PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด นิยาย บท 11

Chris Part

.

“ม้า ยังไม่หายโกรธเหรอครับ” ผมจับมือของหม่าม้ามากุมไว้ ท่านทำท่าจะดึงมือออกแต่สุดท้ายก็ยอมให้ผมจับไว้แบบนั้น

ตอนนี้เรากำลังอยู่บนรถระหว่างเดินทางไปบ้านมาเฟีย เมื่อวานหลังจากคุยกับป๊าเสร็จผมก็ต่อสายตรงถึงคุณย่ามาเฟียและเล่าเรื่องทุกอย่างให้ท่านฟังโดยไม่ปิดบัง ท่านรับฟังแต่โดยดีและอาสาเป็นผู้ใหญ่เข้าไปเจรจากับคุณพิมพ์นภาให้ วันนี้พวกเรายกเว้นครีมที่มีเรียนจึงแห่กันไปที่บ้านของคุณย่าก่อนเพื่อที่จะได้เดินทางไปบ้านคุณพิมพ์นภาพร้อมกัน

“ม้าคร้าบ”

“ไม่ต้องมาเรียกหรอก”

“แต่ผมไม่อยากให้หม่าม้าโกรธ”

“ไม่อยากให้โกรธก็ทำตัวดี ๆ บ้างสิ ป๊าก็ตามใจลูก ถ้าบังคับบ้างคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”

“อ้าว” ป๊าที่นั่งอยู่ตอนหน้าของรถร้องออกมาเมื่อโดนพาดพิง “ทำไมป๊าถึงซวยไปด้วยล่ะเนี่ย”

“ป๊าไม่เกี่ยวหรอกครับ คริสไม่ดีเอง”

“รู้ตัวก็ดี” คำพูดนั้นทำผมหน้าหมองลง ถ้าเลือกได้คงไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องยอมรับและอยู่กับมันให้ได้

.

.

เงียบ

ทุกอย่างอยู่ในความเงียบจนแทบไม่มีใครกล้าหายใจแรง ๆ คุณพิมพ์นภา คุณวัลลภ คุณย่ามาเฟีย มาเฟีย ป๊า หม่าม้า และผม เราต่างนั่งจ้องหน้ากันเหมือนกำลังหยั่งเชิงว่าใครจะเป็นคนพูดก่อน และสุดท้ายคนที่ทนไม่ได้คนแรกก็คือคุณพิมพ์นภานั่นเอง

“คุณป้าคะ ดิฉันคิดว่าเราจะคุยเรื่องแม่พรีมกันเป็นการ *ส่วนตัว* เสียอีก” คุณพิมพ์นภาพูดคำว่าส่วนตัวตัวพร้อมปรายตามองมาที่ครอบครัวของผม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอกำลังบอกว่าครอบครัวผมเป็นส่วนเกิน

หม่าม้าเห็นแบบนั้นก็ขยับตัว แต่ถูกป๊าจับข้อมือไว้ก่อน หม่าม้าเป็นคนอารมณ์ร้อนง่าย โชคดีที่แต่งงานกับป๊าที่เป็นคนค่อนข้างใจเย็น เลยมีคนคอยรั้งเวลาม้าทำอะไรลืมตัวออกไป

“เรื่องนี้เราต้องคุยกันแบบนี้แหละแม่พิมพ์”

“ดิฉันไม่เข้าใจ”

“อืม...” คุณย่ามองหน้าผม ก่อนจะเอ่ยแนะนำผมให้คุณพิมพ์นภาและคุณวัลลภรู้จัก “นั่นคริส เป็นเพื่อนสนิทของหลานชายฉันเอง คริสเป็นลูกชายของก้องเกียรติและศศิวิมล เจ้าของบริษัทออกแบบภายในที่เป็นพันธมิตรกับบริษัทของฉัน เธอน่าจะรู้จัก”

“ดิฉันพอจะรู้จักคุณก้องเกียรติและคุณศศิวิมลบ้างค่ะ แต่เพิ่งเห็นหน้าลูกชายเขาครั้งแรก แต่เกี่ยวอะไรกับเรื่องของลูกสาวดิฉันหรือคะ”

“เกี่ยวสิ” ผมบีบมือตัวเองแน่นเมื่อคุณย่าเริ่มพูดธุระออกมา หลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นไม่มีใครรู้เลย “เพราะคริสคือพ่อของลูกในท้องหนูพรีม”

“อะ...อะไรนะคะ”

“ผมต้องกราบขอโทษคุณน้าทั้งสองคนด้วยนะครับที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่ผมพร้อมจะรับผิดชอบพริมาตาทุกอย่าง ทั้งตัวเธอ และรวมถึงลูกในท้องของเธอด้วย” ผมรีบแจ้งเจตจำนงของตัวเองให้อีกฝ่ายทราบเพื่อแสดงความจริงใจทันที คุณวัลลภไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ดูเหมือนว่ากำลังคิดไม่ตกกับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนคุณพิมพ์นภาเธอมองหน้าผมด้วยสายตาที่คาดเดาไม่ได้อยู่แบบนั้นหลายนาที และสุดท้ายก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ

“พร้อมงั้นเหรอ เรียนจบหรือยัง”

“เอ่อ...คือผม...”

“ยังใช่ไหม เรียนยังไม่จบ งานยังไม่มีทำ แต่บอกว่าพร้อมจะรับผิดชอบลูกสาวฉันอย่างนั้นเหรอ คิดว่ากำลังเล่นขายของอยู่หรือไง”

“ถึงผมจะยังเรียนไม่จบ แต่ผมก็มีรายได้เป็นของตัวเองนะครับ” ผมพูดถึงรายได้ที่ผมลงทุนในตลาดหุ้น รายได้ต่อปีไม่ใช่น้อย ๆ เลย เพียงแต่การเล่นหุ้นมันค่อนข้างเสี่ยงอยู่มาก แต่ถึงอย่างไรเรียนจบผมก็รับช่วงกิจการต่อจากป๊าอยู่ดี ไม่ใช่ว่าจะเป็นพวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฟ่อเสียเมื่อไหร่

“หึ” คุณพิมพ์นภาตอบแค่นั้น ก่อนจะหันไปหาคุณย่าของมาเฟีย “ขอบพระคุณคุณป้าที่กรุณาหาพ่อของหลานดิฉันมาให้จนได้นะคะ แต่ดิฉันไม่รับไว้ดีกว่า ลูกสาวดิฉันหนีไปไกลถึงที่ออสเตรเลียแล้ว แปลว่าแม่พรีมไม่ต้องการพ่อของเด็ก ดิฉันก็เช่นกัน”

ผมอ้าปากค้างเมื่อได้ยินแบบนั้น ถ้ารู้แบบนี้แล้วตามไปโวยวายไอ้มาเฟียถึงบ้านทำไม ผมไม่เชื่อเลยที่เธอบอกว่าไม่ต้องการพ่อของเด็กให้พรีม ที่คุณพิมพ์นภาพูดแบบนั้นเพราะพ่อของเด็กที่ได้ไม่ใช่คนที่เธอต้องการต่างหาก

ผมชักสงสัยแล้วสิว่าพรีมได้รับความรักจากแม่ตัวเองบ้างหรือเปล่า เพราะผู้หญิงคนนี้ดูไม่ได้แคร์พรีมเลย เอาตัวเองเป็นใหญ่อยู่ฝ่ายเดียว ขนาดเรื่องนี้ยังทำเหมือนพรีมเป็นแค่สิ่งของ เอาเรื่องเสื่อมเสียของลูกไปโพทะนา แล้วสุดท้ายพอได้คนที่ตัวเองไม่ถูกใจก็จะปล่อยให้ลูกสาวอุ้มท้องเพียงลำพังงั้นเหรอ

“ดิฉันไม่ส่งนะคะ ขอตัว” คุณพิมพ์นภาไม่รอให้ใครได้พูดอะไรอีก เพราะเธอลุกขึ้นเดินจากไปทันที แต่ผมไม่ยอมให้เรื่องมันจบแบบนี้แน่ ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด