นอกจากนี้​พวกเขา​ยัง​ปล่อย​ให้​ยอด​ฝีมือ​ปะปน​อยู่​ใน​กองกำลัง​ผสม​ รอโอกาส​ที่จะ​ปีน​กำแพงเมือง​แล้ว​ทำ​การสังหาร​ครั้ง​ใหญ่​ ทำลาย​หน้าไม้​และ​ปืนใหญ่​

“แม่ทัพ​กองกำลัง​ของ​ข้าศึก​เป็น​คน​ฉลาด​ แต่​ใน​การ​โจมตี​ยามวิกาล​กลับ​ดู​โง่เขลา​อย่างยิ่ง​”

สวี่เอ้อร์​หลา​งมอง​ไป​ที่​เหมียว​โห​ย่ว​ฟางที่อยู่​ข้างๆ​ แล้ว​พูดว่า​

“แปลก​เล็กน้อย​”

เหมียว​โห​ย่ว​ฟางไม่เข้าใจ​ จึงยักไหล่​ “มีอะไร​แปลก​ ข้า​คิด​ว่า​เขา​เป็น​คน​ฉลาด​ รู้จัก​ลอบ​จู่โจมใน​ยามวิกาล​ที่​ไม่มีการ​เตรียม​การป้องกัน​”

“ข้อเสีย​ของ​การ​โจมตีเมือง​ใน​เวลา​กลางคืน​ เมื่อ​ครู่​ข้า​ได้​บอก​เจ้าแล้ว​ ว่า​แม่ทัพ​ที่​มีความ​เชี่ยวชาญ​ จะไม่หุนหันพลันแล่น​เช่นนี้​ เว้นเสียแต่ว่า​เขา​มีเวลา​จำกัด​ที่​จำเป็น​จะต้อง​โจมตี​อำเภอ​ซงซาน​ใน​ระยะเวลา​สั้น​ๆ”

สวี่​ซินเหนียน​วิเคราะห์​อย่าง​ใจเย็น​

“ถึงอย่างไร​ข้า​ก็​รับผิดชอบ​เพียง​สังหาร​ศัตรู​ เรื่อง​ใช้สมอง​ข้า​จะไม่มีวัน​มีส่วนร่วม​อย่าง​เด็ดขาด​”

เหมียว​โห​ย่ว​ฟางแสดง​จุดยืน​ก่อน​ จากนั้น​ก็​เริ่ม​คุยโว​

“ข้า​อาจจะ​ไม่เคย​บอก​เจ้า ว่าที่​ภูเขา​สือ​ว่าน​ทาง​ซินเจียง​ตอน​ใต้​ใน​วันนั้น​ ตัว​ข้า​ได้​ช่วย​ฆ้อง​เงิน​สวี่​บุกเข้าไป​ใน​วัด​หนาน​ฝ่าซึ่งเป็น​สถานที่สำคัญ​ของ​สำนัก​พุทธ​ เพื่อ​สู้ตาย​กับ​เหล่า​ภิกษุ​ของ​สำนัก​พุทธ​ สุดท้าย​ก็​พยายาม​จน​เอาชนะ​อา​ซูหลัว​ ขั้น​สอง​ของ​สำนัก​พุทธ​มาจนได้​ และ​ได้​วางรากฐาน​สำหรับ​การ​ลุกขึ้น​สู้แบบ​ติดอาวุธ​ของ​ปีศาจ​ทักษิณ​ วันนี้​มีข้า​ช่วย​เจ้า เจ้าวางใจ​ได้​เลย​”

สวี่​ซินเหนียน​มอง​เขา​แวบ​หนึ่ง​ แล้ว​พูด​ช้าๆ ว่า​

“ตอน​ที่อยู่​เมือง​ชิงโจว​ ข้า​ได้​พบ​กับ​ผู้พิทักษ์​หยวน​ เขา​ได้​เล่า​เหตุการณ์​ที่​ภูเขา​สือ​ว่าน​ให้​ข้า​ฟังอย่าง​ละเอียด​แล้ว​”

เหมียว​โห​ย่ว​ฟางที่​ถูก​เปิดโปง​นิ่ง​ไป​ แล้วก็​ยิงฟัน​พูด​ทันที​

“นั่น​คือ​ปีศาจ​ลิง​ที่​น่ารำคาญ​”

สำหรับ​เรื่อง​นี้​ สวี่​ซินเหนียน​เห็นด้วย​จาก​ใจจริง​

‘สุภาพบุรุษ​คิดเห็น​เหมือนกัน​’

ทั้งสอง​คน​เหลือบมอง​อีก​ฝ่าย​อย่าง​รู้กัน​ ราวกับ​กำลัง​พูดว่า​

‘ดูเหมือน​เจ้าก็​จะมีประสบการณ์​ที่​น่าอับอาย​เช่นเดียวกัน​’

เวลานี้​ ทหาร​นาย​หนึ่ง​เข้ามา​อย่าง​รีบร้อน​ รายงาน​เสียงดัง​ว่า​

“ใต้เท้า​สวี่​ กำลัง​ของ​ข้าศึก​ส่งจดหมาย​ผ่าน​ลูกธนู​มาฉบับ​หนึ่ง​ขอรับ​”

ดวงตา​ของ​สวี่​ซินเหนียน​เป็น​ ประกาย​เล็กน้อย​ พูด​อย่าง​สงบ​ว่า​

“ส่งขึ้น​มา”

เหมียว​โห​ย่ว​ฟางลุกขึ้น​ทันที​ รับ​จดหมาย​ที่​ส่งผ่าน​ลูกธนู​มาจาก​มือ​ของ​ทหาร​แล้ว​ยื่น​ให้​สวี่​ซินเหนียน​

ฝ่าย​หลัง​เปิด​ออก​อ่าน​ เมื่อ​อ่าน​จบ​ก็​ยิ้มเยาะ​

“จดหมาย​เขียน​ว่า​อย่างไร​?”

เหมียว​โห​ย่ว​ฟางรีบ​ถาม

สวี่เอ้อร์​หลา​งพูด​เบา​ๆ ว่า​ “แม่ทัพ​กองกำลัง​ของ​ข้าศึก​ชื่อ​จัว​เฮ่าหรา​น​ เขา​บอ​กว่า​จะบุก​ตีเมือง​ภายใน​สามวัน​ จะตัดหัว​ข้า​ เพื่อ​มอบให้​พี่ชาย​คนโต​ของ​ข้า​เป็น​ของขวัญ​เมื่อ​พบ​หน้า​กัน​ครั้งแรก​”

กระโจม​จักรพรรดิ​ใน​เมือ​งอ​วิ๋น​โจว​ ห่าง​จาก​ประตูเมือง​ทิศตะวันออก​สิบ​ลี้​

กองไฟ​ลุกโชน​ กระโจม​แต่ละ​หลัง​เงียบสงัด​ บรรดา​ทหาร​หลับ​ไป​ตั้ง​นาน​แล้ว​ โดย​มีทหาร​ที่​สวม​ชุด​เกราะ​มือถือ​อาวุธ​ลาดตระเวน​ไปมา​

รอบนอก​ยังมี​หน่วย​สอดแนม​คอย​ตระเวน​ดู​

ด้านนอก​กระโจม​ทหาร​ จัว​เฮ่าหรา​น​ที่​สวม​ชุด​เกราะ​ รูปร่าง​สูงใหญ่​และ​แข็งแรง​ ตัดหัว​หน่วย​สอดแนม​ของ​กองทัพ​ต้าฟ่ง​ที่จับ​มาได้​ด้วยมือ​ตัวเอง​

เขา​เลีย​สัน​มีด​ที่​เปื้อน​เลือด​ แสยะ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​

“คิดไม่ถึง​ว่า​คน​ที่​รับผิดชอบ​ปกป้อง​อำเภอ​ซงซาน​ ก็​คือ​ญาติ​ผู้​น้อง​ของ​สวี่​ชีอัน​ เมื่อ​ข้า​ตี​อำเภอ​ซงซาน​แตก​แล้ว​ หัว​ที่​ตัด​ไป​ ต้อง​เก็บรักษา​ไว้​ให้​ดี​ แล้ว​ส่งคน​นำ​ไป​มอบให้​คน​แซ่สวี่”​

จ้าว​เถียน​รอง​แม่ทัพ​พูด​น้ำเสียง​เคร่งขรึม​

“ตาม​คำสารภาพ​ของ​หน่วย​สอดแนม​คน​นี้​ สวี่​ซินเหนียนคน​นั้น​เป็น​ศิษย์​ของ​จางเซิ่น​แห่ง​สำนัก​อวิ๋น​ลู่​ มีความ​เชี่ยวชาญ​ใน​ตำรา​พิชัยสงคราม​ จะชะล่าใจ​ไม่ได้​”

เขา​รู้​นิสัย​วาง​อำนาจบาตรใหญ่​ของ​จัว​เฮ่าหรา​น​ดี​ จึงพูด​เสริม​ทันที​ว่า​

“แต่ว่า​ ด้วย​ความ​ห้าวหาญ​ของ​ท่าน​แม่ทัพ​ การบุก​ตีเมือง​คง​เกิดขึ้น​ใน​อีกไม่นาน​ หาก​ท่าน​แม่ทัพ​รู้​ว่า​ท่าน​ตัดหัว​ของ​สวี่​ซินเหนียน​ได้​ จะต้อง​ชมเชย​และ​มีรางวัล​ให้​อย่าง​แน่นอน​”

จัว​เฮ่าหรา​นพ​ยัก​หน้า​

“ถ่ายทอด​คำสั่ง​ออก​ไป​ ใคร​ที่​ตัดหัว​ของ​สวี่​ซินเหนียน​ได้​ จะมีรางวัล​ให้​หนึ่ง​พัน​ตำลึง​เงิน​ พร้อมกับ​แต่งตั้ง​ให้​เป็น​นาย​กอง​”

วันรุ่งขึ้น​ สวี่​ชีอัน​นั่งสมาธิ​เสร็จ​ ก็​เห็น​ผู้หญิง​ท่าทาง​โศกเศร้า​เหมือน​ดอก​ไล​แล​ค​

นาง​สวย​ แต่​ท่าทาง​โศกเศร้า​กลับ​สามารถ​ทำให้​มองข้าม​ความ​สวย​ของ​นาง​ ทำให้​อด​คิด​ที่จะ​เดิน​เข้าไป​ใน​ใจของ​นาง​เพื่อ​รับฟัง​ความ​โศกเศร้า​ของ​นาง​ไม่ได้​

“สวี่​หลา​ง เจ้าตื่น​แล้ว​”

ลั่วอวี้เหิง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​นุ่มนวล​

เจ้าเอง​หรือ​ บุคลิก​โศกเศร้า​…สวี่​ชีอัน​ถอนหายใจ​โล่งอก​ ใน​เจ็ด​อารมณ์​ สิ่งที่​จัดการ​ได้​ยาก​ที่สุด​คือ​อารมณ์​สามประการ​ ได้แก่​ ‘ใคร่​’ ‘โกรธ​’ และ​ ‘หึงหวง​’

บุคลิก​โกรธ​นั้น​ดีกว่า​แบบ​อื่น​ เพียงแต่​อารมณ์ร้อน​ไป​หน่อย​ แค่​พูด​อะไร​ที่​ไม่สบอารมณ์​ ก็​จะลงมือ​ทำร้าย​คนอื่น​ทันที​

บุคลิก​ใคร่​เป็น​แบบ​ที่​สวี่​ชีอัน​กลัว​มาก​ที่สุด​ มัน​หมายความว่า​เขา​ต้อง​ออกกำลังกาย​ตลอด​ยี่สิบ​สี่ชั่วโมง​ สิ้นเปลือง​พลังงาน​เป็นอย่างมาก​

ส่วน​บุคลิก​หึงหวง​นั้น​เขา​ไม่เคย​ประสบ​มาก่อน​ ครั้งก่อน​บุคลิก​หึงหวง​ออก​หน้าเป็น​คน​สุดท้าย​ ลั่วอวี้เหิง​ได้​ขับไล่​ไป​นาน​แล้ว​

จาก​การ​ที่​ท่าน​น้า​แสดงออก​ด้วย​ความหวาดกลัว​เช่นนี้​ สวี่​ชีอัน​คาดการณ์​ว่า​บุคลิก​หึงหวง​ก็​คือ​ตัวละคร​ที่​มีอยู่​ใน​ละคร​ชิงรัก​หัก​สวาท​ใน​วัง​ ประเภท​ฮองเฮา​ผู้​อำมหิต​

ขอ​แค่​บุคลิก​ทั้ง​สามลักษณะ​นี้​ไม่ปรากฏตัว​ บุคลิก​อื่นๆ​ สวี่​ชีอัน​ก็​ไม่ได้​สนใจ​

บุคลิก​โศกเศร้า​เป็น​คน​อารมณ์​เปราะบาง​ คิด​แต่ว่า​อายุ​ของ​ตัวเอง​สามารถ​เป็น​แม่ของ​คนรัก​ได้​แล้ว​ จึงรู้สึก​เสียใจ​

“ราชครู​ ท่าน​งดงาม​ดุจ​ดวง​แสงอรุโณทัย​ ชวน​ให้​หลงใหล​”

สวี่​ชีอัน​ดูแลเอาใจใส่​คน​โศกเศร้า​เหมือน​ดูแลเอาใจใส่​ดอกไม้​ที่​บอบบาง​

บุคลิก​โศกเศร้า​มีสีหน้า​เขินอาย​ พูด​เสียง​เบา​ว่า​

“สวี่​หลา​งไม่ต้อง​เรียก​ข้า​ว่า​ราชครู​ เรียก​ว่า​อวี้เหิง​ก็ได้​”

เอา​แล้ว​เอา​แล้ว​ เจ้าจะทำให้​ข้า​ลำบากใจ​อีกแล้ว​…สวี่​ชีอัน​ตัวสั่น​ คิดในใจ​ว่า​ เพื่อ​อะไร​กัน​ เดี๋ยว​เจ้ากลับมา​เป็น​เหมือนเดิม​ ก็​คิด​จะถือ​ดาบ​ไล่​ฟัน​ข้า​อีก​

ชายป่า​บุพกาล​ รอบนอก​จี๋เยวียน​

ยอด​ฝีมือ​ขั้น​สี่ของ​เจ็ด​เผ่า​รวมตัว​กันที่​บริเวณ​ชายป่า​บุพกาล​ นำ​โดย​ผู้นำ​ระดับ​เหนือ​มนุษย์​เช่น​แม่ย่า​แห่ง​เทียน​กู่​

ใน​ใจของ​ทุก​คนใน​เผ่าพันธุ์​กู่​ต่าง​หนักอึ้ง​ พลัง​มหาศาล​ของ​เทพเจ้า​กู่​โชติช่วง​ มักจะ​หมายความว่า​อาจจะ​มีอสูร​กู่​ระดับ​เหนือ​มนุษย์​กำเนิด​ขึ้น​

สัตว์ประหลาด​ที่​รูปร่าง​พิกลพิการ​ จิตใจ​สับสน​ กลับ​อยู่​ใน​ระดับ​เหนือ​มนุษย์​ มัน​เป็น​สัญลักษณ์​ของ​การเข่นฆ่า​และ​ทำลายล้าง​ ใน​ประวัติศาสตร์​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​ ผู้นำ​ที่​เสียชีวิต​ด้วย​ฝีมือ​ของ​อสูร​กู่​นั้น​มีไม่น้อย​

อาจ​กล่าว​ได้​ว่า​ อสูร​กู่​ระดับ​เหนือ​มนุษย์​นั้น​ถูก​ผู้นำ​ของ​เผ่าพันธุ์​กู่​เสี่ยงชีวิต​เพื่อ​กำจัด​ทิ้ง​

“พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​เมื่อ​เทียบ​กับ​ยาม​ปกติ​ แข็งแกร่ง​ขึ้น​หลายเท่า​”

คน​ที่​พูด​คือ​ผู้อาวุโส​ขั้น​สี่ของ​เผ่า​ซือ​กู่​ ข้าง​กาย​ของ​เขา​มีหุ่น​ของ​ศพ​เดิน​ได้ที่​มีกลิ่น​รุนแรง​สามตัว​

“ไม่ต้อง​พูดถึง​จำนวน​ของ​การ​เกิด​ของ​ระดับ​เหนือ​มนุษย์​ อสูร​กู่​ และ​หนอน​กู่​ขั้น​สี่ที่จะ​เพิ่มขึ้น​อย่าง​รวดเร็ว​ใน​ระยะเวลา​สั้น​ๆ หาก​ประมาทเลินเล่อ​ พวก​ข้า​อาจจะ​มีอันตราย​ถึงชีวิต​”

ขณะที่​ผู้อาวุโส​ของ​เผ่า​ตู๋​กู่​พูด​คำพูด​เหล่านี้​ ก็ได้​มอง​ไป​ยัง​ผู้อาวุโส​ทั้ง​หก​ของ​เผ่า​ลี่​กู่​

ผู้อาวุโส​ใหญ่​ตำหนิ​ว่า​

“เจ้าดู​อย่างไร​ อสูร​กู่​ที่​ข้า​ฆ่าไป​ทั้งหมด​ยัง​มากกว่า​เนื้อที่​เจ้ากิน​ไป​เสีย​ด้วยซ้ำ​”

ปาก​ไม่ยอมแพ้​ คิ้ว​ของ​ผู้อาวุโส​ใหญ่​ก็​ไม่คลายตัว​ ขมวด​แน่น​ตลอดเวลา​

พลัง​ของ​เทพเจ้า​กู่​ปะทุ​ขึ้น​ไม่บ่อย​ ใน​ชีวิต​พวกเขา​เคย​ประสบ​สอง​ครั้ง​ ไม่มีครั้งไหน​ที่จะ​สามารถ​เทียบ​กับ​การเคลื่อนไหว​ของ​เมื่อวาน​นี้​ได้​

หลังจาก​ผ่าน​การ​ดูดซึม​และ​การ​ย่อย​มาตลอดคืน​ เกรง​ว่า​บรรดา​หนอน​กู่​และ​อสูร​กู่​ที่อยู่​บริเวณ​จี๋เยวียน​จะเริ่ม​มีการเปลี่ยนแปลง​แล้ว​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง