…..
ฉินจุนพาญาญ่าไปทานข้าวก่อน จึงพาไปที่โรงแรมจื่อจิงฮวา เขาโทรสั่งให้เพ่ยเหลียงจัดอาหารให้เขาอย่างดีหนึ่งโต๊ะ
ข้าวมาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ ญาญ่ากลืนน้ำลายแต่เธอก็ยังคงนั่งนิ่งๆ
ฉินจุนถามออกมาว่า “ทำไมไม่ทานหละ?”
ญาญ่าพูดออกมาว่า “เจ้าของยังไม่ทานเลย ฉันจะทานได้อย่างไร”
ฉินจุนถอนหายใจและพูดออกมาว่า “ญาญ่า ฉันไม่ได้แบ่งแยกว่าใครเป็นแขกหรือเจ้าภาพทั้งนั้น เธอคือน้องสาวของฉัน เธอเองก็ทำตัวตามสบายได้เลย ทานเถอะ”
ไม่รู้เหมือนกันว่าว่าญาญ่าได้ฟังมันเข้าหูไปหรือเปล่า เธอยิ้มออกมาและเริ่มทานอาหาร
ญาญ่ากินอย่างระมัดระวัง เคี้ยวช้าๆ และสุภาพมาก เธอรู้วิธีใช้ตะเกียบสาธารณะและตะเกียบส่วนตัว
ถ้าหากพูดกันตามจริงเธอคงถูกครอบครัวเคี่ยวเข็ญมาอย่างหนักหนา เธอถึงได้ทานอาหารได้ระมัดระวังถึงขนาดนี้
ในตอนที่ฉินจุนกำลังกินอยู่ เขาก็มองเห็นว่าในขณะที่ญาญ่ากินข้าว เธอก็แอบเอาเศษขนมปังทำให้เป็นก่อนเล็กๆวางไว้ใต้โต๊ะราวกับว่าเธอต้องการที่จะห่อมันกลับไป
เมื่อเห็นการกระทำของเธอ ฉินจุนก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ
“ญาญ่า ต่อไปนี้ไม่ต้องทำแบบนี้อีกนะ ถ้าอยากกินก็บอกฉันฉันสามารถพาเธอไปได้ทุกเมื่อ”
ใบหน้าของฉินญาญ่าแดงระเรื่อ เธอเอาของที่เธอแอบไปใส่กระเป๋าออกมา
“ขอโทษ วันหลังฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว”
ฉินจุนยิ้มออกมาแบบขมขื่น “ฉันไม่ได้ว่าอะไร แต่ว่าเธอไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น หลังจากนี้ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอหิวอีก”
ญาญ่าพยักหน้า “ขอบคุณ”
เมื่อมองใบหน้าที่แสนน่ารักของเธอ ฉินจุนก็เหมือนจะไม่ได้ยินที่เธอพูด กว่าจะทำให้เธอเคยชินกับชีวิตแบบนี้คงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง
หลังจากที่กินข้าวอิ่มแล้ว จิตใจของฉินญาญ่าก็ดีขึ้นมาเลย
ฉินจุนยื่นรูภาพให้ฉินญาญ่าดู ฉินญาญ่าเองก็เหมือนจะเคยเห็น
“ที่คือพ่อของฉัน นี่คือแม่ของฉัน ใช่ไหม?”
ฉินจุนพยักหน้า “เธอเคยดูมันแล้วเหรอ?”
ฉินญาญ่าส่งเสียงตอบรับกลับมา เธอน่าจะเคยเห็นภาพนี้แล้ว แต่ในตอนที่เธอเกิดมาคุณลุงกับคุณป้าก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว เธอคงจะไม่ได้มีความทรงจำอะไรเกี่ยวกับพวกเขา
“พ่อของเธอก็คือคุณลุงของฉัน ดังนั้นฉันคือพี่ชายของเธอ หลังจากนี้ฉันเป็นญาติของเธอ เธอเข้าใจไหม?”
ฉินญาญ่าเงยหน้าขึ้นและถามฉินจุนมาด้วยความสนใจ
“งั้น…ฉันจะได้เข้าเรียนไหม?”
เธอเติบโตขึ้นมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและมีประสบการณ์ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหลายแห่งและเธอก็ไม่ชอบความรู้สึกตอนที่อยู่ในนั้นเลย เธออยากจะเข้าโรงเรียนมากกว่า
เด็กในวัยเดียวกันไปโรงเรียนทุกวันและมองดูพวกเขาถือกระเป๋านักเรียนและอ่านหนังสือในห้องเรียน ญาญ่าอิจฉาเด็กเหล่านั้นจริงๆ
ฉินจุนพูดออกมาว่า “ได้ อยากเข้าโรงเรียนใช่ไหม งั้นฉันจะจัดการให้เธอเดี๋ยวนี้”
ฉินจุนโทรไปหาซุนเจี้ยนหมิน และพบว่ามีโรงเรียนรัฐบาลที่ดีหลายแห่งในตงไห่ แต่โรงเรียนที่ดีที่สุดเป็นโรงเรียนเอกชนที่เพิ่งจะก่อตั้งได้ 9 ปี ชื่อว่า โอ้ไห่
โรงเรียนโอ้ไห่นี้เป็นโรงเรียนเอกชนที่มีระบบ 12 ปี ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลายจนถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัย สภาพแวดล้อมดีมาก คนรวยเท่านั้นที่สามารถเข้าเรียนได้ และนักเรียนหลายคนก็สอบได้คะแนนที่ยอดเยี่ยม
เมื่อตรวจสอบจากผลคะแนนของการสอบเข้ามหาวิทยาลัย โรงเรียนนี้ถือว่าติดอันดับต้นๆของประเทศ
นอกจากคะแนนที่ดีแล้ว มารยาทก็ดีด้วย แต่ราคามันก็แพงมากเช่นกัน
ฉินจุนเองก็ไม่ใช่คนที่ขาดเงินหรืออย่างไร ในเมื่อฉินญาญ่าอยากเข้าเรียน เชาก็ต้องหาโรงเรียนที่ดีที่สุดใจ
หลังจากที่ฉินจุนโทรหาข้อมูลแล้ว เขาก็โทรไปหา ผอ. โรงเรียนทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง