หลังจากที่ฉันให้คุณหมอตรวจดูร่างกาย และไม่ได้เป็นอันตรายต่อเด็กในท้อง เธอจึงขอตัวกลับบ้านทันที ฉันเดินกลับมาที่รถของคาเรนและเปิดประตูรถเข้าไปด้านใน ก่อนจะขับรถออกมาจากโรงพยาบาลทันที
ไม่นานฉันก็ขับรถมาถึงบ้านสวน พอเธอเปิดประตูรถออกมาก็เห็นนายคาเรนยืนรออยู่ ก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาหาฉันอย่างเป็นห่วง
"ทำไมถึงกลับมาช้าแบบนี้?? เกิดอะไรขึ้น??"
"มีปัญหานิดหน่อย เลยกลับมาช้า"
"เกิดอะไรขึ้น?? แล้วทำไมแก้มสองข้างถึงมีรอยแดง!!??" ฝ่ามือใหญ่จับมาที่บริเวณแก้มทั้งสองข้าง ก่อนที่เขาจะเห็นรอยแดงและถามขึ้นอย่างเป็นโมโห
"เอ่อคือว่า..." ฉันอ้ำอึ้ง เพราะไม่รู้ว่าจะตอบคำถามคาเรนอย่างไรดี
"บอกมา!!" พอคาเรนเห็นว่าฉันไม่ยอมตอบเอาแต่อ้ำอึ้ง เขาจึงถามขึ้นเสียงดัง เพื่อบ่งบอกว่าตอนนี้เขาเริ่มจะไม่พอใจแล้ว
"มีเรื่องกันนิดหน่อย แต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว" น้ำเสียงไม่พอใจและสายตาดุของคาเรน ทำให้เธอยอมบอก แต่ก็ไม่ได้บอกว่ามันเกิดอะไรขึ้น
"ใคร??"
"ก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรแล้วไง!!??" พอเห็นว่าเขายังไม่หยุดที่จะถามคนที่ทำร้ายร่างกายเธอ ฉันจึงบอกเขาไปอีกรอบก่อนที่จะเดินหนีเข้ามาในบ้าน
หมับ!!
"มันเป็นใคร!!??" คาเรนไม่ยอมปล่อยให้เรื่องนี้เขาจึงเดินตามเข้ามา ก่อนที่จะเอื้อมมือมากระชากแขนฉันให้หยุดเดิน
"บอกมา!!!"
"ส้ม...ส้มจี๊ด" ฉันที่ถูกนายคาเรนจับแขนให้หันกลับมาตอบคำถามของเขา สายตาของเขาที่จ้องมองเธออย่างดุเดือด ทำให้ฉันสะดุ้งตกใจจนเผลอยอมบอกเขาไป
คาเรนจ้องมองหน้าฉันอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่เขาจะยอมปล่อยมือออกจากแขนของเธอ รอเขาปล่อยมือก็เดินออกจากบ้านไปทันที
ฉันได้แต่ยืนมองอย่างงงๆ ก่อนที่จะเดินออกไปดูก็เห็นว่าคาเรนได้ขับรถของเขาออกไปข้างนอกแล้ว ด้วยความที่เธอสงสัยว่าเขาออกไปทำอะไรสุดท้ายเธอก็เลิกสนใจและกลับขึ้นห้องเพื่อไปพักผ่อน
วันนี้ผมตั้งใจที่จะพาส้มหวานไปหาหมอตามปกติ แต่เพราะในสวนเกิดมีปัญหาขึ้นมา ทำให้ผมต้องรีบไปแก้ไขไม่สามารถพาส้มหวานไปหาโรงพยาบาลได้
แต่พอส้มหวานกลับมาจากโรงพยาบาลก็เห็นว่าใบหน้าของเธอมีรอยแดงจากการโดนตบหน้ามา มันทำให้ผมตกใจและโกรธมาก แต่ก็โกรธไม่เท่ากับที่เธอไม่ยอมบอกผมว่าใครเป็นคนทำเธอ
สุดท้ายเธอก็ยอมบอกว่าคนที่ทำร้ายเธอคือส้มจี๊ดน้องสาวของเธอ เพราะผมได้ยินชื่อคนที่ทำร้ายก็รู้สึกโกรธและโมโหมาก ทำให้ผมรีบออกไปข้างนอกเพื่อที่จะมุ่งหน้าไปหาส้มจี๊ด
ผมขับรถออกมาจากบ้านสวนได้สักพักหนึ่งก็นึกขึ้นได้ว่าผมไม่รู้ว่าส้มจี๊ดเธออยู่ที่ไหน ผมจึงเลี้ยวรถจอดข้างทาง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อกดโทรหาใครบางคน
#ฟิวเวอร์
คนแรกที่ผมเริ่มที่จะโทรหาคือฟิวเวอร์ ผมถือสายรอไม่นานฟิวเวอร์ก็กดรับสายผมทันที
(ฮัลโหล มีอะไร??)
"ช่วยกูตามหาคนหน่อย??"
(ใคร??)
"ส้มจี๊ด กูอยากรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน??"
(ทำไม??....หรือมึงจะเปลี่ยนใจไปรับผิดชอบส้มจี๊ดอ่ะหรอ!!??)
"ไม่มีทาง!!...กูรับผิดชอบแค่ส้มหวานคนเดียว!!"
(มึงจะไปรับผิดชอบส้มหวานทำไม!!??...ในเมื่อมึงไม่ทำส้มหวานท้องซะหน่อย)
"ใครบอกมึง!!??"
(ไอ้คาเรนมึงอย่าบอกกูนะ!!!???)
"เออ!!..ตามที่มึงคิดนั่นแหละ"
(ไอ้เชี้ยยยยย!!! มึงทำแบบนี้ได้ไงวะ...เรื่องส้มจี๊ดมึงยังไม่ทันได้แก้ปัญหาเลย นี่มึงยังทำให้ส้มหวานท้องอีก)
"ช่างเรื่องของกูเถอะ!! ตอนนี้มึงไปหาที่อยู่ของส้มจี๊ดมาให้กูเร็วๆ"
(เออๆ!! รอแปบ)
หลังจากที่ผมจะถือสายรอไอ้ฟิวเวอร์ ไม่นานมันก็บอกที่อยู่ของส้มจี๊ดมาให้ผมและวางสายไปทันที ผมที่รู้ว่าส้มจี๊ดอยู่ที่ไหนก็มุ่งหน้าขับรถไปที่นั่นทันที
คอนโด GU
ไม่นานผมก็ขับรถมาถึงคอนโดจียู ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถ ผมเปิดประตูรถก้าวออกมาก่อนจะเดินตรงเข้าไปในคอนโด
ผมเดินตรงเข้าในลิฟท์ก่อนที่จะกดปุ่มชั้นที่ต้องการจะขึ้น ลิฟท์เคลื่อนตัวขึ้นไปเรื่อยๆก่อนที่จะถึงชั้นที่ต้องการ พร้อมกับประตูลิฟต์เปิดออกผมจึงรีบด่วนออกมาทันที
ก๊อก ก๊อก
ก๊อก ก๊อก
ผมเดินตรงไปที่ห้องห้องนึง ก่อนจะยกมือขึ้นเคาะประตูเรียกคนด้านใน ผมยืนคอยอยู่ไม่นานประตูห้องเปิดออกพร้อมกับร่างบางของคนที่ผมต้องการ
"ใครค่ะ!!??...พี่คา..."
ทันทีที่ประตูเปิดออกผมไม่รอช้าที่จะผลักประตูและเดินเข้าไปด้านในห้อง โดยไม่สนใจว่าเจ้าของห้องจะทำหน้าตาอย่างไร
"จี๊ดดีใจจัง!! ที่พี่คาเรนมาหาจี๊ดที่นี่" ส้มจี๊ดที่ตกใจเมื่อเห็นคนตรงหน้า ก็ยกยิ้มอย่างมีความสุขที่เห็นค่าเรียนเดินเข้ามาในห้อง
หมับ!!
ผมไม่สนใจว่าส้มจี๊ดจะพูดอะไรผมหันกลับไปกระชากแขนเธอและบีบแน่นอย่างโมโห ยิ่งเห็นใบหน้าของส้มจี๊ดผมก็ยิ่งรู้สึกโมโหมากขึ้น จนเผลอบีบแรงเข้าไปอีก
"โอ๊ยยพี่คาเรน!!!?? จี๊ดเจ็บนะคะ!!??" ส้มจี๊ดรู้สึกเจ็บที่แขนที่โดนบีบ ก่อนจะมองหน้าชายหนุ่มอย่างออดอ้อนวอนขอให้เขาปล่อยมือออก
"เจ็บหรอ!!??" ผมไม่สนใจว่าตอนนี้ส้มจี๊ดจะเจ็บปวดมากแค่ไหน และไม่สนใจสายตาที่อ้อนวอนขอให้ผมปล่อย
"ใช่!! จี๊ดเจ็บ!!!" เธอรู้สึกทนความเจ็บปวดไม่ไหวถึงกับตะคอกและบอกให้เขารู้ว่าตอนนี้เธอรู้สึกเจ็บแขนมาก
ผมจ้องมองหน้าส้มจี๊ดแป๊บนึง ก่อนที่จะผลักเธอออก ทำให้ร่างบางที่ไม่ทันตั้งตัวและถูกปล่อยอย่างกะทันหัน ทำให้เธอล้มลงกองกับพื้น
"โอ๊ยยยย!!! พี่คาเร..." ส้มจี๊ดที่ถูกปล่อยอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้เธอเสียหลักล้มลงกองกับพื้น เธอเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มอย่างไม่พอใจ
แต่พอเห็นสายตาที่เขาจ้องมองเธออยากจะฆ่าให้ตาย ก็ต้องชะงักอย่างตกใจ
"มึงมีสิทธิ์อะไรไปตบหน้าเมียกู!!??" ผมก้มลงมองส้มจี๊ดอย่างจะฆ่าเธอให้ตาย ก่อนที่ผมจะถามเธอขึ้น
"ที่พี่มาหาจี๊ดก็เพราะเรื่องของมันหรอ!!??" ส้มจี๊ดที่รู้เหตุผลการมาของเขาวันนี้ ก็ยิ่งทำให้เธอทั้งโกรธและแค้นใจส้มหวานมาก
"ถ้ามึงไม่ทำร้ายเมียกู!! มึงคิดว่ากูจะมาหามึงหรอ!!??" ผมไม่สนใจสายตาโกรธแค้นของส้มจี๊ด ก่อนจะนั่งลงตรงหน้าเธอและเอื้อมมือไปบีบคางของเธอแน่นและผลักออก
"โอ๊ยยย!!"
"วันนี้กูแค่มาตักเตือนมึง ถ้ามึงคิดที่จะมาทำร้ายเมียกูอีก รอบหน้าจะไม่ใช่แค่ตักเตือน"
"หึหึ พี่คิดว่าจี๊ดกลัวพี่หรอ!!??"
"มึงจะลองดูก็ได้นะ!!??" ผมพูดเสร็จก็เดินออกจากห้องของส้มจี๊ดไปทันที โดยไม่สนใจว่าตอนนี้เธอจะทำหน้าอย่างไร
ผมเดินออกมาจากคอนโดตรงมาที่รถก่อนจะขับรถออกไปทันที ไม่นานผมก็ขับรถมาถึงบ้านสวน ก่อนจะเลี้ยวรถเข้ามาจอดและเปิดประตูรถเดินเข้าไปในบ้าน
"กลับมาแล้วหรอ!!?? แล้วตกลงไปไหนมา??" เธอที่รู้สึกหิวจึงเดินลงมาหาอะไรทานที่ห้องครัว ก็เห็นนายคาเรนเดินเข้ามาในบ้านทันทีก็เลยถามขึ้น
"ไปทำธุระนิดหน่อยครับ แล้วนี่กำลังทำอะไรอยู่จ๊ะเมียจ๋า!!??" ผมที่กลับมาจากข้างนอกก็เห็นว่าส้มหวานเธออยู่ในครัว ก่อนที่จะตอบคำถามเธอและเดินเข้าไปในครัว
"รู้สึกหิวก็เลยมาหาอะไรทาน!!??" ส้มหวานตอบความจริงก่อนที่จะหันมาสนใจของในตู้เย็นต่อ
"งั้นเมียจ๋าออกไปนั่งรอข้างนอกนะ เดี๋ยวผัวทำอะไรให้ทานเอง" ผมยกยิ้มอย่างเอ็นดูก่อนที่จะบอกส้มหวานให้เธอไปนั่งรอข้างนอก และอาสาที่จะทำอาหารให้เธอทานเอง
"ไม่เป็นไรกูทำเองได้!!"
"เมียจ๋าอย่ามาดื้อกับผัวนะ!!?? ไปนั่งรอข้างนอกดีๆ" ผมที่ถูกส้มหวานตอบปฏิเสธก็แกล้งทำเสียงดุ ก่อนที่จะจ้องมองเธออย่างเอาเรื่อง
"เออๆ!! ไม่เห็นต้องดุกูเลย แล้วใครเป็นเมียจ๋าของมึงเนี่ย!!??" ส้มหวานสะดุ้งตกใจที่เขากล้าทำเสียงดุใส่เธอ และบ่นพึมพำอย่างไม่พอใจที่เขาเอาแต่เรียกเธอว่าเมียจ๋า
"เมื่อกี้ว่าอะไรนะ??" ผมได้ยินที่ส้มหวานเธอกำลังบ่น จึงแกล้งถามเธอ
"เปล่า!! กูไปรอข้างนอกก็ได้รีบทำล่ะหิว" ส้มหวานพูดเสร็จเธอก็เลยเดินออกมาจากห้องครัวและมานั่งรอที่เก้าอี้โต๊ะกับข้าว
หลังจากที่ผมเห็นว่าส้มหวานเธอเดินออกจากครัวและไปนั่งรออยู่ที่โต๊ะกินข้าวดีๆ ผมก็หันกลับมาสนใจของในตู้เย็นเพื่อดูว่าจะทำอะไรให้เมียจะทานได้บ้าง
ผมต้องเลือกทำอาหารที่มีประโยชน์สำหรับคนท้อง เมื่อผมตัดสินใจที่จะทำผัดผักรวมและไข่ตุ๋นหมูสับ ผมจึงหยิบวัตถุดิบที่ต้องการออกมา
ผัดผักรวมมิตร
ส่วนผสม
กระเทียมสับ 2 ช้อนชา
บร็อคโคลี่หั่นพอดีคำ 1 ถ้วยตวง
กะหล่ำดอก 1/2 ถ้วยตวง
แครอทหั่นเป็นแท่งยาว 1 นิ้ว ¼ ถ้วยตวง
เห็ด 1 ดอกผ่าครึ่ง ¼ ถ้วยตวง
ผักกาดขาว 1/4 ถ้วยตวง
คนอร์อร่อยชัวร์ 1 ช้อนชา
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
ลวกบร็อคโคลี่ และแครอทในน้ำเดือด จนสีของผักสดขึ้น จากนั้นรีบตักขึ้นมาแช่น้ำเย็นจัดทันทีเพื่อยังคงสดกรอบและสีสันสวยงาม
ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟปานกลาง ผัดกระเทียมจนส่งกลิ่นหอมและเป็นสีเหลือง
ใส่เห็ด กะหล่ำดอก ผัดกาด บร็อคโคลี่ และแครอทที่ลวกแล้วลงไปผัด พร้อมเติมน้ำเล็กน้อยพอขลุกขลิก
ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย คนอร์อร่อยชัวร์ และน้ำตาลทราย คนให้เข้ากันแล้วตักใส่จาน
ไข่ตุ๋นใส่ผักหมูสับ
ส่วนผสม
หมูสับ ไข่ไก่ กระเทียมเจียว ผงรสดี ซีอิ๊วขาวหรือโชยุ กุ้ง เห็ดหอม
ตีไข่ไก่จนเป็นฟอง ใส่น้ำเปล่าในอัตราส่วนมากว่าไข่ไก่ประมาณ 20% ใส่หมูสับลงไป ปรุงรสด้วยผงรสดี และโชยุเล็กน้อย เพื่อความเนียน ให้กรองไข่ไก่ที่ตีไว้ผ่านตะแกรง
ถ้ายังเหลือฟองก็ใช้ช้อนตักออกมา จากนั้นตั้งน้ำในที่นึ่งจนเดือด แล้วลดไฟลงให้อ่อนที่สุด นึ่งซัก 6-8นาที ดูว่าไข่เริ่มแข็ง ก็ให้ใส่กุ้งและเห็ดหอมลงไป นึ่งต่อซัก 2-3นาที เป็นอันเสร็จ
หลังจากที่ผมทำเมนูทั้งสองอย่างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ยกเมนูทั้งสองออกมาวางที่โต๊ะกับข้าว ที่ตอนนี้มีส้มหวานกำลังนั่งรอทานอยู่
"อะไร!!??"
"ผัดผักรวมและไข่ตุ๋นหมูสับ นี่ข้าวเปล่าและนมจืด" ผมแนะนำเมนูตรงหน้าก่อนที่จะวางจานเข้าเปล่าแก้วนมจืด ส้มหวานกับจานข้าวมาก่อนที่จะพยักหน้ารับและลงมือรับประทานอาหาร
----------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: POTTY3 ลิขิตรัก [END]