พ่อคำกับแม่มะลินั่งดูทีวีในห้องนั่งเล่น เมื่อเห็นข่าวป๊อบที่ออกมาแถลงข่าว แม่มะลิก็หันมาเอ่ยกับสามีว่า
" พ่อ คุณป๊อบออกมาพูดออกสื่อพร้อมกับลูกเขยเราแบบนี้มันหมายความว่ายังไง
พวกเขาต้องการให้ลูกพิมเข้าใจใช่มั้ย หรือว่าเราต้องไปพูดกับลูกพิมให้ ให้อภัยลูกเขย "
พ่อคำยังไม่พูดและไม่ตอบอะไรแม่มะลิ แกนั่งเงียบจ้องจอทีวีอย่างกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
แม่มะลิเขย่าแขนพ่อคำที่ไม่ตอบแกแล้วเอ่ยถามขึ้นด้วยความร้อนใจ
" พ่อฟังที่ฉันพูดหรือเปล่า ในเมื่อมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด เราควรจะไปเกลี้ยกล่อมให้ลูกใจอ่อนมั้ย "
พ่อคำหันมามองหน้าแม่มะลิแล้วเอ่ย
" ฟังอยู่ เพียงแต่พ่อคิดว่าเรื่องนี้ เราไม่ต้องเข้าไปก้าวก่ายเยอะ
แม่แค่โทรบอกให้ลูกพิมเปิดทีวีดู แล้วก็เอาที่อยู่ของลูกพิมให้คุณเตชิน
ให้พวกเขาพูดคุยปรับความเข้าใจกันเองจะดีกว่า พวกเขาไม่ใช่เด็กกันแล้ว คงรู้ว่าควรจะทำยังไง "
" เอางั้นเหรอ ก็ได้ๆ งั้นขอโทรไปหาลูกก่อนนะ "
เอ่ยจบแม่มะลิก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรไปหาพิมทันที แกรอสายสักพัก
พิมที่นั่งดูลูกชายเล่นหน้าบ้าน เมื่อโทรศัพท์ดังขึ้น จึงกดรับสายแล้วเอ่ยเสียงหวานด้วยรอยยิ้ม
" คะแม่ "
ทันทีที่ได้ยินเสียงลูก แม่มะลิก็รีบเอ่ยขึ้น
" พิม ลูกไปเปิดทีวีดูสิ ตอนนี้มีแต่ข่าวของลูกแหน่ะ "
คิ้วพิมขมวดมุ่นพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย
" ข่าวของหนู ข่าวเกี่ยวกับอะไรคะ? "
แม่มะลิจึงเอ่ยตอบลูกสาวว่า
" ลูกไปเปิดทีวีดูก็จะรู้เอง แม่โทรมาบอกแค่นี้แหละ แม่จะวางแล้วนะรีบไปเปิดทีวีดูเลย "
" ค่ะๆ "
หลังจากแม่มะลิวางสาย พิมก็หันไปเอ่ยกับพี่เลี้ยงของเคอร์ฟิวว่า
" พี่นวลฝากดูแลเคอร์ฟิวหน่อยนะคะ "
นวลยิ้มพร้อมกับเอ่ยตอบว่า
" ค่ะ "
พิมเดินเข้าไปในบ้าน แล้วเปิดทีวีดูตามที่แม่ของเธอบอก
ตอนนี้ทีวีทุกช่องต่างลงข่าว รักสามเศร้า
ของพิมกับเตชินและป๊อบกันทุกช่อง
บางรายการก็ชื่นชมในความรักเดียวและรักที่มั่นคงของป๊อบ
พิมนั่งดูป๊อบแถลงข่าว ให้สัมภาษณ์ยอมรับออกสื่อตรงๆ เธอรู้สึกโกรธเคืองเขานิดๆ
แต่เมื่อได้ยินคำขอโทษจากเขา เธอก็ใจอ่อนและใจหนึ่งก็เข้าใจเขาที่รักเธอมากมาตลอด
[ คุณป๊อบฉันก็ต้องขอโทษคุณ ฉันหวังว่าคุณจะรักคุณณัชชามากๆและขอให้คุณลืมฉันได้สักที ]
เธอพึมพำในใจจากนั้นเธอก็เห็นตอนที่เตชินเดินเข้ามาพร้อมกับทุกคน
เธออึ้งจนเอามือปิดปาก แล้วนั่งดูพวกเขาพูดผ่านจอทีวี สุดท้ายจบลงด้วยภาพของณัชชากับป๊อบกอดกัน
พิธีกรรายการยังกล่าวต่อว่า
" ดูเหมือนการแถลงข่าวของประธานป๊อบจะจบลงด้วยดีแล้วนะคะ แต่เดี๋ยวก่อนค่ะคุณผู้ชม
เรายังมีอีกคน ที่กำลังตามง้อภรรยาคนสวยอยู่ ได้ข่าวว่าเขาคือผู้อยู่เบื้องหลังการแถลงข่าวครั้งนี้ด้วย
เราไปดูกันนะคะว่านักข่าวของเราถามประธานเตชินว่ายังไง แล้วเขาตอบกลับมายังไง ไปดูกันเลยค่ะ "
แล้วทางรายการทีวีช่องนั้นก็เปิดตอนที่ถ่ายเตชินเดินออกมาก่อนจะเข้าไปในลิฟต์ ตอนที่นักข่าวถามเตชินว่า
" ท่านประธานเตชินกับภรรยาเข้าใจผิดกันอยู่ใช่มั้ยคะ "
" คุณคิดว่าไงล่ะ "
" พวกเราคิดว่าพวกคุณกำลังเข้าใจผิดกันค่ะ "
" หวังว่าข่าวของพวกคุณจะทำให้เธอเข้าใจผมนะครับ "
" ครับ พวกเราจะช่วยคุณง้อภรรยาครับ "
" ขอบคุณครับ "
" เห็นกันหรือยังคะ ว่านัมเบอร์วันในใจประธานเตชินมีเพียงภรรยาคนสวยเท่านั้น
ง้อกันออกสื่อจนสาวๆหมดสิทธิ์คิดไม่ซื่อกันเลยทีเดียว
ดิฉันหวังว่าภรรยาคนสวยของประธานเตชินเมื่อได้ดูรายการเราแล้วจะหายงอนนะคะ
สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อนพบกันใหม่เวลาเดิมทุกจันทร์-อังคารนะคะ สวัสดีค่ะ "
พิมได้ยินดังนั้นก็เผลออมยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
" คนบ้า เจ้าเล่ห์ที่สุด แน่จริงก็หาให้เจอสิ "
เธออมพึมพำไปอมยิ้มไป ด้วยความรู้สึกเขิน หัวใจดวงน้อยกลับมามีชีวิตชีวาขึ้นมาหน่อย
จากนั้นเธอก็ปิดทีวีแล้วเดินออกไปหาลูกชายที่เล่นหน้าบ้านด้วยสีหน้าแจ่มใสอย่างอารมณ์ดี
ทางแม่มะลิหลังจากวางสายจากลูกสาวเสร็จก็โทรไปหาเตชิน พอเตชินรับสายแกก็เอ่ยถามว่า
" ลูกเตชิน สะดวกคุยกับแม่มั้ยตอนนี้ "
เตชินนั่งหน้านิ่งในรถแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุขุมว่า
" ครับ "
แม่มะลิเหลือบมองสามีแวบๆแล้วเอ่ยต่ออย่างวางหน้าไม่ถูกว่า
" เอ่อ คือ แม่จะบอกว่า ความจริงแม่รู้ว่าลูกพิมอยู่ไหน แม่ขอโทษนะ ที่ไม่ได้บอกลูกตั้งแต่แรกว่าลูกพิมอยู่ไหน "
แกอ้ำอึ้งเล็กน้อย เพราะโกหกลูกเขยก่อนหน้านี้จึงรู้สึกละอายใจ
เตชินยิ้มอ่อนขึ้นที่มุมปากแล้วเอ่ยตอบแม่มะลิอย่างเข้าใจว่า
" ไม่เป็นไรครับแม่ ผมเข้าใจ "
แม่มะลิยิ้มออกมาอย่างโล่งอกแล้วเอ่ยต่อว่า
" ขอบคุณนะลูกที่เข้าใจแม่ เดี๋ยวแม่จะส่งที่อยู่ของลูกพิมไปให้ลูกในไลน์นะ "
" ขอบคุณครับคุณแม่ "
" จ้ะ งั้นแม่วางละนะ "
" ครับ "
แล้วแม่มะลิก็วางสายไป จากนั้นแกก็ส่งที่อยู่ของพิมให้ลูกเขยทันที
เตชินยกยิ้มขึ้นที่มุมปาก ความจริงเขารู้ว่าพ่อคำกับแม่มะลิโกหกเขาตั้งแต่วันที่เขาไปตามหาพิมที่บ้านแล้ว
เพราะตอนที่เขากลับออกมา เขาเห็นรองเท้าแตะของพิมวางบนชั้นวางรองเท้าหน้าบ้าน
ถ้าพิมไม่กลับมาที่บ้านเลยรองเท้าคู่นั้นของพิมจะไม่อยู่ตรงชั้นวางรองเท้า
ระเบียบบ้านพิมคือไม่ใส่รองเท้าของกันและกันและจะไม่นำรองเท้าที่ไม่ใส่มาวางระเกะระกะ
เช้าวันต่อมา เตชินตื่นตั้งแต่ตีสี่ออกเดินทางไปสนามบินแต่เช้า
เมื่อไปถึงสนามบินเขาก็เข้าเช็คอินอย่างไม่รอช้า ไม่นานเครื่องก็ออก
ระระเวลาในการบินกรุงเทพไปทางเหนือใช้เวลาไม่เกินสองชั่วโมง
พอไปถึงสนามบินปลายทาง เขาก็เดินออกมาขึ้นรถแล้วเอ่ยกับคนขับรถว่า
" ไปบ้านไร่ ที่อำเภอนี้ ตามที่อยู่นี้เลยครับ "
เตชินยื่นโทรศัพท์ให้คนขับรถ คนขับรับมาดูแผนที่แล้วส่งโทรศัพท์คืนให้เขาพร้อมกับเอ่ย
" ตามแผนที่นี้อาจต้องใช้เวลาสักหน่อยนะครับ เพราะมันอยู่ใกล้ชายแดนเลย "
เตชินนั่งหน้านิ่งอย่างสุขุมเย็นชา ผงกหัวให้คนขับทีหนึ่งแล้วเอ่ยเสียงเรียบเพียงสั้นๆว่า
" ออกรถเถอะ "
" ครับ "
แล้วคนขับก็ขับออกไป ตามเส้นทางไปชายแดน
ระหว่างทางเตชินมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วพึมพำในใจว่า
[ พิม คุณหนีผมมาไกลขนาดนี้ รอให้เจอตัวก่อนจะจับตีให้ก้นลายเลย ]
ทางด้านพิม เธอตื่นเช้ามาวิ่งออกกำลังกาย ตั้งแต่จ้างพี่เลี้ยงให้เคอร์ฟิว
เธอก็มีเวลาดูแลตัวเอง ทำกิจกรรมต่างๆได้มากขึ้น วิ่งออกกำลังกายเสร็จ เธอก็รดน้ำต้นไม้
หลังจากรดน้ำต้นไม้เสร็จก็กลับเข้าบ้าน
ไปอาบน้ำล้างตัวแล้วมาเปลี่ยนชุดใหม่
จากนั้นก็เดินออกมาจากห้อง ลงบันไดไปใต้ถุงบ้าน แล้วเดินเข้าไปในห้องครัว เปิดตู้เย็นมาดื่มน้ำเย็นๆ
แล้วออกมานั่งรับลมหน้าบ้าน วางไอแพดลงบนโต๊ะไม้ แล้วเริ่มพิมงานของตัวเองอย่างเงียบๆ
โดยไม่สนใจสิ่งรอบตัวหรือเสียงรบกวนใดๆ
แม้กระทั่งมีรถเข้ามาเธอก็ไม่สนใจ
เตชินที่นั่งในรถชื่นชมไร่ชาของพิมด้วยความประหลาดใจ
[ นี่คุณแอบซื้อที่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ต้นชาโตเป็นพุ่มจนสามารถเก็บได้แบบนี้
คุณลึกลับซ่อนอะไรไว้มากเกินไปแล้วนะพิม ถ้าคุณแม่ไม่บอก ผมก็คงไม่รู้ว่าคุณมีที่ที่นี่ด้วย ]
ขณะที่เขานั่งพึมพำอยู่ในรถ สายตาก็กวาดมองไปรอบๆไร่ชาด้วยความรู้สึกทึ่งเล็กน้อย
เมื่อมองไปด้านหน้า ก็เห็นบ้านไม้ยกสูง หลังคาจั่วแบบล้านนา
มีระเบียงรับลมที่กว้างขวาง สำหรับรับแขกหรือนั่งเล่น จิบชา ชมวิวภูเขารอบไร่ชา
ใต้ถุงสูงโปร่ง โล่ง รับลมเย็นสบาย ให้เสน่ห์แบบดั้งเดิม
แล้วสายตาทรงเสน่ห์ของเขาก็เลื่อนมาหยุดลงบนเรือนร่างของภรรยา
ที่นั่งหลังตรงสายตาจดจ่อกับจอเล็กๆตรงหน้าอย่างมีสมาธิ
รอบๆรายล้อมไปด้วยธรรมชาติเขียวขจีให้ความรู้สึกเย็นสดชื่น
เขายิ้มออกมาเบาๆด้วยความรู้สึกละมุนหัวใจแล้วพึมพำเสียงเบา
" สวย สวยจริงๆ "
เขารู้สึกว่าภรรยาสวยและมีเสน่ห์น่าดึงดูดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
เมื่อรู้สึกแบบนี้ในใจก็เกิดอาการหวงภรรยาขึ้นมาทันที กลัวคนขับรถจะชอบภรรยาตัวเอง จึงเอ่ยกับคนขับรถว่า
" หยุดรถ คุณไม่ต้องเข้าไปแล้ว ผมจะเดินไปเอง "
คนขับรถถึงกับงง เขาจอดรถแล้วเอ่ยถามเตชินเพื่อความแน่ใจ
" เอ่อ คุณแน่ใจเหรอครับว่าจะลงที่นี่ "
" หน้าผม ดูเหมือนกำลังพูดเล่นกับคุณเหรอ "
เตชินเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา คนขับหน้าหล่อได้แต่เอ่ยว่า
" ขอโทษครับ "
แล้วเตชินก็หยิบแบงค์พันออกมาห้าใบ ยื่นให้คนขับแล้วเปิดประตูลงจากรถ เดินไปหาพิมที่นั่งอยู่หน้าบ้าน
คนขับหน้าหล่ออึ้งเล็กน้อย ที่เตชินจ่ายเขามากขนาดนี้ แต่คนทำงานเช่นเขานานๆทีได้ลูกค้าแบบนี้ก็นับว่าเป็นความโชคดี
" ห้าพันเลยเหรอ หล่อและรวยมาก แต่พิลึกคนไปหน่อย สงสัยอยากจะเดินกินลมชมวิว ระยะห้าร้อยเมตร "
คนขับเก็บเงินเข้าไปในกระเป๋าสตางค์แล้วมองตามหลังเตชินที่เดินไกลออกไปอย่างไม่คิดอะไร
แล้วเขาก็กลับรถขับออกไป
เตชินใส่ชุดสูทเดินเท้าไปหาพิมที่อยู่ห่างออกไปไกลถึงห้าร้อยเมตรเพียงเพราะความหึงภรรยา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา