ถงฟางโจวถือว่าเป็นบุคคลที่มีสถานะสูงมากกว่าใครๆ
แม้ว่าในกรณีนี้แล้ว เขาจะเทียบไม่ได้กับไห่เหยาเหยาและเถียนเจียอิ้น และเกรงว่าเขาอาจไม่มีอิทธิพลเท่ากับสองคนนี้เมื่อพูดจริงๆ
แต่ความแข็งแกร่งของถงฟางโจวนั้นแข็งแกร่งมาก เขาเป็นหางเสือของจังหวัดใกล้เคียงที่ คนเดียวคุมทั้งเมือง
ถ้าไม่ใช่เพราะถงฟางโจวที่จะช่วยฉุดพวกเขาไว้ เกรงว่าตระกูลฝูคงจะจบลงอย่างน่าสังเวช และบางทีพวกเขาอาจจะถูกกำจัดออกไปเหมือนตระกูลฉินในตอนนั้น
ดังนั้น ตงฟางโจวจึงเป็นผู้กอบกู้ของพวกเขา และไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยที่จะบอกว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณของพวกเขา
ความเคารพที่มีต่อลูกประธานถงนั้นไม่มีใครเทียบได้
ชายชราตระกูลฝูออกไปทักทายเขาด้วยตัวเอง และส่วนตระกูลฝูคนอื่นๆก็ตามมาข้างหลัง
เมื่อเดินไปถึงประตู ก็เห็นถงฟางโจวพาคนสองสามคนมาที่นี่ด้วย และเขาก็ถือของขวัญบางอย่างไว้ในมือ
ชายชราตระกูลฝูรู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างมาก “ประธานถง! คุณมาก็ถือว่าดีมากแล้ว ยังจะนำของขวัญมาด้วยอีกทำไม?”
ใบหน้าของถงฟางโจวดูไร้อารมณ์ แท้จริงแล้วเขาไม่มีความประทับใจที่ดีต่อตระกูลฝูแต่อย่างใด หากไม่ใช่เพราะคำสั่งของคุณฉิน ถงฟางโจวคงจะกำจัดพวกเขาไปนานแล้ว
“อืม”
ถงฟางโจวเพียงแค่ฮอืมแค่คำเดียว และยื่นของขวัญให้โดยตรง จากนั้นก็เดินเข้าไปในบริเวณลานกว้าง
ทุกคนในตระกูลฝูต่างรู้จะทำตัวอย่างไรดี ประธานถงก็คือประธานถง เขามีพลังและเขาแตกต่างจากนักธุรกิจอย่างพวกเขาอย่างสิ้นเชิง
ประธานถงเข้าไปในสนามและทุกคนก็รีบตามไป หลังจากที่ ประธานถงเข้ามา เขาก็เดินตรงไปหาฉินจุนทันที
เขาเดินไปหาฉินจุนและก้มศีรษะด้วยความเคารพ
“คุณชายฉิน!”
ฉากนี้ทำให้เกิดผลกระทบทางจิตวิทยาอย่างมากต่อสมาชิกตระกูลฝูและแขกที่มาร่วมงาน ราวกับว่าพวกเขากำลังถูกแช่แข็ง
ประธานถงเรียกฉินจุนเป็นคุณชายฉินอย่างนั้นเหรอ? นับถือขนาดนั้นเลยหรือ?
นั่นคือประธานถง หรือที่ใครๆก็เรียกกันว่าลูกพี่ถงเชียวนะ!
ถงฟางโจวแตกต่างจากคนอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง ด้วยความสามารถของเขาแล้ว ต่อให้เป็นคนที่รวยที่สุดของประเทศหรือเจ้าของธุรกินใหญ่ที่สุดในเมืองอย่างพวกเขาก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เขาแสดงความนับถือเช่นนี้ได้
แต่สุดท้าย ถงฟางโจวก็ให้ความเคารพต่อฉินจุน!
ฉินจุนเป็นใครกัน แต่เขาเป็นแค่นายน้อยตกอับเท่านั้นเอง แม้ว่าตระกูลฉินในตอนนั้นจะยังอยู่ แต่ถงฟางโจวก็ไม่น่าจะให้ความเคารพต่อคนนายน้อยของตระกูลฉินเช่นนี้หรอก?
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ฝูเสี่ยวเฟิงเองก็ยังสับสนเล็กน้อย เขาไม่ได้สนใจเรื่องอื่น แต่ถงฟางโจวนั้นถือเป็นแขกคนสำคัญของตระกูลฝูของพวกเขา
ฝูเสี่ยวเฟิงรีบก้าวไปข้างหน้าและกล่าวว่า
“ประธานถง ฉันชื่อฝูเสี่ยวเฟิง การมาที่นี่ของคุณ ทำให้ตระกูลฝูของเรานั้นรู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ โปรดเชิญด้านในเถอะครับ อย่าเสวนากับคนไม่เอาไหนให้เสียเวลาเลย”
หลังจากที่ ฝูเสี่ยวเฟิงพูดจบ ถงฟางโจวก็ขมวดคิ้วทันที
“คนไม่เอาไหนงั้นเหรอ? คุณว่าใครเป็นคนไม่เอาไหนนะ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินจุนก็ยิ้มจาง ๆ “คนไม่เอาไหนที่พวกเขาพูดถึง น่าจะเป็นฉันนี้แหละ”
ถงฟางโจวชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ขมวดคิ้วเป็นปม
ฝูเสี่ยวเฟิงยิ้มจาง ๆ “เหอะเหอะ เขาเป็นเพื่อนจากแดนไกลของครอบครัวของเรา อีกไม่นานเขาก็จะกลับแล้ว อย่าไปสนใจเขาเลยครับ เชิญประธานถงด้านในเถอะครับ!”
ฝูเสี่ยวเฟิงแสดงความกระตือรือร้นของเขา เขาไม่ต้องการเสียเวลากับการพูดถึงฉินจุน ดังนั้นเขาจึงรีบเชิญประธานถงเพื่อเข้าไปในบ้าน
แต่ทันใดนั้นสีหน้าของประธานถงก็มืดมนลงทันทีและเขาก็พูดอย่างเย็นชาว่า
“นี่ไม่ใช่ว่าพวกคุณกำลังเข้าใจผิดอะไรอยู่ใช่ไหม? ใครช่วยครอบครัวของคุณ นี่หรือว่าพวกคุณไม่เคยสำนึกเลยเหรอ?”
ฝูเสี่ยวเฟิงตกตะลึงครู่หนึ่งคิดว่า คิดว่าประธานถงกำลังพูดถึงตัวเขาเอง เขาจึงตอบอย่างรวดเร็วว่า
“ประธานถง พวกเราเคยถามเรื่องนี้มาก่อนแล้ว และเราก็รู้ว่าคุณเป็นคนช่วยเราไว้ ครอบครัวฝูของเรารู้สึกขอบคุณคุณมาก”
ประธานถงหัวเร่าะเยาะ “นี่คุณเข้าใจผิดแล้ว คนที่ช่วยพวกคุณไว้ ไม่ใช่ฉันที่”
ฝูเสี่ยวเฟิงนิ่งครู่หนึ่ง “ไม่ใช่คุณ ถ้างั้นใครกัน? ฮ่าๆ อย่าล้อเล่นเลยครับ ประธานถง เรารู้ว่าเป็นความช่วยเหลือจากคุณ”
ถงฟางโจวหัวเราะเยาะ “ตระกูลฝูของคุณสมองตายจริงๆ คุณคิดว่าจากความคับข้องใจของเรานั้น ฉันจะช่วยคุณได้งั้นเหรอ?”
คำพูดของถงฟางโจวทำให้ใบหน้าของตระกูลฝูมืดมนลงทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้รักษาสุดแกร่ง