พิมหนีมาอยู่ในชนบทที่ห่างไกลความเจริญ ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบาย
เต็มไปด้วยความเขียวชอุ่มของต้นชา ที่ปลูกเรียงยาวเป็นแถวดกเป็นพุ่มสวยงาม
ไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะขึ้นเหนือ พาลูกชายมาอยู่ใกล้เขตชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน
ซึ่งเป็นที่ ที่เธอแอบซื้อไว้ในช่วงที่เลี้ยงลูกอยู่บ้านโดยที่ไม่มีใครรู้เลยนอกจากพ่อแม่เธอ
เธอจ้างครอบครัวชาวสวนมาดูแลบ้านไร่หลังนี้ให้นานแล้วและปลูกชาออร์แกนิคไว้ดื่มเอง
โดยมีพ่อกับแม่ของเธอคอยส่งข้าวสารอาหารให้กับครอบครัวชาวสวนชาของเธอ
บ้านไร่ของเธอใช้ไฟจากแผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่
มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องซักผ้า ทีวี ตู้เย็น หม้อหุงข้าว ล้วนใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ทั้งนั้น
และในเช้าวันนี้เคอร์ฟิวน้อยสุดหล่อที่ตอนนี้อายุครบสองขวบแล้ว
กำลังวิ่งเล่นไล่จับกันกับพี่ๆลูกชาวสวนในสนามหญ้าเทียมหน้าบ้านอย่างสนุกสนาน
เบื่อไล่จับก็เล่นซ่อนแอบกันตามประสาเด็กที่เล่นไม่รู้จักเหนื่อย ในบริเวณนั้น มีพี่เลี้ยงนั่งคอยดูแลห่างๆ
ส่วนพิมก็นั่งพิมพ์งานบนบ้าน ผันตัวเองมาเป็นนักเขียนถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของตัวเองให้คนอื่นได้อ่าน บรรยายออกมาผ่านตัวหนังสือ
เมื่อพิมพ์งานเสร็จเธอก็บันทึกงานไว้แล้วปิดคอมลงไปหาลูกชายที่เล่นจนผมเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
เธอยืนมองดูลูกชายที่กำลังซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบๆ
" โป้งๆ
คนนับยังไม่ทันเจอ เคอร์ฟิวน้อยก็ออกมายกนิ้วหัวแม่มือไปแตะตัวคนหาอย่างอารมณ์ดีด้วยความไม่รู้เรื่องอะไร
พิมยิ้มให้กับความน่ารักของลูกชาย
" เคอร์ฟิว ลูกพลับ ลูกไหน น้ำหวาน มานี่เร็ว "
เธอกวักมือเรียกเด็กๆ เมื่อเด็กๆมาถึงเธอจึงเอ่ยว่า
" เดี๋ยว ลูกพลับ ลูกไหน แล้วก็น้ำหวานไปอาบน้ำล้างตัวให้สะอาดนะคะ เสร็จแล้วก็มาทานข้าวกับเคอร์ฟิวที่นี่ "
" ค่ะ/ ครับ/ได้ครับ "
เด็กทั้งสามเอ่ยตอบพิมอย่างเชื่อฟังแล้วกลับไปอาบน้ำที่บ้านพักของตัวเอง
เคอร์ฟิวเงยหน้ามองแม่แล้วเอ่ยถามด้วยความอยากรู้
" คุณแม่ เคอร์ฟิวต้องอาบน้ำมั้ยครับ เคอร์ฟิวหนาว "
พิมมองหน้าลูกชายที่แก้มแดงระเรื่อผมชุ่มไปด้วยเหงื่อ
เธอนั่งยองๆแล้วหยิกแก้มป่องๆของลูกชายตัวแสบเบาๆแล้วเอ่ย
" หนาวเหรอ แน่ใจนะว่าหนาว "
เคอร์ฟิวยิ้มหล่ออย่างน่ารักน่าชังแล้วเอ่ย
" ครับ "
พิมเลิกคิ้วขึ้นแล้วเอ่ย
" เหรอครับ แต่ทำไมคุณแม่รู้สึกว่าแก้มของลูกร้อนๆล่ะ "
เคอร์ฟิวยิ้มตาหยีอย่างซุกซนเมื่อถูกจับได้ว่าโกหก จากนั้นพิมก็เอ่ยถามลูกว่า
" เคอร์ฟิวอยากทานข้าวพร้อมกันกับพี่ลูกพลับ
พี่ลูกไหนและพี่น้ำหวานมั้ย วันนี้คุณแม่มีขนมเค้กกับไอศครีมให้ด้วยนะ "
ดวงตากลมโตใสแป๋วจ้องหน้าผู้เป็นแม่อย่างน่ารักน่าชังแล้วเอ่ย
" อยากครับ "
" ถ้าอยาก ก่อนทานข้าวลูกต้องไปอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาดก่อน เข้าใจมั้ยครับ "
เคอร์ฟิวน้อยพยักหน้าหงึกอย่างเชื่อฟังพร้อมกับเอ่ยว่า
" เข้าใจครับ "
พิมยิ้มแล้วจูงมือลูกชายไปอาบน้ำ พออาบน้ำเสร็จก็พาลูกชายมานั่งทานข้าวพร้อมกับพี่ๆที่เป็นเพื่อนเล่นของเขา
เด็กๆนั่งทานข้าว ทานขนมกันอย่างเอร็ดอร่อย สีหน้าเคอร์ฟิวน้อยดูมีความสุขเลียนแบบพี่ๆโดยการทานข้าวด้วยตนเอง
ทางด้านป๊อบ เขานั่งทำงานเงียบๆในห้องทำงาน ป้องผลักประตูเข้ามาในห้องแล้วเดินมานั่งลงตรงหน้าพี่ชาย
" มีอะไร "
ป๊อบเอ่ยขึ้นเสียงเรียบในขณะที่สายตายังจดจ่อกับงานตรงหน้าอยู่
ป้องนั่งจ้องหน้าพี่ชายสักพักแล้วเอ่ยเสียงขุ่นแบบตำหนิหน่อยๆ
" พี่ไปง้อแม่ของลูกประสาอะไร ทำไมถึงกลับมาคนเดียว "
ป๊อบยังคงก้มหน้าทำงานพร้อมกับเอ่ยอย่างนิ่งเฉยเย็นชาว่า
" ไม่เกี่ยวกับนาย ถ้านายไม่มีอะไรก็ออกไป อย่ามารบกวนเวลาทำงานของฉัน "
ป้องเองก็ไม่ยอม เมื่อพี่ชายทำเป็นไม่สนใจเรื่องแม่ของลูกเขาจึงเอ่ยต่อว่า
" พี่ เมื่อไหร่พี่จะตื่นขึ้นมาอยู่กับความเป็นจริงสักที คุณณัชชาเป็นแม่ของลูกพี่นะ
พี่ทำแบบนี้มันไม่ใจร้ายกับเธอไปหน่อยเหรอ
พี่ทำเธอท้องแต่หัวใจพี่กลับมีผู้หญิงคนอื่น
ถ้าลูกพี่รู้ คงจะปวดใจและเจ็บแค้นแทนผู้เป็นแม่มากๆแน่ พี่อยากถูกลูกเกลียดเหรอ "
ป๊อบนิ่งไป แล้วเงยหน้าจ้องน้องชายอย่างเย็นชา จนป้องรู้สึกเย็นวาบที่สันหลังเบาๆ แล้วรวบรวมความกล้าเอ่ยต่อว่า
" พี่ พี่จ้องหน้าผมแบบนี้ หมาย หมายความว่ายังไง ผมหวังดีกับพี่นะ "
" นายจะออกไปเอง หรือจะให้ฉันเตะนายออกไป "
ป๊อบเอ่ยเสียงเย็นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเย็นชา ป้องได้ยินดังนั้น
ก็เอ่ยเสียงกร้าวด้วยความโมโหพี่ชาย ที่จะเตะเขาออกไปเพียงเพราะเขาหวังดี
" พี่ไม่ต้องเตะผมออกไปหรอกเดี๋ยวผมออกไปแน่ ที่ผมมาก็เพื่อจะมาบอกว่า
พี่ไปทำอะไรไว้กับครอบครัวคุณเตชิน อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะ ผมถามหน่อย ภรรยาคุณเตชินมีดีอะไร
ทำไมพี่ถึงได้ขาดสติทำเรื่องโง่ๆแบบนั้นลงไปเพียงเพื่อหวังได้เธอคืนมา
คุณณัชชาสู้เธอไม่ได้ตรงไหน ทำไมพี่ถึงลืมเธอไม่ได้สักที
ทำไมพี่ถึงเลือกเธอแทนที่จะเลือกแม่ของลูก
ผมไม่เข้าใจพี่จริงๆ
พี่รู้ทั้งรู้ ว่าเธอมีลูก มีสามีและเป็นภรรยาของคนอื่นไปแล้ว ทำไมพี่ถึงยังไม่ตัดใจจากเธอสักที "
ป๊อบได้ยินดังนั้นก็เดือดขึ้นมาในใจ กำหมัดแน่นด้วยความอดทนอดกลั้นอารมณ์โกรธที่กำลังคุกรุ่น
แล้วเอ่ยเสียงเยือกเย็นเต็มไปด้วยอารมณ์ที่โกรธจัดว่า
" ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย นายจะออกไปเอง หรือจะให้ฉันส่งนายออกไป ห้ะ!่ "
คำสุดท้ายเขาตะคอกเสียงกร้าวออกมาเสียงดัง ระดับความโกรธของเขาในตอนนี้ยากจะควบคุมแล้ว
แต่ป้องกลับดื้อดึงไม่ยอมออกไปง่ายๆ เขากำหมัดแน่นพร้อมต่อยกับพี่ชาย
เพื่อให้พี่ชายตื่นมาอยู่กับความเป็นจริง จึงตะคอกออกไปเสียงดังด้วยความโมโหว่า
" ผมจะไม่ออกไป จนกว่าพี่จะคิดได้และรับปากผมว่าจะขอโทษคุณเตชิน
แล้วยอมรับผิดสารภาพทุกอย่างที่พี่ทำลงไปออกสื่อ
หากพี่อยากได้คุณณัชชากับลูก พี่ยอมรับผิดออกสื่อซะ ผมช่วยได้แค่นี้ "
ป๊อบได้ยินน้องชายบอกให้ขอโทษเตชินออกสื่อเขาก็ควบคุมอารมณ์ไม่ได้อีกต่อไป
จึงต่อยหมัดเข้าไปเต็มหน้าน้องชายแล้วซัดน้องชายรัวๆโดยที่น้องชายไม่ทันตั้งตัว
จากนั้นก็เหวี่ยงน้องชายที่สะบักสะบอมลงบนพื้นสุดแรง แล้วชี้หน้าด่าเสียงกร้าวอย่างดุดัน
" ไอ้ป้อง แกเป็นน้องให้เตชินมันเหรอ ห้ะ! หรือว่าเป็นสุนัขรับใช้ของมัน
ถึงได้มาพูดให้ฉันไปขอโทษมัน มันสั่งให้แกมาพูดแบบนี้กับฉันใช่มั้ย
แกอย่าคิดว่าฉันไม่รู้ เรื่องที่แกออกไปพบกับมันในร้านกาแฟนะ แกมันไอ้ขี้ขลาด
แกฟังฉันให้ดีนะ ฉันจะไม่มีวันไปขอโทษคนเลวๆอย่างมัน มันเป็นคนแย่งพิมไปจากฉัน
เป็นมันที่ต้องมาขอโทษฉัน แกได้ยินชัดมั้ย
ไอ้น้องทรยศ!!! "
ป้องเงยหน้าจ้องพี่ชายที่โกรธจัดจนเลือดขึ้นหน้า ป๊อบโกรธจนหน้าแดงจัดอย่างน่ากลัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา