หลินเอินเอินเงยหน้ามองเขา พร้อมกับเอ่ยพูดอย่างไม่พอใจ “ฉันรอคุณเรียกฉันไปที่สำนักทะเบียนด้วยกันอยู่ เวลาว่างแค่สักนิดประธานโบ๋ก็ไม่มีเลยเหรอ! ถ้าคุณไม่เอาแต่พาเธอไปทานข้าว ป่านนี้คงได้หย่ากันแล้ว คงไม่ต้องมาคอยพะว้าพะวังเรื่องชื่อเสียงและผลประโยชน์ของบริษัทอย่างนี้หรอก!”
“คุณ…..!”
โป๋มู่หานกัดฟันกรอด “หลินเอินเอิน!ถ้าหย่าได้ คุณคิดว่าผมไม่อยากหย่าหรือไง!แต่เพราะคุณย่าเอาแต่ขอร้องผมถึงหย่าไม่ได้!”
หลินเอินเอิน “???”
เธอจำได้ว่าก่อนหน้านี้คุณย่าโทรมาหาเธอ บอกเธอว่าจะหาผู้ชายที่ดีกว่าให้อยู่เลย หรือว่าเป็นวิธีการกระตุ้น?
“ตอนนี้บริษัทกำลังมีโปรเจ็ค ที่ต้องแข่งขันกับโป๋ซื่อ กรุ๊ป รอให้โปรเจ็คนี้จบลงก่อน แล้วผมจะหย่ากับคุณทันที หลินเอินเอิน ภายในหนึ่งเดือนนี้ ผมหวังว่าคุณจะทำตัวดีๆหน่อย!”
ถ้าเกิดมีข่าวในด้านลบถูกปล่อยออกมา คงไม่เป็นผลดีต่อโป๋ซื่อกรุ๊ป และภาพลักษณ์ความสัมพันธ์แน่ๆ เพราะฉะนั้นจะให้มาพังในครั้งนี้ไม่ได้เด็ดขาด
หลินเอินเอินยิ้มเยาะ “นั่นมันเรื่องของคุณ ผลประโยชน์ของบริษัทเกี่ยวอะไรกับฉัน กำไรร้อยกว่าล้าน ฉันเคยได้สักครึ่งไหม?”
แววตาเย้ยหยันของโป๋มู่หานเข้มข้นขึ้น “คุณมันผู้หญิงเห็นแก่เงิน!”
หลินเอินเอินเม้มปาก “พูดกับคนอคติแค่ประโยคเดียวก็ถือว่ามากเกินพอละ ลองคิดถึงตอนที่ฉันขอเจอคุณแล้วคุณทำท่ารำคาญใส่สิ”
โป๋มู่หานนขมวดคิ้ว มองไปยังใบหน้าเย็นชาของเธอ
และในวินาทีต่อมา คำพูดของเธอก็แทบจะทำให้เขาเดือดดาล!
“เพราะฉะนั้น ประธานโบ๋อย่าพยายามยัดเยียดให้คนอื่นเป็นแบบที่ตัวเองคิด ฉันหวังว่าหลังจากนี้ประธานโบ๋ จะไม่ตามมาตอแยกันเหมือนพาสเตอร์หนังหมานะ”
“พลาสเตอร์หนังหมางั้นเหรอ?! หลินเอินเอิน! คุณปากดีขึ้นเยอะเลยนะ!” โป๋มู่หานเค้นหัวเราะอย่างโกรธเคือง แต่ภายใต้รอยยิ้มคือดวงตาที่เย็นชาถึงกระดูก
หลินเอินเอินขี้เกียจจะคุยกับเขาต่อ เธอจึงหันหลังเดินกลับไปที่ห้อง
โป๋มู่หานมองตามหลังเธออย่างเย็นชา “หลินเอินเอิน ถ้าไม่อยากให้ผมลงมือกับจี้ซื่อ กรุ๊ป ก็หัดทำตัวให้มันดีๆ!"
หลินเอินเอินหยุดชะงักเล็กน้อย แต่ต่อมาก็เลือกเดินกลับไปที่ห้องต่อ
ในทางเดินที่ว่างเปล่า เหลือโป๋มู่หานอยู่คนเดียว
เขากำหมัดแน่น ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง เพลิงโกรธในดวงตาของเขาราวกับจะเผาห้องที่หลินเอินเอินเดินเข้าไปให้กลายเป็นเถ้าถ่านในเสี้ยววินาที
ขนตาของหลินเอินเอินไหวระริก เธอประทับใจมากกับความใจดีของเขาที่มีต่อเธอ ตั้งแต่เธอแต่งงาน เธอออกห่างจากเขาเป็นเพศตรงข้ามโดยอัตโนมัติ เพราะเธอรู้สึกละอายใจ แต่ตอนนี้เขาก็ยังรอเธออยู่ หลินเอินเอินอ้าปากเปิดเตรียมจะพูด ในขณะที่กำลังสับสนว่าควรพูดอะไรออกไปนั้น จี้เห้อเซินก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง
“เอินเอิน เธอไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความรู้สึกของฉันหรอกนะ อีกอย่างฉันรู้ว่ายังมีโอกาส แค่นี้ฉันก็พอใจมากแล้ว
“อะแฮ่ม—คิดว่าในห้องนี้มีแค่พวกแกสองคนหรือไง? เห็นเป็นผีเหรอ!” มู่เซวียนดุด้วยรอยยิ้ม ด้านเซียวหานก็เก็บซ่อนความผิดหวังในดวงตาเอาไว้ แล้วร่วมผสมโรง
หลินเอินเอินส่ายหน้า "ฉันไม่อยากคิดเรื่องนี้ละ เพื่อนๆก็หยุดชงได้แล้ว ไม่งั้นในอนาคตแม้แต่เพื่อนก็คงเป็นยาก"
ขนตาของเซียวหานสั่นไหวเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้า “ก็ได้! ไม่ชงแล้วก็ได้ มาดื่มกันต่อเถอะ!”
มู่เซวียนเปิดเพลงต่ออย่างรู้หน้าที่ ราวกับว่าต่อจากนี้จะเป็นการฉลองจริงๆจังเสียที
จนกระทั่งสองชั่วโมงต่อมา พวกเขาถึงพากันแยกย้าย
เดิมทีจี้เห้อเซินขอไปส่งหลินเอินเอิน แต่ก็ต้องยอมให้เธอปฏิเสธ
แต่ทว่า ในบรรดาพวกเขาไม่มีใครรู้เลยว่าในตอนนี้โซเชียลกำลังเดือด!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ปฏิเสธรักสามีขี้อ้อน