สีหน้าของอู๋อิงจัวเปลี่ยนไปเล็กน้อย และเขารู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เขาจึงถามอย่างรวดเร็ว
“หมอฉิน พูดให้ชัดเจนหน่อยครับ!”
ฉินจุนพูด “ชีพจรของคุณอยู่ในลักษณะจม ซึ่งสามารถแบ่งออกคร่าวๆ ได้เป็นสองสาเหตุ สาเหตุที่หนึ่งคือความปั่นป่วนของกระแสเลือด มีเลือดเข้ามาเติมเยอะ จึงทำให้ชีพจรจมลงไป”
“และสาเหตุอื่น คือลมปราณล้มเหลว ทำให้เลือดไม่ไหลเวียนได้ จึงทำให้ชีพจรจม”
“เท่าที่ผมเดา คุณน่าจะอยู่ในประเภทที่สอง”
ฉินจุนพูดคำศัพท์ทางการแพทย์มากเกินไป อู๋อิงจัวได้ยินก็ยังงงเล็กน้อย
ฉินจุนกล่าวอีกครั้งว่า “พูดง่าย ๆ ก็คือถึงแม้ว่าชีพจรของคุณดูเหมือนดีมาก แต่จริง ๆ แล้วเป็นเพราะเลือดในร่างกายคุณอ่อนแอเกินกว่าจะไหลเวียนได้ มันอยู่ได้แค่ในส่วนแกนกลางเท่านั้น ดังนั้นมันจึงดูเหมือนว่าชีพจรแข็งแรงมาก แต่อันที่จริงแล้วแขนขาของคุณเริ่มมีปัญหาแล้ว”
อู๋อิงจัวรู้สึกว่าสิ่งที่ฉินจุนพูดนั้นสมเหตุสมผล เขามักจะรู้สึกว่ามันแปลกอยู่ตลอด แต่เขาก็เอาแต่คิดว่าอาการเหล่านี้เกิดจากวัยชราเท่านั้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น
ฉินจุนกล่าวว่า “ตามการคาดเดาของผม ช่องว่างสำคัญหลัก ๆ ของคุณถูกปิดกั้น ทำให้เลือดไม่ไหลเวียน และการอุดตันนี้ทำให้เลือดไม่สามารถย้อนกลับได้ ทำให้มือและเท้าชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง และเป็นลมเป็นบ่อย ๆ”
“อาการนี้ในการแพทย์แผนจีนจะเรียกว่าโรคโรยรา แพทย์แผนตะวันตกจะเรียกว่าโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง”
“อะไรนะ!”
รูม่านตาของอู๋อิงจัวหดตัวทันที และเขาก็ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว
เขาไม่เคยได้ยินชื่อโรคโรยราเลย แต่เขาเคยได้ยินโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
นี่เป็นโรคที่รักษาไม่หายโรคหนึ่ง บนโลกนี้ไม่มีทางรักษาได้ แม้แต่สาเหตุของโรคก็ยังไม่มีงานวิจัยออกมา ถ้ามีก็รักษายากจริง ๆ
“หมอฉินมีวิธีรักษาไหม?”
ฉินจุนเงียบไปครู่หนึ่ง “มีน่ะมี แต่ยารักษาหายากมาก คุณต้องลองเสี่ยงดวงดู ฉันจะทำการรักษาให้คุณไปทีละขั้น ๆ แม้ว่ามันจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็สามารถรักษาอาการปัจจุบันของคุณได้ จะได้ไม่ทรุดไปกว่านี้”
“คุณต้องมีคนอยู่ ๆ ข้างตลอด ต้องมีคนคอยดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง เรื่องนี้คุณน่าจะทำได้ง่ายมาก”
“ถ้าผมหาสมุนไพรนั้นเจอก็จะสามารถนำมารักษาคุณได้”
อู๋อิงจัวดูเคร่งขรึมและคำนับให้ฉินจุนหนึ่งครั้ง
“ขอบคุณมากครับคุณฉิน!”
หากเป็นหมอคนอื่น อู๋อิงจัวอาจจะไม่เชื่อ แต่เขาได้เห็นทักษะทางการแพทย์ของฉินจุนมากับตาของเขาเอง คนที่ช่วยชีวิตหลานสาวของเขากลับมาได้ เขาต้องหาทางช่วยได้แน่
มีประโยคหนึ่งของหมอฉิน เขาจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกหลายปีบนกระดูกแก่ ๆ นี้
อู๋อิงจัวแอบคิดว่าไม้ไผ่ของหวาถัวที่มอบให้เขาไปเมื่อสักครู่นั้นคุ้มค่าจริง ๆ ไม่เช่นนั้นฉินจุนคงจะไม่ได้มาตรวจชีพจรให้เขา และก็จะไม่พบอาการป่วยหนักเช่นนี้ ถ้ามันช้าไปอีกสองปีอาจจะได้นั่งรถเข็นไปแล้ว
เมื่อถึงตอนนั้นเขาก็ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ อู๋อิงจัวก็คงจะรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น
ในตอนนี้อู๋อิงจัวก็ยิ่งเคารพฉินจุนมากขึ้นไปอีก
…….
หลังจากออกจากเมืองโบราณ ฉินจุนก็กลับไปที่บ้านตระกูลจู้ วันนี้หวังหยุนค่อนข้างอารมณ์ดี เพราะซื้อสมบัติล้ำค่าเช่นนี้มาได้
แต่หลังจากกลับบ้านมาปรึกษากันแล้ว และจู้หย่งและจู้หลินหลินพ่อลูกต่างก็ไม่เห็นด้วยกับเธอที่เธอไปฉวยเอาเงินสิบล้านนี้มา เพราะจู้หลินหลินเป็นคนเห็นกับตาของเธอเอง ว่าหวังหยุนไม่เชื่อพี่เสี่ยวจุนเลย เป็นเธอเองที่ต้องการขายออกไปในราคาหนึ่งแสน
หวังหยุนโมโหมาก ทั้งพ่อทั้งลูกต่างก็ไม่เข้าข้างเธอเลย ทำอย่างกับไม่ใช่คนในครอบครัวตัวเอง แต่เป็นเหมือนคนนอก!
ไม่ถึงบ่ายโมงผู้อาวุโสเกาก็หาคนที่ต้องการซื้อได้แล้ว เพื่อแสดงความจริงใจ เขาจ่ายเงินก่อนแล้วค่อยมารับสินค้าไป
หลังจากที่เงินสิบล้านเข้ามาในบัญชีของฉินจุน ผู้อาวุโสเกาก็ค่อยมาเอาแหวนนิ้วหัวแม่มือไป
หวังหยุนอิจฉามาก นั่นมันเงินสิบล้านเลยนะ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง