เรื่องโสมปลอมคราวที่แล้ว ทำให้หวังหรุ่ยไม่พอใจมาก ๆ
เพราะเดิมทีเธอไม่ได้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการเพราะความสามารถ แต่เพราะได้รับการแต่งตั้ง ผลสุดท้ายเป็นเพราะว่ายัยตัวดีนี่ ทำให้ท่านประธานโมโห
หวังหรุ่ยไม่อยากจะเห็นหน้ายัยหวังหยุนนี่เลยด้วยซ้ำ
“ฉันยุ่งไม่มีเวลาว่างค่ะ”
หวังหยุนเองก็รู้ว่าตัวเองทำผิด ทำให้คนอื่นโมโห ทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาเอ่ย
“รองผู้อำนวยการหวังอย่าโมโหเลยนะคะ เรื่องคราวที่แล้วต้องโทษให้เป็นความผิดของฉันเอง ลูกสาวของดิฉันหลินหลินทำงานที่บริษัทยาเหวินเหอ บริษัทของพวกเราสองคนก็เหมือนเป็นบริษัทพี่บริษัทน้อง ฉันเลยอยากจะเลี้ยงอาหารคุณสักมื้อเพื่อเป็นการขอโทษคุณจะว่ายังไงคะ?”
หวังหรุ่ยขมวดคิ้ว คิดไม่ถึงเลยว่าหวังหยุนคนนี้จะเป็นแม่ของประธานจู้หลินหลิน
บริษัทยาเหวินเหอสำหรับซวนหยวนกรุ๊ปแล้ว ถือว่าเป็นบริษัทที่สำคัญแห่งหนึ่งเลย ท่านประธานออกคำสั่งมาแล้วว่าต้องช่วยเหลือบริษัทยาเหวินเหออย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องเงินทุนหรือทรัพยากรทุน
แต่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างท่านประธานใหญ่กับประธานจู้ไม่ธรรมดา
ในเมื่อเรื่องมันเป็นอย่างนี้ หวังหรุ่ยเองก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี “ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ ตอนเที่ยงเราไปทานด้วยกันสักมื้อก็ได้”
พอนัดสถานที่เสร็จ หวังหรุ่ยกับหวังหยุนก็ไปที่ร้านอาหารระดับหรูแต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมแห่งหนึ่ง หลังจากทั้งสองนั่งลง หวังหยุนก็ขอโทษขอโพยยกใหญ่ ถึงทำให้สีหน้าของหวังหรุ่ยดีขึ้นมาไม่น้อย
หลังจากทานอาหารไปนิดตามด้วยไวน์อีกหน่อย หวังหยุนก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าลำบากใจ
“รองผู้อำนวยการหวังคะ คือว่าเรื่องเมื่อครั้งที่แล้วทำให้ท่านประธานของคุณไม่พอใจเท่าไหร่ ครั้งนี้ดิฉันเลยเตรียมของขวัญมาอยากจะมอบให้ท่าน หวังว่าท่านจะหายขุ่นเคืองใจ”
พูดจบ หวังหยุนก็หยิบกล่องเล็ก ๆ ออกมา เปิดกล่องเผยให้เห็นจี้หยกเจ้าแม่กวนอิมที่อยู่ด้านใน
เดิมทีหวังหรุ่ยอยากจะแนะนำเธอสักหน่อยว่า ถ้าหากไม่มีเรื่องอะไรอย่าส่งของขวัญให้ท่านประธานเลย ที่ส่งโสมให้เป็นของขวัญครั้งก่อน เธอรู้สึกว่าอย่าส่งเลยจะดีเสียกว่า ทำไปจะเสียเรื่องเปล่า ๆ
แต่ว่าพอเห็นจี้หยกเจ้าแม่กวนอิมในกล่อง หวังหรุ่ยก็ชะงักไปครู่หนึ่ง
เพราะถึงอย่างไรเธอก็เป็นผู้หญิง ค่อนข้างรู้เรื่องอัญมณีพวกนี้ แค่เห็นหยกเจ้าแม่กวนอิมอันนี้เธอก็รู้เลยว่าราคาต้องไม่ธรรมดาแน่นอน อีกอย่างหยกเจ้าแม่กวนอิมอันนี้ก็บริสุทธิ์มาก ๆ ดูก็รู้ว่าเป็นหยกบริสุทธิ์ธรรมชาติไม่ได้ผ่านโรงงาน เป็นงานฝีมือ
ดูจากสีแล้วน่าจะได้รับการเก็บรักษามาเป็นอย่างดี ถ้านำมาห้อยจะต้องมีแต่สิ่งดี ๆ แน่นอน
ดีกว่าโสมคราวที่แล้วเป็นไหน ๆ
หวังหรุ่ยพยักหน้า “หยกนี่ดูดีมากเลยค่ะ ที่คุณต้องการมอบของขวัญให้ท่านประธานของเราคราวนี้ ต้องการจะทำอะไรคะ?”
คงจะไม่มีใครให้ของขวัญเปล่า ๆ โดยไม่ต้องการอะไรตอบแทนหรอกมั้ง?
หวังหยุนถอนหายใจ เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็คงต้องบอกความจริงออกไป ไม่อย่างนั้นรองผู้อำนวยการหวังคงไม่ช่วยเธอ
“คืออย่างนี้ค่ะ ลูกสาวของดิฉันอายุก็ถึงวัยที่เหมาะสม แถมยังโสดไม่ได้แต่งงาน ดิฉันได้ยินมาว่าท่านประธานของพวกคุณก็ยังโสด อีกอย่างทั้งสองคนก็ดูเหมือนจะมีใจให้กัน แต่ไม่ได้เปิดเผยออกมา ฉันคิด ๆ ดูแล้ว ฉันเป็นผู้ใหญ่ก็แค่อยากจะแสดงท่าทีก่อน ไม่ได้ขอร้องให้ทำอะไร เพียงแค่อยากจะสานสัมพันธ์นิดหน่อย”
หวังหรุ่ยพยักหน้าอย่างเข้าใจทันที ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง
ข่าวลือของท่านประธานใหญ่และประธานจู้ได้แพร่กระจายไปทั่วซวนหยวนกรุ๊ป และทุกคนรู้ดีว่าไม่แน่จู้หลินหลินแห่งบริษัทยาเหวินเหอคนนั้นอาจจะเป็นภรรยาท่านประธานใหญ่ในอนาคตก็ได้ แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่มีมูล
“ก็ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะช่วยไปส่งให้คุณอีกสักครั้ง แต่หวังว่าคุณจะไม่ทำหาเรื่องเดือดร้อนอะไรให้ฉันอีก ถ้าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก ฉันจะไม่ยุ่งแล้ว”
หวังหรุ่ยรับหยกเจ้าแม่กวนอิมมาเก็บไว้ พอทานอาหารเสร็จ ก็ตรงไปที่บ้านของฉินจุนทันที
ฉินจุนในตอนนั้น กำลังนั่งกังวลใจอยู่ในห้องนั่งเล่น เขาพลิกเสื้อผ้าหาหลายรอบแล้วก็หาจี้หยกที่แม่ของหวังตงเสวี่ยมอบให้มาไม่เจอ
นั่นมันหยกมรดกตกทอดของคนอื่นเชียวนะ ไม่ว่าราคามันจะถูกหรือแพง แต่ว่ามันมีคุณค่าทางจิตใจมหาศาล
เมื่อกี้เห็น ๆ กันอยู่ว่ามันยังอยู่ในบ้าน มันจะหายไปได้ยังไงกัน?
“น้าเฝิงช่วยผมหาดี ๆ อีกสักรอบหน่อยครับ”
“ได้ค่ะคุณชาย คุณชายวางใจเถอะค่ะ ถ้าหายในบ้านยังไงก็ต้องหาเจอ”
ฉินจุนนั่งอยู่บนโซฟาอย่างพูดไม่ออก มีคนมาที่บ้านอยู่แค่สองคนเท่านั้น จู้หลินหลิน หวังหยุน บวกกับน้าเฝิงทั้งหมดสามคน
จู้หลินหลินกับน้าเฝิงไม่มีทางขโมยของของเขาแน่นอน ส่วนหวังหยุนนั้น
ถึงอย่างไรหวังหยุนก็เป็นถึงคุณนาย ไม่น่าจะทำเรื่องแบบนี้ได้ ถ้าหากว่าหยกเจ้าแม่กวนอิมนี้หายจริง ๆ หวังตงเสวี่ยต้องโกรธมาก ๆ แน่เลย
ในตอนที่ฉินจุนกำลังหัวเสียอยู่นั้น หวังหรุ่ยก็เดินเข้ามาจากด้านนอก
“ท่านประธานฉินคะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง