เดิมทีหวังหยุนก็ไม่ชอบฉินจุนอยู่แล้ว มาวันนี้ครอบครัวของพวกเขามีโอกาสได้มาทานอาหารกับประธานเมิ่งที่เป็นคนใหญ่คนโตเช่นนี้ แน่นอนว่าไม่สามารถพาไอ้หมอนี่มาได้
เพื่อไม่ให้คนอื่นเข้าใจผิดว่า ครอบครัวของพวกเขายังมีความสัมพันธ์เหมือนเดิมกับฉินจุนอยู่
ฉินจุนมีข้อสงสัยอยู่บ้าง “ไปที่ไหน?”
จู้หลินหลินพูดว่า “พี่เสี่ยวจุน ประธานเมิ่งของตระกูลเมิ่งกรุ๊ป ต้องการเลี้ยงข้าวน่ะ”
ฉินจุนนิ่งงันไปเล็กน้อย กำลังคิดจะถามว่าพวกคุณรู้ได้ยังไง แต่เมื่อเขาย้อนคิดกลับไปอีกครั้ง เหมือนกับเมื่อกี้เขาพูดว่ากำลังอยู่ที่บ้านตระกูลจู้ คาดว่าเมิ่งเหวินกังคงจะได้ยินเข้าแล้ว ดังนั้นจึงได้เชิญพวกเขาไปด้วยเลยแล้วกัน
ฉินจุนพยักหน้า “งั้นพวกคุณเองก็ไปพร้อมกันเถอะ”
พูดจบแล้ว ฉินจุนก็ออกไปก่อน
หวังหยุนตะลึงไปก่อน หลังจากนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า
“เขานี่มันยังไงกัน! ทำตัวบ้าบออะไรน่ะ พูดเหมือนกับว่าเขาจะพาพวกเราไปอย่างนั้น มันจะน่าขำเกินไปแล้วรึเปล่า?”
“เห็นๆอยู่ว่าประธานเมิ่งเชิญแค่พวกเราตระกูลจู้ เกี่ยวข้องอะไรกันกับเขาน่ะ? แกดูท่าทางมั่นอกมั่นใจนั่นของเขาสิ!?”
จู้หลินหลินพูดอย่างเอือมระอาว่า “แม่พูดให้น้อยลงหน่อยเถอะ เดิมทีแล้วเมื่อก่อนพวกเราทั้งสองตระกูลก็ดีกันเหมือนกับเป็นคนในครอบครัวกันอย่างไรอย่างนั้น จะแบ่งแยกจริงๆจังไปทำไมน่ะ?”
หวังหยุนจ้องมองเขม็ง
“แม่จะบอกแกไว้นะจู้หลินหลิน แกอย่าคิดว่าแม่ดูไม่ออก แม่ไม่มีทางอนุญาตให้แกอยู่กับเขา แกก็รีบตัดใจซะเถอะ เขามีฐานะอะไร? คู่ควรกับแกไหม!”
“ไม่มีฐานะของคุณชายใหญ่แล้ว ยังจะใช้อารมณ์นิสัยเหมือนคุณชายใหญ่อยู่อีก คนแบบนี้ อยู่ในสังคมต่อไปช้าเร็วก็ต้องเสียเปรียบ”
หลังจากกลับมานั้น หวังหยุนก็ไม่พอใจต่อฉินจุนอย่างมาก จู้หลินหลินเองก็จนปัญญาทำอะไรไม่ได้
“พอได้แล้วแม่ ไม่ต้องพูดแล้ว รีบไปกันเถอะ อย่าให้ประธานเมิ่งรอนานเลย”
ในเวลานี้ฉินจุนขึ้นไปอยู่บนรถแล้ว เป็นรถส่วนตัวที่ซุนเจี้ยนหมิ่นส่งมารับ
หลังจากหวังหยุนออกมาแล้ว พบว่าฉินจุนไม่อยู่ ก็เบ้ปากออกในทันที
“ก็ยังค่อนข้างรู้ตัวอยู่บ้างนะ นั่งรถประจำทางไปเองแล้ว?”
แม้ว่าฉินจุนจะยังไม่ไป หวังหยุนเองก็ไม่มีทางให้เขาขึ้นรถ เพียงแค่หวังว่าไปแล้วก็อย่าสร้างความลำบากให้เธอ ต่อหน้าคนใหญ่คนโต อย่าพูดจาซี้ซั้วก็พอแล้ว
ครอบครัวสามคนของจู้หลินหลินก็ขับรถออก มาถึงโรงแรมจื่อจิงฮวา
ที่นี่แทบจะเป็นภัตตาคารที่มาตรฐานดีที่สุดของทั้งพื้นที่ตงไหแล้ว ทันทีที่หวังหยุนลงมา ก็รีบจ้ำอ้าวตลอดทางตรงเข้าไปยังห้องอาหารที่อยู่ด้านใน
เพราะตอนที่อยู่ด้านนอกเธอเห็นรถหรูหราสองคัน ไม่แน่ว่าประธานเมิ่งก็มาถึงก่อนล่วงหน้าแล้ว
เชิญฉินจุนมาทานอาหาร แน่นอนว่าเมิ่งเหวินกังและซุนเจี้ยนหมิ่นจะต้องมาถึงก่อนล่วงหน้าอยู่แล้ว
หลังจากหวังหยุนเข้าไปแล้ว ก็รีบเข้าไปในห้องส่วนตัววีไอพีในทันที
ผลักประตูเข้าไป ก็เห็นซุนเจี้ยนหมิ่นเมิ่งเหวินกังทั้งยังมีฉินจุนอยู่ด้วยนั่งด้วยกันสามคนภายในนั้น
สีหน้าของหวังหยุนเปลี่ยนไป ขมวดคิ้วและพูดออกไปทันทีว่า
“ฉินจุน! ทำไมคุณมานั่งอยู่ตรงนั้นแล้ว รีบมานี่!”
เจ้าฉินจุนนี่ ก็ไม่สำเหนียกตัวเองมากเกินไปแล้วนะ กลับนั่งอยู่บนหัวโต๊ะซะได้
เดิมทีคิดว่าจะมีเพียงประธานเมิ่งเมิ่งเหวินกัง คิดไม่ถึงว่าผู้บริหารซุนเองก็อยู่ด้วย นี่ทำให้เธอแปลกใจมากจริงๆ
คนใหญ่คนโตอยู่ด้วยขนาดนี้ ฉินจุนกลับนั่งอยู่ที่ตำแหน่งหัวโต๊ะได้อย่างหน้าไม่อาย แยกแยะดีเลวไม่ออกเลยจริงๆ!
เมื่อกี้หวังหยุนกำลังคิดจะสั่งสอนฉินจุน ผู้บริหารซุนก็พูดขึ้นมาก่อน
“นั่งอย่างนี้ก็แล้วกันเถอะ”
เช่นนี้หวังหยุนถึงเป่าลมออกมาอย่างโล่งใจ ระดับผู้บริหารก็ยังไม่ได้สนใจ เธอเองก็ทำได้แค่ปล่อยๆมันไป แต่ยังไงก็ยังจ้องมองฉินจุนทีหนึ่งอย่างดุดัน หวังว่าเจ้าหมอนี่อย่าได้ทำอะไรซี้ซั้ว อย่าพูดจามั่วซั่ว
หลังจากนั่งลงไปแล้ว เมิ่งเหวินกังก็ถามจู้หลินหลินเกี่ยวกับเรื่องของบริษัทยาเหวินเหอสองสามคำ เพราะยังไงทั้งสองบริษัทก็มีการร่วมมือกันทำงานอยู่บางส่วน
จู้หลินหลินได้รับความสนใจอย่างไม่คาดฝัน เธอรีบตอบคำถามแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างตั้งใจจริงจัง เพราะกลัวว่าจะมีส่วนไหนที่ทำให้ประธานเมิ่งเกิดความไม่พอใจ
แต่ในความเป็นจริงแล้ว เดิมทีใจของเมิ่งเหวินกังก็ไม่ได้อยู่ตรงนี้ เพียงแค่ทักทายเรื่อยเปื่อยไปไม่กี่ประโยคเท่านั้น
หวังหยุนพูดพร้อมหัวเราะหึๆ
“ประธานเมิ่งวางใจได้ พวกเราจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน คุณให้รายการกับพวกเราเยอะขนาดนั้น พวกเราก็ยังไม่ได้ตอบแทน ข้าวมื้อนี้ก็ให้พวกเราเลี้ยงเถอะ เป็นการแสดงความขอบคุณ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง