แม้ว่าจะพยายามยื้อให้ฉินจุนและเย่หวันเอ๋อกินข้าวที่บ้าน แต่ว่าฉินจุนก็ยังต้องการไป ต้วนเป่าตงเองก็ทำได้แค่ปล่อยไป เพราะยังไงตอนนี้เขาก็ยังจำเป็นต้องรักษาตัวเงียบๆ ไม่เหมาะกับการสมาคม
ออกจากบ้านของต้วนเป่าตง เย่หวันเอ๋อมองไปที่ฉินจุน ถามว่า
“พี่เสี่ยวจุน ทำอย่างนี้กับหมอหลิว… โหดเหี้ยมเกินไปหรือเปล่า?”
ในตอนแรกที่เย่หวันเอ๋อหางานทำไม่ได้ แม้ว่าหลิวหมิงเต๋อคนนั้นจะมีความคิดชั่วร้าย แต่ดีเลวยังไงก็ให้เงินเดือนไม่กี่เดือนนี้กับเธอ ทำให้ชีวิตที่ความยากจนข้นแค้นของเธอดีขึ้นหน่อย
ฉินจุนพูดว่า
“กล้าคิดไม่ดีกับคุณ เห็นแก่ที่เขาเป็นหมอ ผมถึงไม่ได้เอาชีวิตเขา”
เย่หวันเอ๋อตะลึงไป ฉินจุนพูดอย่างง่ายๆสบายๆ เหมือนพูดเรื่องธรรมดามากเรื่องหนึ่ง
เอาชีวิตเขา?
“พี่เสี่ยวจุน… ไม่กี่ปีนี้ คุณใช้ชีวิตมายังไง?”
ฉินจุนถอนหายใจ “หลังจากนี้ค่อยบอกคุณแล้วกัน ตอนนี้พวกเรากลับบ้านกัน?”
เย่หวันเอ๋อหน้าแดงเล็กน้อย กลับบ้านคำๆนี้พี่เสี่ยวจุนพูดอย่างลื่นปากมากเกินไปแล้ว
จำได้ว่าตอนเด็กๆเคยเล่นพ่อแม่ลูกกัน ทั้งยังแบ่งกันแสดงเป็นภรรยาและสามีกันบ่อยๆ วันนี้เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว คิดกลับไป แก้มก็ยิ่งพองขึ้น ใบหน้าแดงก่ำ
“ไปรับแม่ฉันก่อนแล้วกัน”
คุณผู้ชายหลงเป็นคนขับรถพาพวกเธอสองคนส่งกลับมายังคลินิก เย่หวันเอ๋อยืนอยู่หน้าคลินิกมองหารถมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้าคันเล็กของเธอเจอแล้ว
“พี่เสี่ยวจุน คุณคงไม่รังเกียจรถของฉันใช่ไหม?”
เธอเห็นกับตาตัวเอง ว่าฉินจุนรักษาง่ายๆก็ได้เงินมาแล้วสิบล้าน และตอนนี้เธอก็ขี่แค่รถพลังงานไฟฟ้าคันเล็กราคาพันกว่าหยวนเท่านั้น รู้สึกต่ำต้อยอยู่บ้าง
ฉินจุนพูดกลั้วหัวเราะ “ไม่มีทาง ทั้งหมดก็เพราะผม ถึงทำให้คุณเป็นแบบนี้”
ถ้าไม่ใช่เพราะช่วยฉินจุนเอาไว้ในปีนั้น เย่หวันเอ๋อในตอนนี้ก็คงยังใช้ชีวิตอย่างลูกสาวคนรวย
เย่หวันเอ๋อหัวเราะขึ้น ดวงตาหยีจนเป็นจันทร์เสี้ยว
“พี่เสี่ยวจุน ฉันไม่เคยเสียใจที่ช่วยคุณเลย คุณมีชีวิตอยู่ได้ มันช่างดีมากจริงๆ พ่อแม่ฉันเห็นคุณก็คงจะดีใจมากเหมือนกันแน่นอน ไปกันเถอะ ไปรับแม่ฉันแล้วกลับบ้านกินข้าว”
ฉินจุนพูดว่า “ดี ไม่ได้กินข้าวที่น้าหวังทำมาสิบปีแล้ว ผมขับให้”
ฉินจุนขี่รถพลังงานไฟฟ้า ให้เย่หวันเอ๋อนั่งอยู่ด้านหลัง
มองดูไหล่กว้างของฉินจุน มือของเย่หวันเอ๋อก็ไม่รู้ว่าควรจะวางไว้ตรงไหน สุดท้ายก็ได้แต่กำเสื้อตรงตำแหน่งเอวของเขาไว้
อย่างรวดเร็ว ทั้งสองคนก็มาถึงร้านอาหารเหอซุ่น
ร้านอาหารเหอซุ่นนี้ เป็นร้านอาหารแฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งในเมืองตงไห่ ขนาดไม่เล็ก ได้ยินว่าเจ้าของมีอำนาจมาก
หวังเหมยแม่ของเย่หวันเอ๋อทำงานอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว มีเงินเพิ่มจากอายุการทำงานและเบี้ยขยับ ตอนนี้เงินเดือนเองก็ถึงสี่พันหยวนแล้ว แม้ว่าจะลำบากสักหน่อย แต่ก็ได้เงินมาไม่น้อย
วันนี้ก็ถึงวันรับเงินเดือนอีกแล้ว หวังเหมยมองดูข้อความบนมือถือช้ามากแล้วแต่ก็ยังไม่มีเงินเข้า และก็ใกล้จะเลิกงานแล้ว เธออดทนไม่ไหวอยู่บ้าง
“หัวหน้า เงินเดือนของฉันยังไม่เข้าบัญชี คุณตรวจ…”
ผู้จัดการร้านชื่อว่าซุนถง ยี่สิบกว่าปี ค่อนข้างวัยรุ่น
ได้ยินคำพูดของหวังเหมย บนใบหน้าของซุนถงก็มีสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม พูดเรียบๆว่า
“น้าหวัง เดือนที่แล้วเหมือนคุณจะลาหนึ่งครั้งใช่ไหม?”
หวังเหมยชะงัก “ค่ะ เดือนที่แล้วสามีฉันป่วย ฉันลาหนึ่งวัน”
“ในเมื่อเคยลา งั้นเบี้ยขยันห้าร้อยหยวน ก็จะไม่ให้คุณแล้ว”
หวังเหมยขมวดคิ้ว “หัวหน้า พนักงานอย่างพวกเรามีสิทธิ์ลาหนึ่งครั้งในแต่ละเดือน ลาแค่ครั้งเดียว ไม่หักเบี้ยขยันทั้งหมด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง