ท่ามกลางความชื่นมื่นที่เต็มไปด้วยความปิติยินดีกลับมีคนหนึ่งที่ยิ้มไม่ออก
ไม่อยากทนดูภาพบอดตาบาดใจแล้วเดินออกไปในขณะที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวกำลังจูบกัน
วันนี้เขาแค่อยากมาเห็นเธอเป็นครั้งสุดท้าย
ในชุดเจ้าสาว
พอได้เห็นเธอสวยง่างามตามที่เขาเฝ้าฝันและอยากเห็นมานานสมใจแล้วก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่ออีก
ขณะที่เดินออกไปทำให้เขานึกถึงครั้งหนึ่งเขาเคยเดินเคียงคู่กับเธอ บนทางพรมแดงผืนยาวอย่างสง่างามท่ามกลางผู้คนมากมายเช่นวันนี้
แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับเขาที่รักเธอสุดหัวใจยากจะลืมเลือน
ป้องเห็นพี่ชายเดินออกไป เขาก็รีบตามพี่ชายออกไป
พอออกจากห้องจัดงานเข้าไปในลิฟต์
เขาก็เอ่ยถามขึ้นพร้อมแอบเหล่ตามองพี่ชาย
" เจ้าสาวของตระกูลอัศววัฒน์สกุลสินะ
ที่ทำพี่อกหักช้ำใจหนัก "
ป๊อบไม่ตอบตรงคำถามแต่กลับเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชาว่า
" นายเลิกสอดรู้สอดเห็นเรื่องคนอื่นสักเรื่องได้มั้ย "
แม้ป้องจะถูกด่าก็ใช่ว่าเขาจะสนใจ จึงเอ่ยต่อว่า
" อืม...จะว่าไปเธอก็สวยจริงๆแหละ แต่ผมไม่เข้าใจ พี่เพิ่งจะกลับมาได้ไม่นานลูกเธอโตขนาดนี้แล้ว
แสดงว่าเธอท้องตั้งแต่ที่พี่อยู่กับเธอแล้ว
ถ้าผมจำไม่ผิด
ตั้งแต่ที่พี่ไปคุมยัยฟ้าใสเน่า กลับมาพี่ก็มีความคิดเปลี่ยนไปเลย
ถ้าผมเดาไม่ผิด พี่น่าจะเจอเธอตั้งแต่ตอนนั้นแล้วใช่มั้ย "
ป๊อบไม่สนใจและไม่ตอบปล่อยให้น้องใจพร่ำคนเดียว เมื่อพี่ไม่ตอบป้องก็เอ่ยต่อว่า
" เฮ้อ... พี่นะพี่อุตส่าห์ตามเฝ้ามาตั้งหลายปี
สุดท้ายก็พลาดท่าเสียเธอให้กับตระกูลอัศววัฒน์สกุล ช่างน่าเสียดายเวลาจริงๆ
ถ้าเป็นผมนะ ไม่ปล่อยให้หลุดมือหรอก จะทำเหมือนกับที่ตระกูลคู่แข่งหัวใจพี่ทำ
จับทำท้องแล้วครอบครองทีหลังได้เปรียบกว่าแถมชนะแบบหล่อๆมีโซ่ทองคล้องใจ
พี่ต้องดูคุณชายตระกูลอัศววัฒน์สกุลไว้เป็นตัวอย่างนะ
รีบฉวยโอกาส ไม่รออย่างใจเย็นเหมือนพี่ สุดท้าย ได้กินแห้วกลับมาหน้าเศร้าเล่าความทุกข์ให้ใครฟังก็ไม่ได้ "
ป้องพูดออกมายาวเหยียด แต่ป๊อบกลับเอ่ยเพียงว่า
" พูดพอหรือยัง เมื่อยปากมั้ย จะเอาลูกกุยนวดปากให้ "
แม้ป้องจะไม่เข้าใจคำว่าลูกกุย แต่เขาก็ไม่ได้ฉลาดน้อยที่จะเดาไม่ออกว่าความหมายมันไม่ดี
" นี่พี่กลายเป็นคนอันธพาลตั้งแต่เมื่อไหร่ เอะอะใช้กำลังทำร้ายคนอื่น พี่ไม่ใช่เด็กแล้วนะ
ผู้ใหญ่เขาไม่ทำกันแบบนี้ หรือว่าเป็นเพราะพี่
เป็นแบบนี้ก่อนแล้วเจ้าสาวคนนั้นถึงไม่สนใจพี่ "
ป้องกวนประสาทป๊อบไม่เลิกได้ทีก็เยาะเย้ย
ซ้ำเติมจนแยกไม่ออกว่าสรุปแล้ว
เป็นห่วงพี่ชายหรือต้องการซ้ำเติมกันแน่
( ลูกกุย เป็นภาษาเหนือ คือ หมัดหรือกำปั้น )
ตอนที่ป๊อบเป็น ผอ.โรงเรียน เขาบังเอิญไปได้ยินนักเรียนกลุ่มหนึ่งพูดคุยกันเรื่องลูกกุย
" มึงอู้ดีๆเน้อ เดี๋ยวกูจะแป๋งลูกกุยงามๆยัดปากมึง "
เด็กนักเรียนหญิงพูดพร้อมกับทำท่ากรีดกรายนิ้วมือแล้วกำมือแน่น เมื่อเพื่อนจะเม้าท์เรื่องของเธอ
ป๊อบที่ได้ยินก็ยิ้มขึ้น เขารู้สึกว่า คำว่าลูกกุย
มันฟังดูนุ่มนวล
น่ารักกว่าคำว่า หมัดหรือกำปั้นเยอะเลย
เขาจึงจำคำนี้ไว้ใช้แทนหมัดแทนกำปั้น
ป้องเห็นว่าพี่ชายเงียบไปก็รู้สึกผิดขึ้นมานิดๆ
จึงเอ่ยว่า
" พี่ผมขอโทษ แต่ผมไม่อยากให้พี่จมปลักอยู่เรื่องในอดีตที่ผ่านมา
ต่อให้พี่รักเธอมากแค่ไหนแต่เธอไม่ใช่ของพี่แล้ว พี่ต้องยอมรับความจริงแล้วตัดใจจากเธอซะ
ผู้หญิงเยอะแยะที่พร้อมจะต่อคิวรอพี่เลือก
พี่ลองเปิดใจแล้วมองหาคนดีๆเข้ามา
บางทีอาจจะทำให้พี่ทุกข์ใจน้อยลง และอาจจะลืมผู้หญิงคนนั้นไปเลยก็ได้ "
ป๊อบเหลือบมองน้องชายอย่างเย็นชาแล้วเอ่ยก่อนจะเดินออกจากลิฟต์ว่า
" นายไปพูดไกลๆ "
เอ่ยจบเขาก็ก้าวเท้าออกมาจากลิฟต์ ทำเอาป้องถึงกับอ้าปากค้างที่ความหวังดีของเขาไม่มีประโยชน์
ไม่เข้าหูพี่ชายเลยแถมยังมีการไล่ให้เขาไปพูดไกลๆอีก เขารู้สึกเหนื่อยและเซ็งกับพี่ชายคนนี้ของเขามาก
จากนั้นเขาก็ยักไหล่ทำหน้าไม่สนใจแล้ว
พร้อมกับเอ่ยคนเดียวว่า
" อยากจมปลักอยู่กับอดีตที่ปวดร้าวนักก็เชิญเลย ตามสบาย "
ป๊อบขับรถออกมาจากโรงแรม แล้วไปยังสวนสาธารณะที่เคยมากับพิม
ไปนั่งบนเก้าอี้มองออกไปยังที่ที่เขากับพิมยืนด้วยกัน นึกถึงวันเก่าๆที่ผ่านมาอย่างเงียบๆ
วันต่อมา ป๊อบเข้ามาทำงานในบริษัทแต่เช้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา