ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา นิยาย บท 219

พิมหนีมาอยู่ในชนบทที่ห่างไกลความเจริญ ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบาย

เต็มไปด้วยความเขียวชอุ่มของต้นชา ที่ปลูกเรียงยาวเป็นแถวดกเป็นพุ่มสวยงาม

ไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะขึ้นเหนือ พาลูกชายมาอยู่ใกล้เขตชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน

ซึ่งเป็นที่ ที่เธอแอบซื้อไว้ในช่วงที่เลี้ยงลูกอยู่บ้านโดยที่ไม่มีใครรู้เลยนอกจากพ่อแม่เธอ

เธอจ้างครอบครัวชาวสวนมาดูแลบ้านไร่หลังนี้ให้นานแล้วและปลูกชาออร์แกนิคไว้ดื่มเอง

โดยมีพ่อกับแม่ของเธอคอยส่งข้าวสารอาหารให้กับครอบครัวชาวสวนชาของเธอ

บ้านไร่ของเธอใช้ไฟจากแผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่

มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องซักผ้า ทีวี ตู้เย็น หม้อหุงข้าว ล้วนใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ทั้งนั้น

และในเช้าวันนี้เคอร์ฟิวน้อยสุดหล่อที่ตอนนี้อายุครบสองขวบแล้ว

กำลังวิ่งเล่นไล่จับกันกับพี่ๆลูกชาวสวนในสนามหญ้าเทียมหน้าบ้านอย่างสนุกสนาน

เบื่อไล่จับก็เล่นซ่อนแอบกันตามประสาเด็กที่เล่นไม่รู้จักเหนื่อย ในบริเวณนั้น มีพี่เลี้ยงนั่งคอยดูแลห่างๆ

ส่วนพิมก็นั่งพิมพ์งานบนบ้าน ผันตัวเองมาเป็นนักเขียนถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของตัวเองให้คนอื่นได้อ่าน บรรยายออกมาผ่านตัวหนังสือ

เมื่อพิมพ์งานเสร็จเธอก็บันทึกงานไว้แล้วปิดคอมลงไปหาลูกชายที่เล่นจนผมเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

เธอยืนมองดูลูกชายที่กำลังซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบๆ

" โป้งๆ

คนนับยังไม่ทันเจอ เคอร์ฟิวน้อยก็ออกมายกนิ้วหัวแม่มือไปแตะตัวคนหาอย่างอารมณ์ดีด้วยความไม่รู้เรื่องอะไร

พิมยิ้มให้กับความน่ารักของลูกชาย

" เคอร์ฟิว ลูกพลับ ลูกไหน น้ำหวาน มานี่เร็ว "

เธอกวักมือเรียกเด็กๆ เมื่อเด็กๆมาถึงเธอจึงเอ่ยว่า

" เดี๋ยว ลูกพลับ ลูกไหน แล้วก็น้ำหวานไปอาบน้ำล้างตัวให้สะอาดนะคะ เสร็จแล้วก็มาทานข้าวกับเคอร์ฟิวที่นี่ "

" ค่ะ/ ครับ/ได้ครับ "

เด็กทั้งสามเอ่ยตอบพิมอย่างเชื่อฟังแล้วกลับไปอาบน้ำที่บ้านพักของตัวเอง

เคอร์ฟิวเงยหน้ามองแม่แล้วเอ่ยถามด้วยความอยากรู้

" คุณแม่ เคอร์ฟิวต้องอาบน้ำมั้ยครับ เคอร์ฟิวหนาว "

พิมมองหน้าลูกชายที่แก้มแดงระเรื่อผมชุ่มไปด้วยเหงื่อ

เธอนั่งยองๆแล้วหยิกแก้มป่องๆของลูกชายตัวแสบเบาๆแล้วเอ่ย

" หนาวเหรอ แน่ใจนะว่าหนาว "

เคอร์ฟิวยิ้มหล่ออย่างน่ารักน่าชังแล้วเอ่ย

" ครับ "

พิมเลิกคิ้วขึ้นแล้วเอ่ย

" เหรอครับ แต่ทำไมคุณแม่รู้สึกว่าแก้มของลูกร้อนๆล่ะ "

เคอร์ฟิวยิ้มตาหยีอย่างซุกซนเมื่อถูกจับได้ว่าโกหก จากนั้นพิมก็เอ่ยถามลูกว่า

" เคอร์ฟิวอยากทานข้าวพร้อมกันกับพี่ลูกพลับ

พี่ลูกไหนและพี่น้ำหวานมั้ย วันนี้คุณแม่มีขนมเค้กกับไอศครีมให้ด้วยนะ "

ดวงตากลมโตใสแป๋วจ้องหน้าผู้เป็นแม่อย่างน่ารักน่าชังแล้วเอ่ย

" อยากครับ "

" ถ้าอยาก ก่อนทานข้าวลูกต้องไปอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาดก่อน เข้าใจมั้ยครับ "

เคอร์ฟิวน้อยพยักหน้าหงึกอย่างเชื่อฟังพร้อมกับเอ่ยว่า

" เข้าใจครับ "

พิมยิ้มแล้วจูงมือลูกชายไปอาบน้ำ พออาบน้ำเสร็จก็พาลูกชายมานั่งทานข้าวพร้อมกับพี่ๆที่เป็นเพื่อนเล่นของเขา

เด็กๆนั่งทานข้าว ทานขนมกันอย่างเอร็ดอร่อย สีหน้าเคอร์ฟิวน้อยดูมีความสุขเลียนแบบพี่ๆโดยการทานข้าวด้วยตนเอง

ทางด้านป๊อบ เขานั่งทำงานเงียบๆในห้องทำงาน ป้องผลักประตูเข้ามาในห้องแล้วเดินมานั่งลงตรงหน้าพี่ชาย

" มีอะไร "

ป๊อบเอ่ยขึ้นเสียงเรียบในขณะที่สายตายังจดจ่อกับงานตรงหน้าอยู่

ป้องนั่งจ้องหน้าพี่ชายสักพักแล้วเอ่ยเสียงขุ่นแบบตำหนิหน่อยๆ

" พี่ไปง้อแม่ของลูกประสาอะไร ทำไมถึงกลับมาคนเดียว "

ป๊อบยังคงก้มหน้าทำงานพร้อมกับเอ่ยอย่างนิ่งเฉยเย็นชาว่า

" ไม่เกี่ยวกับนาย ถ้านายไม่มีอะไรก็ออกไป อย่ามารบกวนเวลาทำงานของฉัน "

ป้องเองก็ไม่ยอม เมื่อพี่ชายทำเป็นไม่สนใจเรื่องแม่ของลูกเขาจึงเอ่ยต่อว่า

" พี่ เมื่อไหร่พี่จะตื่นขึ้นมาอยู่กับความเป็นจริงสักที คุณณัชชาเป็นแม่ของลูกพี่นะ

พี่ทำแบบนี้มันไม่ใจร้ายกับเธอไปหน่อยเหรอ

พี่ทำเธอท้องแต่หัวใจพี่กลับมีผู้หญิงคนอื่น

ถ้าลูกพี่รู้ คงจะปวดใจและเจ็บแค้นแทนผู้เป็นแม่มากๆแน่ พี่อยากถูกลูกเกลียดเหรอ "

ป๊อบนิ่งไป แล้วเงยหน้าจ้องน้องชายอย่างเย็นชา จนป้องรู้สึกเย็นวาบที่สันหลังเบาๆ แล้วรวบรวมความกล้าเอ่ยต่อว่า

" พี่ พี่จ้องหน้าผมแบบนี้ หมาย หมายความว่ายังไง ผมหวังดีกับพี่นะ "

" นายจะออกไปเอง หรือจะให้ฉันเตะนายออกไป "

ป๊อบเอ่ยเสียงเย็นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเย็นชา ป้องได้ยินดังนั้น

ก็เอ่ยเสียงกร้าวด้วยความโมโหพี่ชาย ที่จะเตะเขาออกไปเพียงเพราะเขาหวังดี

" พี่ไม่ต้องเตะผมออกไปหรอกเดี๋ยวผมออกไปแน่ ที่ผมมาก็เพื่อจะมาบอกว่า

พี่ไปทำอะไรไว้กับครอบครัวคุณเตชิน อย่าคิดว่าผมไม่รู้นะ ผมถามหน่อย ภรรยาคุณเตชินมีดีอะไร

ทำไมพี่ถึงได้ขาดสติทำเรื่องโง่ๆแบบนั้นลงไปเพียงเพื่อหวังได้เธอคืนมา

คุณณัชชาสู้เธอไม่ได้ตรงไหน ทำไมพี่ถึงลืมเธอไม่ได้สักที

ทำไมพี่ถึงเลือกเธอแทนที่จะเลือกแม่ของลูก

ผมไม่เข้าใจพี่จริงๆ

พี่รู้ทั้งรู้ ว่าเธอมีลูก มีสามีและเป็นภรรยาของคนอื่นไปแล้ว ทำไมพี่ถึงยังไม่ตัดใจจากเธอสักที "

ป๊อบได้ยินดังนั้นก็เดือดขึ้นมาในใจ กำหมัดแน่นด้วยความอดทนอดกลั้นอารมณ์โกรธที่กำลังคุกรุ่น

แล้วเอ่ยเสียงเยือกเย็นเต็มไปด้วยอารมณ์ที่โกรธจัดว่า

" ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย นายจะออกไปเอง หรือจะให้ฉันส่งนายออกไป ห้ะ!่ "

คำสุดท้ายเขาตะคอกเสียงกร้าวออกมาเสียงดัง ระดับความโกรธของเขาในตอนนี้ยากจะควบคุมแล้ว

แต่ป้องกลับดื้อดึงไม่ยอมออกไปง่ายๆ เขากำหมัดแน่นพร้อมต่อยกับพี่ชาย

เพื่อให้พี่ชายตื่นมาอยู่กับความเป็นจริง จึงตะคอกออกไปเสียงดังด้วยความโมโหว่า

" ผมจะไม่ออกไป จนกว่าพี่จะคิดได้และรับปากผมว่าจะขอโทษคุณเตชิน

แล้วยอมรับผิดสารภาพทุกอย่างที่พี่ทำลงไปออกสื่อ

หากพี่อยากได้คุณณัชชากับลูก พี่ยอมรับผิดออกสื่อซะ ผมช่วยได้แค่นี้ "

ป๊อบได้ยินน้องชายบอกให้ขอโทษเตชินออกสื่อเขาก็ควบคุมอารมณ์ไม่ได้อีกต่อไป

จึงต่อยหมัดเข้าไปเต็มหน้าน้องชายแล้วซัดน้องชายรัวๆโดยที่น้องชายไม่ทันตั้งตัว

จากนั้นก็เหวี่ยงน้องชายที่สะบักสะบอมลงบนพื้นสุดแรง แล้วชี้หน้าด่าเสียงกร้าวอย่างดุดัน

" ไอ้ป้อง แกเป็นน้องให้เตชินมันเหรอ ห้ะ! หรือว่าเป็นสุนัขรับใช้ของมัน

ถึงได้มาพูดให้ฉันไปขอโทษมัน มันสั่งให้แกมาพูดแบบนี้กับฉันใช่มั้ย

แกอย่าคิดว่าฉันไม่รู้ เรื่องที่แกออกไปพบกับมันในร้านกาแฟนะ แกมันไอ้ขี้ขลาด

แกฟังฉันให้ดีนะ ฉันจะไม่มีวันไปขอโทษคนเลวๆอย่างมัน มันเป็นคนแย่งพิมไปจากฉัน

เป็นมันที่ต้องมาขอโทษฉัน แกได้ยินชัดมั้ย

ไอ้น้องทรยศ!!! "

ป้องเงยหน้าจ้องพี่ชายที่โกรธจัดจนเลือดขึ้นหน้า ป๊อบโกรธจนหน้าแดงจัดอย่างน่ากลัว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา