ยัยเด็กผู้หญิงคนนี้นี่ทำอะไรตามอำเภอใจจริง ๆ ตอนที่เธอกระโจนใส่ฉินจุน ที่หลังของเขาก็รับรู้ได้ถึงความอวบอิ่ม ทำเอาจิตใจของฉินจุนไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
และก็ไม่รู้ว่าเฉินเค่อเอ๋อร์ตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ เธอบิดไปบิดมาที่หลังของฉินจุน ก่อนจะหัวเราะคิกคักเอ่ยขึ้นมา
“พี่เขย พี่นี่สุดยอดไปเลยนะ ไอ้อู่ต้าจินอะไรนั่นทำให้ฉันรำคาญสุด ๆ เวลาฉันไปเที่ยวกับคนอื่น ๆ หรือคุยในกลุ่มกับเพื่อน ๆ ทีไรมันจะต้องเสนอหน้าเข้ามายุ่งตลอด ครั้งนี้พี่สั่งสอนมันไปแบบนี้ ต่อไปคงไม่กล้ามาหาเรื่องฉันแล้ว”
ฉินจุนยิ้ม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เขาพาเฉินเค่อเอ๋อร์ไปส่งขึ้นรถ
ถึงแม้ว่าจะไม่อยากจาก แต่ก็ไม่มีทางเลือก ยังไงเฉินเค่อเอ๋อร์ก็ต้องกลับบ้าน
หลังจากแยกกัน ก็ยังไม่จบไม่สิ้น เฉินเค่อเอ๋อร์ส่งข้อความผ่านวีแชทมาหาฉินจุนอย่างรวดเร็ว
“พี่เขย ในอนาคตถ้าพี่ไม่มีใคร พี่เป็นแฟนฉันได้ไหม?”
“……”
ฉินจุนหมดคำจะพูด ยัยเด็กนี่คงจะไม่ได้เล่นละครจนคิดเป็นจริงเป็นจังใช่ไหม?
“ไม่ได้แบบนี้มันผิดต่อพี่สาวของเธอ”
แม้ว่าระหว่างฉินจุนกับเฉินหยวนจะเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมา แต่ว่าถ้าทำแบบนี้มันก็ดูไม่ดีอยู่ดี
เฉินเค่อเอ๋อร์ : “พี่เขยพี่วางใจได้ พวกเราไม่ได้เป็นแฟนกันจริง ๆ พี่ก็เป็นแฟนล่องหนของฉัน เป็นไงเวลาที่ฉันต้องการพี่ พี่ก็มาปรากฏตัวแค่นั้น!”
ฉินจุนยิ้มฝืน ๆ เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินคำว่าแฟนล่องหน แปลกมาก ๆ
“หึหึ ไว้ค่อยคุยก็แล้วกัน”
“พี่ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ ฉันจะถือวะว่าพี่ตกลงแล้ว!”
เฉินเค่อเอ๋อร์ไม่สนสี่สนแปด เออออไปว่าฉินจุนเป็นแฟนล่องหนของตัวเองไปเลย
เดิมทีฉินจุนตั้งใจว่าจะกลับบ้าน แต่ว่าพอมาคิด ๆ ดูอีกไม่กี่วันก็จะมีการจัดการแข่งขันสหภาพแพทย์อัจฉริยะ ไม่รู้ว่าหลินเยวี่ยเหยาได้ข่าวนี้หรือยัง
ตั้งแต่ที่ฉินจุนช่วยหลินเยวี่ยเหยาเอาไว้เมื่อครั้งที่แล้ว ลูกพี่ลูกน้องของเขาคนนี้ก็ปฏิบัติตัวต่อเขาเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย ตอนนี้อย่างน้อยเธอก็ทำตัวเหมือนเป็นน้องสาวของเขา
เพียงแต่ว่าตอนนี้หลินเยวี่ยเหยายังไม่รู้ว่าฉินจุนคือท่านปรมาจารย์ฉิน ไม่อย่างนั้นคงทำตัวดีกับฉินจุนมากขึ้นไปอีก
พอมาถึงที่บ้านของป้ารองขณะที่เข้ากำลังเดินเข้าบ้าน ก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังออกมาเหมือนกำลังทะเลาะกัน
พอฉินจุนเดินเข้ามา ดวงตาของถังหมิ่นก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที เธอเองเสียงเบา
“ฉินจุนมาแล้วรีบเข้ามาเร็วลูก!”
หลังจากให้ฉินจุนเปลี่ยนรองเท้า ถังหมิ่นก็ชี้ไปที่ห้องนอนของหลินเยวี่ยเหยาแล้วเอ่ย “หลินเยวี่ยเหยาอยู่ในห้องกับพวกเพื่อน ๆ สมัยมหาลัยน่ะ เหมือนกำลังทำการค้นคว้าวิจัยความรู้กันน่ะ”
ฉินจุนเอ่ยอย่างเอือมระอา “อันนี้ค้นคว้าวิจัยหรือว่าทะเลาะกันแน่ครับ?”
เสียงจากในห้องไม่เบาเลย ด่าโวยวายไปทั่ว
ถังหมิ่นเองก็หัวเราะอย่างจนใจ เวลาเพื่อนสมัยเรียนของหลินเยวี่ยเหยามาที่นี่ทีไรเป็นแบบนี้ทุกที เดิมทีทุกคนก็ต่างเป็นพวกเด็กเรียนชอบถกประเด็นกันในเรื่องต่าง ๆ
แถมแต่ละคนยังเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลใหญ่ ๆ กันทั้งนั้น อายุพอ ๆ กัน ความสามารถก็พอ ๆ กัน เพราะฉะนั้นจึงมักชอบถกเถียงประเด็นต่าง ๆ กัน
พวกเรื่องที่เกี่ยวกับเทคนิคทางการแพทย์ บางครั้งก็เถียงกันเป็นชั่วโมงๆ
ถังหมิ่นผลักประตูเข้าเคาะประตูก่อนจะเอ่ย
“เยวี่ยเหยาลูก ไว้เดี๋ยวค่อยคุยต่อเถอะ พี่ชายเรามาน่ะ”
หลินเยวี่ยเหยาที่กำลังถกเถียงประเด็นอะไรสักอย่างกับเพื่อน ๆ อย่างหน้าดำหน้าแดง พอเห็นฉินจุนมาแล้วก็เอ่ย
“พอดี พี่มาก็ดี พี่ลองพูดในมุมมองของแพทย์แผนจีนมาสิว่าการระบายความร้อนทางกายภาพนั้นจำเป็นมากเลยใช่ไหม!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง