เมื่อฉินจุนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขาก็ถูกเตะออกจากกลุ่มนี้แล้ว แต่ประวัติการแชทก่อนหน้านี้ยังคงปรากฏให้เห็น
เมื่อเห็นความเห็นถากถางดูถูกของคนเหล่านี้ ฉินจุนก็ขมวดคิ้ว พวกเขาก็เป็นแค่ทายาทรุ่นที่สองเท่านั้น
ในอดีตเมื่อตระกูลฉินยังรุ่งเรือง คนเหล่านี้ต่างก็มาเกาะแกะฉินจุนอย่างกับหนอน ตอนนี้ตระกูลฉินล่มสลายไปแล้ว คนเหล่านี้กลับมาซ้ำเติมถากถางกัน มันก็น่าขันจริงๆ
ปกติฉินจุนก็ไม่สนใจงานเลี้ยงแบบนี้อยู่แล้ว
เขากำลังจะปิดมือถือ สายของซุนเจี้ยนหมินก็โทรเข้ามา
“ฮัลโหล มีอะไรเหรอ?”
“ศิษย์พี่ ศิษย์น้องคนที่ห้ามาตงไห่น่ะ อยากเจอคุณสักหน่อย”
ฉินจุนขมวดคิ้ว “ศิษย์น้องคนที่ห้า?”
เมื่อก่อนอาจารย์รับลูกศิษย์มาเยอะมาก แม้ว่าแต่ละคนจะเป็นคนใหญ่คนโต แต่ฉินจุนก็ไม่ได้รู้จักมากนัก
นอกจากหวังจินไห่ศิษย์น้องคนที่สอง และซุนเจี้ยนหมินศิษย์น้องคนที่สามแล้ว คนอื่น ๆ ก็ไม่ค่อยรู้จักมากนัก แม้แต่เมิ่งเหวินกังก็เพิ่งมารู้จักเขาภายหลัง
ซุนเจี้ยนหมินรีบแนะนำ “ศิษย์น้องสาวคนที่ห้าคือเหอเนี่ยนอิง ที่ทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์น่ะครับ และมีอิทธิพลมากทั่วโลก เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลเหอ ไม่กี่ปีก่อนได้ขึ้นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน เป็นผู้หญิงแกร่งคนหนึ่งเลยครับ”
ดูเหมือนว่าเหอเนี่ยนอิงศิษย์น้องสาวคนที่ห้าคนนี้จะเก่งกว่าเมิ่งเหวินกังเสียอีก ตอนที่เมิ่งเหวินกังรุ่งเรืองที่สุด ก็อยู่ในสิบอันดับแรกของประเทศ แต่เหอเนี่ยนอิงกลับกลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดเลย แต่ยังไงอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ก็แข็งแกร่งกว่า
ฉินจุนพูด “ได้ เจอกันที่ไหน ให้เธอจองแล้วค่อยโทรบอกฉันก็ได้”
“โอเคครับ”
ไม่นานก็มีโทรศัพท์จากคนแปลกหน้าโทรเข้ามา เมื่อเห็นว่าเป็นหมายเลขของเมืองหลวง ก็น่าจะเป็นศิษย์น้องสาวคนที่ห้า
“ฮัลโหล”
“สวัสดีค่ะศิษย์พี่ ฉันเหอเนี่ยนอิง ต้องขอโทษด้วยนะคะที่พี่กลับมาตั้งนานแล้ว แต่ฉันเพิ่งมาพบคุณที่ตงไห่ คุณสะดวกไปทานข้าวด้วยกันสักมื้อไหมคะ?”
แม้ว่าเหอเนี่ยนอิงจะเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุด แต่การพูดของเธอนั้นสุภาพกว่าคนคนพวกนั้นเยอะ
“ผมสะดวกทุกเมื่อ คุณจองสถานที่เลย เดี๋ยวผมไปหา”
“โอเคค่ะ ๆ ๆ ฉันมีอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งในตงไห่ ฉันมีรีสอร์ทหลงเฟิงซึ่งอยู่ไม่ไกลจากชานเมือง เดี๋ยวฉันจะส่งคนไปรับคุณเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”
“ได้”
หลังจากวางสายไม่นาน ก็มีชายหนุ่มขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์มาที่บ้านของฉินจุน
“คุณฉินครับ ผมคือคนขับรถของประธานเหอ ถ้ามีอะไรให้รับใช้ก็บอกผมได้เลยครับ”
ฉินจุนพยักหน้าและขึ้นรถ
……..
ในเวลานี้ที่ทางเข้าของรีสอร์ทหลงเฟิงมีรถหรูจอดอยู่เป็นแถว พอร์ช เบนซ์ลี่ มาเซราติ เฟอร์รารี่ ต่างก็เป็นรถสปอร์ตทั้งหมด สิ่งที่คู่ควรกับทายาทรุ่นที่สองผู้ร่ำรวย
มีชายหญิงหลายสิบคนมารวมตัวกันอยู่ที่หน้าประตู แต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหรา ต่างก็ดูมีสง่าราศี นาฬิกาแพงเด่นสะดุดตา เรียกได้ว่าสามารถมองเห็นได้จากไกล ๆ คนเหล่านี้คือกลุ่มลูกคนรวย
หลังจากที่จู้หลินหลินมาถึง เพื่อนเก่าหลายคนก็ล้อมเข้ามา
“หลินลิน ฉันได้ยินมาว่าช่วงนี้บริษัทของคุณได้รับความนิยมมาก จากทายาทรุ่นที่สองกลายเป็นมหาเศรษฐีผู้บุกเบิกเองแล้วเหรอ?”
จู้หลินหลินยิ้มทักทาย และพูดถ่อมตน
“มหาเศรษฐีผู้บุกเบิกอะไรล่ะ โชคช่วยทั้งนั้น”
“หลินหลินดูสินี่ใครเนี่ย?”
เมื่อมองตามสายตาของทุกคนไป ก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งยืนถือดอกกุหลาบอยู่ข้างหลังฝูงชน เดินเข้ามาหาจู้หลินหลินด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม
“ขอโทษนะครับ วันนี้ร้านเราปิดนะครับ”
เทียนจุนไคผงะไปครู่หนึ่ง “ล้อเล่นอะไรน่ะ ฉันจองล่วงหน้าไปตั้งหลายวันแล้ว วันนี้ฉันก็เพิ่งโทรคุยกับผู้จัดการของพวกคุณ ร้านจะปิดได้ยังไง?”
รปภ.กล่าวขอโทษ “ขอโทษครับ เป็นประกาศด่วนน่ะครับ เจ้านายของเราต้องการใช้ที่นี่รับแขก VIP ครับ ดังนั้นจึงปิดชั่วคราวครับ”
เทียนจุนไคแปลกใจเล็กน้อย “เจ้านายของพวกคุณ? ใช่ประธานเหอเนี่ยนอิงไหม?”
“ใช่ครับ ประธานเหอ”
ตอนนี้เทียนจุนไครู้สึกสับสนนิดหน่อย เหอเนี่ยนอิงเป็นคนใหญ่คนโต เป็นบุคคลที่รวยที่สุดในประเทศ และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ เขาเป็นเหมือนมดตัวน้อยตัวหนึ่งเท่านั้นเมื่อเทียบกับเธอ
เขาขมวดคิ้วแน่นไม่รู้จะทำอย่างไรดี
มีคนตั้งมากมายที่อยู่ข้างหลัง มันเสียหน้ามากถ้าไม่สามารถเข้าไปในรีสอร์ทได้
แต่ถ้าดึงดันจะเข้าไปให้ได้ ก็อาจจะทำให้ประธานเหอขุ่นเคือง และต่อไปก็จะส่งผลกับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์อย่างไร?
ขณะที่เทียนจุนไคอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ฉินจุนก็ลงจากรถ
หลังจากที่ฉินจุนเดินเข้ามา มีคนหันไปเห็นและอุทานออกมา
“โอ้ว! นี่คุณชายฉินไม่ใช่เหรอ?”
เทียนจุนไคและคนอื่น ๆ ก็หันกลับมามองทันที และทันใดนั้นใบหน้าของทุกคนก็แสดงออกอย่างเยาะเย้ย
“สมควรกับที่เป็นคุณชายฉินจริง ๆ คนเขาไม่ได้เชิญก็ยังหน้าด้านมาเหรอ? การวิ่งมากินข้าวไกลขนาดนี้คงจะไม่ง่ายเลยล่ะสิ”
“แต่น่าเสียดายนะ วันนี้พวกเราจะกินอาหารท้องถิ่น มาสัมผัสชีวิตบ้าน ๆ สักหน่อย พวกอาหารท้องถิ่นพวกนี้คุณคงจะกินบ่อยแล้วล่ะสิ สิ่งที่คุณอยากจะลองกินก็น่าจะเป็นอาหารอันโอชะที่พวกเราได้กินมาเพียงพอแล้วใช่ไหมล่ะ”
เทียนจุนไคเยาะเย้ย “ช่างเถอะ จริง ๆ คุณชายฉินไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมในงานปาร์ตี้ของเรา แต่ในเมื่อเขาหน้าด้านมาแล้วก็แค่เพิ่มตะเกียบอีกคู่หนึ่งเท่านั้น หรือไม่ก็สั่งอาหารให้เขาสักชุดแล้วให้เขาไปกินโต๊ะอื่นก็ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง