PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด นิยาย บท 13

Chris Part

.

ผมเดินย้อนกลับไปที่บ้านหลังนั้นอีกครั้งหลังจากที่โดนไล่ไปเมื่อเกือบครึ่งชั่วโมงที่แล้ว เงาของคนสองคนที่เดินไปมาในบ้านทำให้ผมถอนหายใจออกมาเบา ๆ เพราะรู้อยู่แล้วว่าพรีมอยู่กับเพื่อนสนิทที่ชื่อว่าแซนดี้ ก็เลยไม่แปลกใจที่เห็นคนสองคนอยู่ในบ้านหลังนั้น

ผมคิดไม่ตกกับปัญหาที่ต้องเผชิญอยู่ตอนนี้ เรื่องความสับสนของตัวเอง หรือเรื่องของคุณพิมพ์นภากลายเป็นเรื่องเล็ก ๆ ไปเลยเมื่อเจอความดื้อของพรีม ดูท่าเธอจะไม่ยอมอะไรง่าย ๆ ผมเองก็ไม่กล้าวุ่นวายกับเธอมาก เพราะกลัวว่าเธอจะเครียดและส่งผลกับลูกในท้อง แต่ถ้าให้ปล่อยไว้แบบนี้ก็คงไม่ได้ คนท้องท้องก็โตขึ้นทุกวัน ถ้าไม่รีบทำอะไรให้ถูกต้องคนที่เสียหายก็คือพรีมคนเดียว

เสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นทำให้ผมละสายตาจากคนในบ้าน ก่อนจะกดรับสายของเพื่อนสนิท

“อืม”

‘เป็นไงบ้าง’ มาเฟียถามเรียบ ๆ มันเป็นคนบอกที่อยู่ของพรีมให้ผมรู้ รวมถึงที่ทำงานของเธอด้วย และที่มันรู้ก็เพราะว่านับดาวสนิทกับพรีมเลยหลอกถามมาให้ได้ ส่วนสนิทกันตอนไหน เมื่อไหร่ แม้แต่ไอ้มาเฟียเองก็ยังไม่รู้เลย เป็นความสัมพันธ์ที่แปลกชอบกล แฟนสาวกับอดีตคู่หมั้นสาวกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน...

แต่คงไม่มีความสัมพันธ์ไหนที่ยุ่งเหยิงเท่าผมกับพรีมอีกแล้ว อดีตคู่หมั้นของเพื่อนสนิท กลายมาเป็นคู่นอนข้ามคืน และตอนนี้ก็เลื่อนสถานะมาเป็นแม่ของลูก... ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่เดือนด้วยซ้ำ

“เห้อ งานหินเลยว่ะ”

‘ทำไม’

”ตอนแรกก็โกหกว่าไม่ได้ท้อง พอโดนจับได้ว่าโกหกก็โกหกต่ออีกว่าไม่ได้ท้องกับกู สุดท้ายพอเถียงไม่ได้ก็บอกว่ากูทำให้เขาเครียด ทำให้ลูกเครียด กูเลยต้องถอยออกมาก่อน” ผมเล่าพร้อมมองบ้านหลังเล็กที่อยู่ตรงหน้าไปด้วย บ้านที่นี่ราคาเช่าค่อนข้างแพงเอาการ ไม่แปลกเลยที่มนุษย์เงินเดือนสองคนอย่างพรีมและเพื่อนของเธอจะเช่าอยู่ได้แค่หลังเท่านี้ มันเล็กจนผมมั่นใจว่ารองรับเด็กอีกสองคนไม่ได้แน่ ๆ และผมไม่ยอมให้ลูกของตัวเองต้องมาอยู่อย่างแออัดแบบนี้แน่นอน

“พรีมเป็นคนดื้อ” มาเฟียเอ่ยบอกลักษณะนิสัยของอดีตคู่หมั้นให้ผมฟัง “ยิ่งตอนนี้กำลังท้องอยู่ พอฮอร์โมนมันเปลี่ยน อารมณ์ก็จะยิ่งแปรปรวน มึงเจอศึกหนักจริง ๆ แหละ”

“อืม”

“มึงต้องใจเย็น อย่าทำให้เขาเครียด เพราะมันจะส่งผลกระทบกับเด็กในท้องจริง ๆ” มาเฟียเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง “จะเป็นพ่อคนอยู่แล้วหัดซื้อหนังสือดูแลคนท้อง หรือหนังสือดูแลเด็กมาอ่านบ้าง หรือถ้าไม่อยากซื้อในอินเตอร์เน็ตก็มีออกเยอะแยะ ลองหาข้อมูลดู เผื่อจะเข้าใจคนท้องมากขึ้น แล้วจะได้รู้วิธีเข้าหาเขาด้วย”

“มึงดูรู้เรื่องนี้ดีนะ ทำไม นับดาวก็ท้องเหมือนกันเหรอ”

“เปล่า” มันเงียบไปหลายวินาที ก่อนจะตอบออกมาสั้น ๆ

“แล้วทำไมรู้ดีจังวะ”

“เรื่องของกูเถอะ เอาเรื่องของตัวให้รอดก่อนค่อยมาเสือกเรื่องของคนอื่น แค่นี้แหละ”

ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด

“ไอ้เพื่อนเวร...” ผมมองหน้าจออย่างเคือง ๆ มาไกลถึงที่นี่ยังถูกมันด่าจนได้ แถมยังชิ่งตัดสายหนีไม่ทันให้ผมได้สวนกลับอีก “คิดว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง เสือกโทรมาด่าอย่างเดียว”

สุดท้ายผมก็ได้แต่บ่นมันไปกับลมฟ้าอากาศ ก่อนที่จะหันกลับไปมองบ้านหลังเล็กอีกครั้ง ตอนนี้เป็นเวลาเกือบทุ่มแล้ว แสงจากพระอาทิตย์เหลือน้อยเต็มทน ผมตัดสินใจกลับไปตั้งหลักที่อพาร์ทเมนท์ที่เช่าไว้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที

ฉันไม่ยอมแพ้หรอกนะ พริมาตา

.

.

“ฮ๊าวววว”

ผมยกมือขึ้นปิดปากหาวระหว่างปิดล็อคประตูห้อง เมื่อคืนได้นอนไปแค่นิดเดียวเพราะร่างกายยังปรับเวลาไม่ได้ เวลาที่นี่เร็วกว่าที่ไทยหลายชั่วโมง ตอนนี้ที่ไทยคงยังไม่ตีสามดีเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะเช้านี้เป็นเช้าวันอาทิตย์ที่คิดว่าพรีมคงหยุดอยู่บ้าน ผมก็เลยรีบลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะได้หาเธอที่บ้านอีกครั้ง และครั้งนี้ผมจะไม่ยอมกลับก่อนที่จะได้พูดเรื่องสำคัญเด็ดขาด

ผมมีเวลาพูดคุยกับอีกฝ่ายแค่ไม่กี่วัน เพราะต้องกลับไปทำโปรเจกต์จบต่อ ช่วงเวลาที่มีอยู่ผมเลยต้องใช้มันให้คุ้ม และต้องโน้มน้าวใจเธอเรื่องแต่งงานให้ได้ ยอมรับว่าก่อนที่จะมาที่นี่ผมก็คิดว่าคงไม่ได้ยากเท่าไหร่ ผู้หญิงยังไงก็คงไม่อยากท้องไม่มีพ่อหรอก แต่พอได้คุยกับพรีมเมื่อวานผมก็รู้ทันทีว่ามันไม่ได้ง่ายแบบที่คิดไว้เลย

ผมใช้เวลาเมื่อคืนตอนที่นอนไม่หลับนั่งค้นข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับคนท้องในอินเตอร์เน็ต ได้ข้อมูลที่ต้องการมาเยอะพอสมควร และพอจะรู้แล้วว่าควรเข้าหาเธอแบบไหนถึงจะไม่ทำให้เธอเครียดและมีปากเสียงกัน ควรพูดแบบไหน ควรเอาใจอย่างไรถึงจะทำให้เธอรู้สึกดี

ให้ตายเถอะ! ผมไม่เคยต้องมาทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลยนะจะบอกให้

ผมเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านหลังเดิมที่ได้มาแล้วเมื่อวานนี้ บ้านหลังเล็กยังคงเงียบกริบไร้ความเคลื่อนไหวของคนที่อยู่ภายใน ก็ไม่แปลกเท่าไหร่...ตอนนี้มันเพิ่งแปดโมงเช้าเอง ผมยกถุงกระดาษที่ภายในมีผลไม้ที่มีประโยชน์และรสชาติออกเปรี้ยวนิดหน่อยขึ้นมากอดแนบอก หวังจะเอามาของพวกนี้มาให้คนท้องกิน เผื่อเธอจะยอมคุยกับผมดี ๆ หรือถ้าโชคดีหน่อยก็อาจจะได้เข้าไปในบ้าน... ไม่ได้จะทำดีหวังผลหรอกนะ แต่ถ้าได้มันก็คุ้มไม่ใช่เหรอ?

แอ๊ด...

“ผมมาหาพรีม” ผมบอกธุระของตัวเองไป เพราะไม่รู้เหมือนกันว่าแซนดี้เรียกผมมาทำไม หรือเธอจะกีดกันผมอีก ไม่เอานะ! แค่นี้มันก็ยากจะแย่อยู่แล้ว

“เดี๋ยวก็ได้เจอ แต่ตอนนี้ฉันมีเรื่องอยากคุยกับคุณ”

“กับผม?”

“อืม” แซนดี้พยักหน้ารับ ก่อนจะเอ่ยต่อ “พิมมี่เล่าให้ฟังว่าพวกคุณไม่ได้ตั้งใจมีลูกกัน ไม่ได้คบหากัน แค่ถูกใจแล้วพากันไปต่อ ฉันหมายถึง...วันไนท์แสตนด์น่ะ เรื่องจริงใช่ไหม?”

“พรีมพูดถูกทุกอย่าง เรื่องของเรามันเริ่มต้นแบบนั้น” ผมยอมรับออกไปตรง ๆ ไม่รู้จะโกหกทำไมเหมือนกันในเมื่อพรีมบอกเพื่อนตัวเองไปแบบนั้นแล้ว พอได้รับคำยืนยันจากผมแซนดี้ก็ดูเหมือนจะอึ้งไป เธอคงยังไม่เชื่อตอนที่พรีมบอก เลยมาถามผมให้แน่ใจอีกครั้งสินะ

“แล้วที่คุณมาที่นี่ คุณมาทำไม”

“ผมต้องการรับผิดชอบเรื่องทุกอย่าง เพราะยังไงพวกเขาก็เป็นลูกของผมเหมือนกัน”

“รับผิดชอบยังไง ส่งเสียเงินค่าเรียน ค่ากินงั้นเหรอ ถ้าแบบนั้นไม่ต้องหรอกนะ ฉันกับพิมมี่เลี้ยงหลานเองได้” ผมมองหน้าที่ดูมั่นใจของอีกฝ่าย ผมเชื่อว่าพวกเธอคงเลี้ยงเด็กได้ แต่ยังไงมันก็ไม่มีทางสมบูรณ์เท่าครอบครัวที่มีกันพร้อมหน้าพร้อมตาหรอก

เพราะผมเกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่น มีพ่อ มีแม่ มีน้องสาว มีญาติ ๆ อีกมากมายจนนับไม่ถ้วน ผมเลยนึกไม่ออกว่าเด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่ขาดจะรู้สึกแย่แค่ไหน การที่ได้เห็นเพื่อน ๆ มีพ่อแม่มารับมาส่งพร้อมหน้าแต่ตัวเองไม่มีมันจะเจ็บปวดมากไหม และผมไม่อยากให้ลูกของผมเป็นแบบนั้น ผมมาที่นี่เพื่อทำให้ครอบครัวของลูกสมบูรณ์ ถึงผมจะไม่ได้รักพริมาตา แต่ผมก็พร้อมจะหยุดทุกอย่างไม่ดีที่เคยทำ และไปเป็นพ่อ เป็นสามีที่ดีของพวกเขาทั้งสามคน

“ผมมารับผิดชอบในฐานะพ่อ และในฐานะสามี เรื่องนี้คุณคงทำแทนไม่ได้”

ปึก!!!

ผมเบ้หน้าทันทีที่อีกฝ่ายตบลงบนไหล่ผมอย่างแรง แถมยังส่งยิ้มกว้างมาให้อีก ไม่ได้มีท่าทีสำนักผิดอะไรเลย นี่มันเป็นวัฒนธรรมของที่นี่หรือไงกัน

“ดี! ฉันชอบที่นายดูมั่นใจ” ชอบก็ไม่ต้องตีแรงขนาดนี้ก็ได้ ผมแอบบ่นอุบในใจ แต่สุดท้ายก็ได้แต่ส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้อีกฝ่ายไป “เรื่องพิมมี่ไม่ต้องห่วง ฉันจะช่วยนายเอง”

ช่างเถอะ เจ็บตัวแต่มีพวกเพิ่มมาหนึ่ง ถือว่าคุ้ม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: PLAYBOY คุณพ่อฝึกหัด