บทที่ 758 หลี่หลิงซู่ “พี่ชายวานรผู้นี้…” (1)
เมื่อต้องเผชิญกับพายุกำลังภายในของชายฉกรรจ์สามคนที่พวยพุ่งออกมาตรงหน้า พระโพธิสัตว์เจียหลัวซู่ก็ใช้มือทั้งสองข้างสร้างตราประทับขึ้น เกลี่ยรอยย่นในอวกาศให้เรียบ สร้างกรงอวกาศไว้เบื้องหน้าเพื่อขวางกั้นจอมยุทธ์ขั้นสองทั้งสามคนไว้
โค่วหยางโจวหมุนติ้วราวสว่านไฟฟ้าพร้อมระเบิดเจตจำนงแห่งดาบเจาะช่องว่างในกรงอวกาศ
วงแหวนเพลิงหลังศีรษะอาซูหลัวระเบิดออก กล้ามเนื้อหลังส่วนล่างพองออกอย่างรวดเร็ว ทุกเซลล์ออกแรงผลักกำปั้นของเขาไปปะทะช่องว่างที่โค่วหยางโจวเจาะไว้
ทันใดนั้นกรงอวกาศก็แตกเป็นเสี่ยงๆ
เสื้อคลุมสีเขียวรองรับมันไว้ สวี่ชีอันกระโดดออกมา ไขว้ดาบไท่ผิงกับดาบสยบดินแดนไว้ในมือและฟันออก
ในระหว่างนี้ พลังแห่งเวไนยสัตว์ได้อำนวยพรแก่คมมีด
‘ติ๊ง!’ ดาบไท่ผิงกับดาบสยบดินแดนระเบิดประกายแวววาวบนหน้าอกเจียหลัวซู่ ทิ้งร่องรอยสีขาวสองขีดไขว้กันไว้
กินยากจริงๆ…สวี่ชีอันก่นด่าอยู่ในใจ
วินาทีต่อมา กำปั้นของพระโพธิสัตว์เจียหลัวซู่ก็เจาะเข้าอกสวี่ชีอัน โลหิตสีทองซีดพุ่งกระฉูดไปด้านหลัง
ถึงจะมีกายาจิตวชิระระดับบรรลุสมบูรณ์กับสายเลือดอสูรของพระเสินซูอยู่ แต่ก็ไม่อาจสกัดกั้นกำปั้นพระโพธิสัตว์ขั้นหนึ่งได้ เพราะนี่คือผลลัพธ์ที่เกิดจากเส้นทางของจอมยุทธ์ภิกษุขั้นหนึ่ง
สวี่ชี่อันขว้างกระบี่ทิ้ง เอาหลังมือกระแทกแขนขวาเจียหลัวซู่พลางยิ้มแย้ม
‘ตูม!’
หน้าอกของเจียหลัวซู่ยุบลงไปและนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับบาดเจ็บ
หยกสลาย!
สวี่ชีอันคืนความเสียหายทั้งหมดที่เจียหลัวซู่มอบให้กลับไป
โค่วหยางโจวถือดาบไท่ผิงไว้ในมือ ทั่วทั้งตัวกลายเป็นลำแสงดาบแหลมคมปะทะช่วงอกของเจียหลัวซู่ เจตจำนงแห่งดาบของจอมยุทธ์ขั้นสองฉีกผ่านอวกาศโดยมีเจตจำนงจะทะลุผ่านทุกสิ่งทุกอย่างจนหมดสิ้น
‘ตูม’…เจียหลัวซู่ใช้แขนข้างหนึ่งเหวี่ยงสวี่ชีอันไปกระแทกร่างโค่วหยางโจวอย่างรุนแรง ราวกับอุกกาบาตสองลูกชนกัน บังเกิดคลื่นอากาศสั่นสะเทือนแล้วทั้งคู่ก็กระเด็นหายไป
‘ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ!’
อาซูหลัวก้าวเข้าสู่ความว่างเปล่า ฉวยโอกาสนี้ไว้อย่างแหลมคมราวกับเข็ม วงแหวนเพลิงหลังศีรษะของเขาบรรจบกัน บังเกิดล้อไฟเจิดจ้างดงามปรากฏขึ้น
เขาเอื้อมมือไปจับล้อไฟที่อยู่หลังศีรษะ ทันใดนั้นกำปั้นของเขาก็ส่องแสงสว่างเจิดจ้า
‘เคร้ง!’
ทุ่มเทพลังระดับเต๋าแยกขันธ์ทั้งหมดใส่อกพระโพธิสัตว์เจียหลัวซู่
กำปั้นของอาซูหลัวทะลวงอกเจียหลัวซู่ ล้างแค้นให้สวี่ชีอันได้สำเร็จ
ในที่สุดก็ทำลายการป้องกันได้…โค่วหยางโจวกับสวี่ชีอันแทบร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ จากการต่อสู้นอกเมืองสวินโจวจนถึงบัดนี้ ในที่สุดก็ทะลุผ่านหินเหม็นในส้วมทำลายการป้องกันได้สำเร็จ
ร่างธรรม ‘พระโพธิสัตว์มัญชุศรี’ โดดเด่นด้วยคำว่า ‘อนิจจังไม่หยุดนิ่ง’
เจียหลัวซู่ผู้ไม่หยุดนิ่ง แม้แต่ท่านโหราจารย์ยังทำอะไรเขาไม่ได้ เมื่อเขาหยุดนิ่ง พรของ ‘พระโพธิสัตว์มัญชุศรี’ ก็พลันสูญสิ้น
เมื่อเจียหลัวซู่ไม่มีร่างธรรมวชิระ การป้องกันขั้นแรกย่อมต้องเป็นกายเนื้อ
สวี่ชีอันสับเปลี่ยนอาการบาดเจ็บกับหยกสลาย บอกได้ว่าระดับไร้พ่ายขั้นสองของอาซูหลัวรุนแรงพอจะทะลวงการป้องกันของเจียหลัวซู่สำเร็จ
พอเห็นอาซูหลัวทะลวงกำปั้นทะลุอกเจียหลัวซู่ จีเสวียนกับสวี่ผิงเฟิงก็ขมวดคิ้วทันที
พระโพธิสัตว์ผู้มีพลังต่อสู้แข็งแกร่งที่สุดในสำนักพุทธได้รับบาดเจ็บเป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่เข้าสู่ที่ราบลุ่มภาคกลาง
ดูเหมือนนี่จะเป็นลางร้าย
ประกายความโกรธวาวโรจน์อยู่ในดวงตาเจียหลัวซู่ มือขนาดใหญ่เหมือนพัดของเขาบีบหัวอาซูหลัวและยกตัวขึ้น
ในตอนนี้เขาดูประหนึ่งพระพุทธเจ้าที่กลายเป็นมนุษย์กล้ามที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ
‘แคร่ก!’
ลั่นเสียงกะโหลกอาซูหลัวแตก โลหิตสีทองซีดไหลซึมออกจากหว่างนิ้วเจียหลัวซู่
‘ปัง ปัง ปัง ปัง’…ทันใดนั้นก็มีเสียงกลองดังกระชั้นถี่รวดเร็วราวกับเสียงน้ำหลาก
ร่างกายสีทองเข้มของอาซูหลัวถูกย้อมด้วยชั้นสีดำสนิท ราวกับหมึกหกรดร่างกายของเขา
เขาปลดปล่อยพลังแห่งสายเลือดของเผ่าพันธุ์อสูรออกมา
ไม่ได้ยินเสียงกะโหลกแตกอีกแล้ว
ในเวลานี้ สวี่ชีอันลากภาพลวงตาออกมาพเนจรอยู่ข้างหลังเจียหลัวซู่เหมือนดั่งภูตผี เขาหันหลังชนเจียหลัวซู่ ถือดาบสยบดินแดนไว้ด้านหลังแล้วใช้มือขวาแทงไปข้างหลัง
ดาบสยบดินแดนเจาะเข้าไปตรงอกเจียหลัวซู่ ดาบสยบดินแดนก็มีลักษณะดุจเดียวกับระดับเต๋าแยกขันธ์คือระเบิดออกเหมือนกัน จึงเกิดรอยแผลเปลวไฟแผดเผาขึ้น
ความเจ็บปวดปรากฏขึ้นในดวงตาพระโพธิสัตว์เจียหลัวซู่ ในช่วงห้าร้อยปีที่ผ่านมา นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาได้ลิ้มรสความเจ็บปวด ครั้งล่าสุดเขาเพิ่งถูกดาบสลักปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ของท่านโหราจารย์แทงทะลุศีรษะ
‘ตูม!’
ก่อนที่สวี่ชีอันจะดึงกระบี่ตัวเองกลับมา เจียหลัวซู่ก็เตะดาวรุ่งที่กล้ามาทำร้ายเขา จากนั้นเขาก็เหวี่ยงอาซูหลัวไปชนสวี่ชีอันที่กำลังเหาะอยู่ล้มคว่ำลง
ร่างสีดำสนิทสองร่างปะทะกัน สวี่ชีอันกับอาซูหลัวต่างคนต่างเปล่งเสียงผรุสวาท ความคิดเดียวกันแวบเข้ามาในหัวของพวกเขาสองคน
บุรุษผู้นี้ลงมือเต็มที่!
‘ตูม ตูม ตูม’…ฝ่าเท้าของเจียหลัวซู่ปล่อยไอพ่นพลังปราณออกมา เหมือนเท้าแต่ละข้างเหยียบย่ำอยู่บนพื้น บังเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
เขาไล่ตามสวี่ชีอันกับอาซูหลัวที่กำลังลอยละลิ่วกลับหัวอยู่ทันและระเบิดพลัง หมัด เข่า ศอกที่ใช้เป็นอาวุธทั้งหมดออกไป กระดูกและเส้นเอ็นของทั้งสองคนหัก โลหิตสีทองซีดหลั่งไหลลงมาราวกับสายฝน
ระหว่างที่เกิดเรื่องขึ้น โค่วหยางโจวพยายามเข้าไปช่วยเหลือหลายครั้ง แต่เขาก็โดนหมัดหรือฝ่ามือของเจียหลัวซู่ตีกลับมาเสมอ
‘แครก แครก!’
เจียหลัวซู่ผู้เป็นฝ่ายโจมตีหยุดชะงัก มีเสียงกระดูกในร่างกายหลายแห่งหักสะบั้น
สวี่ชีอันขัดจังหวะการโจมตีผสมของเจียหลัวซู่ด้วยหยกสลาย
‘ฉึก’…เจตจำนงแห่งดาบเอาแต่ใจไร้ผู้ต้านแทงทะลุหน้าอกที่ยังไม่ได้เยียวยารักษาอาการบาดเจ็บของเจียหลัวซู่ สำหรับจอมยุทธ์ขั้นสองอย่างโค่วหยางโจว ความเฉื่อยชาของเจียหลัวซู่ในตอนนี้เป็นจุดอ่อนที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา
ถูกแทงเข้าที่หน้าอกครั้งแล้วครั้งเล่า เจียหลัวซู่โกรธมาก หันกลับมาและเหวี่ยงแขนของเขา ซัดกลับด้วยหมัด
ชายชราหดหัวลง จากนั้นก็ได้ยินเสียงกะโหลกของเขาลอยละลิ่ว
ในอีกด้านหนึ่ง สวี่ชีอันและอาซูหลัว ‘รวบรวม’ แขนและกะโหลกที่หัก ใส่ลำไส้ที่ห้อยกลับเข้าไปในท้องของพวกเขา และในขณะที่อาการบาดเจ็บฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว พวกเขาก็กระโจนไปยังเจียหลัวซู่ เพื่อแบ่งปันแรงกดดันให้โค่วหยางโจว
ทั้งสี่คนต่อสู้กัน ‘ปัง ปัง ปัง’ บางครั้งหัวของใครบางคนจะกระเด็นออกไปและต้นขาของใครบางคนจะบิดเป็นเกลียว ฉากนั้นมีแต่เลือดและความรุนแรงท่วมท้น
เจียหลัวซู่ต่อยสวี่ชีอันด้วยหมัดซ้ายและอาซูหลัวด้วยหมัดขวา ทั้งยังสามารถเหยียบ โค่วหยางโจวได้ภายใต้ฝ่าเท้า แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติที่แท้จริงของยอดฝีมือขั้นหนึ่ง
แต่หน้าอกมักจะเสียดสีพุ่งชนกันอยู่เสมอ พลังของระดับเต๋าแยกขันธ์และลักษณะดาบสยบดินแดนทับซ้อนกัน ทำให้อาการบาดเจ็บฉกาจฉกรรจ์มากขึ้นเรื่อยๆ
วิถีแห่งแสงแจ่มชัดพุ่งออกมาจากแขนของสวี่ผิงเฟิง กู่ก้องร้องคำรามอยู่เหนือหัวฝูงชน ในเวลาเดียวกัน ค่ายกลวงกลมใต้เท้าเขาก็แผ่ขยายออกไป พยายามจะครอบฝูงชนไว้ข้างใน
เขาต้องการใช้โอกาสนี้ขยายขอบเขตแผ่นทองสัมฤทธิ์ เพื่อแยกโลกนี้ออก สวี่ชีอันจะได้ไม่สามารถควบคุมพลังแห่งเวไนยสัตว์ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง