ทำไมถึงคิดไม่ถึงว่าคนที่อยู่ข้างหน้าของเขาคนนี้เป็นปรมาจารย์ฉิน?
เหลียงยี่กัดฟัน เขารู้สึกเสียใจมาก ถ้าเขารู้แบบนี้ตั้งแต่แรกว่าคนที่อยู่ด้านหน้าของเขาคือปรมาจารย์ฉิน เขาคงไม่ใส่อารมณ์ไปแบบนั้น
ถ้าไม่อย่างนั้นเขาก็อาจจะสามารถให้ปรมาจารย์ฉินดูอาการให้กับเขา ไม่แน่ว่าโรคของเขาก็อาจจะถูกรักษาด้วย
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะรับเลี้ยงโฮ่วเจียมาแล้ว แต่ถ้าหากเขาสามารถมีลูกเป็นของตัวเองได่มันจะไม่ดีกว่าเหรอ?
“พ่อ ฉันเจ็บหน้า”
โฮ่วเจียที่อยู่ข้างๆร้องออกมาพร้อมกับดึงแขนของเขา ท่าทางของเธอเหมือนกับเด็กที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เหลียงยี่กัดฟันและพูดออกมาว่า “ลูกวางใจ พ่อเรียกคนมาแล้ว อยากรู้จริงๆว่าเขายังจะกล้าอวดดีไหม!”
ไม่นานรถคันหนึ่งก็ขับเข้ามา ชายหนุ่มหลายคนลงมาจากรถ
ชายหนุ่มเหล่านี้แต่งตัวเป็นทางการมาก เดินเข้ามาด้วยท่าทางเรียบร้อย ดูมีหน้ามีตาในสังคม
“ประธานเหลียงเรียกพวกเรามา มีเรื่องอะไรเหรอ?”
เหลียงยี่พูดออกไป “คุณหมอทุกท่าน ลูกของฉันถูกทำร้าย เรียกพวกคุณมาจัดการเขา”
พูดจบเหลียงยี่ก็ชี้นิ้วไปที่ฉินจุน “นั่นไง เขา!”
เหล่าหมอที่มามองไปตามที่เหลียงยี่ชี้ไป สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที
“ปรมาจารย์ฉิน!”
ฉินจุนตกใจเล็กน้อย คนพวกนี้เขาไม่รู้จักเลยสักคน แต่ด้วยชื่อเสียงที่เขามีตอนนี้ทำให้คนมากมายรู้จักเขา
หมอพวกนี้รีบวิ่งเข้ามาจับมือกับฉินจุน “ปรมาจารย์ฉิน พวกเราเป็นหมอทรวงอก ก่อนหน้านี้พวกเราเคยเจอคุณที่โรงพยาบาล”
ฉินจุนพยักหน้า ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ก่อนหน้านี้เขาเคยไปช่วยหลินเยวี่ยเหยารักษาคนไข้ที่โรงพยาบาลทรวงอก มีคนเคยเห็นเขามันก็ไม่แปลก
สีหน้าของเหลียงยี่เปลี่ยนไป คิดไม่ถึงจริงๆว่าเจ้าหนุ่มคนนี้จะเป็นปรมาจารย์ฉินจริงๆ หมอที่เรียกมาก็รู้จักเขาทุกคน แบบนี้มันจะแย่เกินไปแล้ว
“ประธานเหลียง ต้องขอโทษด้วย พวกเราเป็นเพื่อนกับปรมาจารย์ฉิน เรื่องนี้เราช่วยคุณไม่ได้จริงๆ”
เดิมทีก็ไม่ได้อยากมาทำร้ายใครอยู่แล้ว แค่เห็นว่าเหลียงยี่เป็นคนที่มีอิทธิพลกับวงการของยาเพวกเขาจึงมาช่วย และในตอนนี้ก็มาเจอกับปรมาจารย์ฉิน พวกเขาไม่มีทางที่จะลงมือแน่
สีหน้าของเหลียงยี่แย่ลงอย่างเห็นได้ มองไปที่ฉินจุนแต่พูดอะไรไม่ออกสักคำ
“นาย…นายรอก่อน รอเดี๋ยว อยากจะเข้าโรงเรียนชื่อดังใช่ไหม! ฝันไปเถอะ!”
จากนั้นเหลียงยี่ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรไปหาผู้อำนวยการโรงเรียน “ฮัลโหล? ผู้อำนวยการซุนใช่ไหม ตรงนี้มีเด็กที่ชื่อฉินญาญ่า ห้ามให้เธอเข้ามาเรียนที่นี่เป็นอันขาด ถ้าหากเธอได้เข้ามาเรียนในโรงเรียน ฉันจะไม่ให้ลูกสาวของฉันเข้า เงินบริจาคสองล้านของฉันคุณก็ไม่ต้องเอา!”
พูดจบเหลียงยี่ก็วางสายโทรศัพท์ทันที
ถ้าเป็นครอบครัวทั่วไปถ้าหากคิดจะเข้ามาเรียนที่โรงเรียนนี้ก็จะต้องบริจาคอยู่ที่ราวๆ 2-3 แสน เงินจำนวนสองล้านถือว่าเป็นจำนวนที่มากจนถึงขั้นอยู่ลำดับต้นๆ
เขายอมใช้เงินฟุ่มเฟือยเป็นจำนวนเงิน 2 ล้าน เพื่อที่จะขึ้นไปสู่ยอดบริจาคที่สูงสุดในไม่กี่ครอบครัว และโรงเรียนจะให้ความสำคัญกับเขามากกว่าโดยธรรมชาติและเป็นไปไม่ได้ที่โรงเรียนจะเมินเฉยต่อเหลียงยี่
ผู้อำนวยการพูดออกมาทันที “ประธานเหลียงวางใจ ฉินญาญ่าใช่ไหม ฉันดูชื่อสักครู่…..โอเค เดี๋ยวผมจะเอาชื่อของเธอออกไปให้”
หลังจากที่เหลียงยี่วางสายโทรศัพท์ไปไม่กี่นาทีโทรศัพท์ของฉินจุนก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล ใช่ผู้ปกครองของฉินญาญ่าไหม ฉันมีอะไรจะมาแจ้ง ลูกหลานของครอบครัวคุณไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเข้าโรงเรียนเรา พวกเราไม่สามารถรับเอาไว้ได้ พวกคุณไปหาโรงเรียนใหม่นะ”
ฉินจุนขมวดคิ้วและพูดออกมาว่า “ผู้อำนวยการซุนใช่ไหม คุณแน่ใจนะ?”
ผู้อำนวยการซุนยิ้มและตอบกลับมาว่า “พูดอะไร? ฉันเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนนะ มันแน่อยู่แล้ว คุณไปทำอะไรไว้คุณก็น่าจะรู้อยู่แกใจ?”
ผู้อำนวยการซุนไม่รู้ว่าฉินญาญ่าเป็นใคร เขาแค่เห็นว่ามีชื่อดังกล่าวอยู่ในใบรายชื่อสมัครเข้าเรียนเท่านั้น
เขาก็ไม่ได้ดูให้มั่นใจจริงๆ แต่มีคนจะบริจาคเงินให้ตั้ง 2 ล้าน แบบนี้สถานะของเขาจะต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ แล้วจะไปทำให้เขาไม่พอใจได้อย่างไร?
ฉินจุนยิ้มและพูดออกมาว่า “การดูแลของคุณนี่มันสุดยอดจริงๆ”
ผู้อำนวยการซุนหัวเราะออกมาทางโทรศัพท์ “มันก็ต้องดีกว่านายอยู่แล้ว”
พูดจบผู้อำนวยการซุนก็วางสายโทรศัพท์ไปทันที จากนั้นเขาก็โทรไปที่ รปภ.
“รปภ. ไปเอาตัวเด็กที่ชื่อฉินญาญ่ากับผู้ปกครองของเธอออกไปจากโรงเรียน!”
“ครับ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง