ช่วงบ่ายพ่อกับแม่ของป๊อบมาที่บ้านณัชชา
พวกเขาก็นั่งพูดคุยกันตามประสาคนรู้จักมักคุ้นอย่างสนิทสนม
แล้วแม่ของณัชชาก็เอ่ยถามสารทุกข์สุขดิบอย่างมีความนัยแอบแฝง
" เป็นยังไงกันบ้างอยู่บ้านโน้นสบายดีกันทุกคนมั้ยคะ "
คุณแม่ป๊อบยิ้มแล้วเอ่ยตอบอย่างเข้าใจความหมายแฝง
" สบายดีค่ะ ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตองเลยค่ะ สุขภาพดีขึ้นมาก โรคภัยไข้เจ็บก็ไม่มีแล้วค่ะ "
" ดีๆ นับว่าเป็นข่าวดี เป็นสิ่งที่ดีจริงๆ "
แม่ณัชชาเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม
นานแล้วที่เขาไม่ได้เจอลูกสาวเลยนับตั้งแต่วันคลอด เขาดีใจมากที่ได้ยินแม่ของลูกเขยพูดแบบนั้น
คำพูดพวกนี้คนที่ไม่รู้อะไรอย่างป๊อบได้แต่นั่งฟังอยู่ข้างลูกสาวอย่างเงียบๆ
โดยไม่รู้เลยว่าแม่ตัวเองกับแม่ยายกำลังพูดเรื่องสุขภาพของภรรยาเขาอยู่
" อ้อ จริงสิ ที่ฉันมาวันนี้ เพื่อมาบอกว่าตาป๊อบน่ะมีบ้านพักริมทะเลอยู่หลังหนึ่ง บรรยากาศดีมาก "
" จริงเหรอคะ "
คุณแม่ณัชชาออกอาการตื่นเต้นเมื่อได้ยินแบบนั้น
" จริงค่ะ ฉันเพิ่งกลับมาจากที่นั่น ก็มาหาคุณเลย "
แม่ของป๊อบกับแม่ณัชชา จากนั้นก็หันไปทางลูกชายแล้วเอ่ย
" ป๊อบ พรุ่งนี้ลูกก็พาลูกสาวกับพ่อตาแม่ยายไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจหน่อยสิ
จิตใจทุกคนจะได้ดีขึ้น ความเศร้าโศกเสียใจที่สุมอยู่ใจอกในใจจะได้น้อยลง
แม่กับพ่อเพิ่งไปมาตอนนี้รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว
ลูกต้องพาผู้ใหญ่ออกไปเที่ยวพักผ่อนบ้างนะ
ผู้ใหญ่จะได้รู้สึกผ่อนคลายสบายใจมากขึ้น
อย่าเอาแต่ขังตัวเองอยู่ในบ้านแบบนี้เลยนะ
แม่เห็นลูกเศร้าแล้วแม่ปวดใจ คนที่อยู่ต่อจะต้องอยู่อย่างเข้มแข็งและอยู่อย่างมีความสุข
คนไปถึงจะไปอย่างหายห่วง อย่าทำให้คนไปจมอยู่กับความทุกข์นะในโลกวิญญาณอย่างโดดเดี่ยวนะลูก "
ป๊อบเข้าใจเจตนาของแม่เขาดี เขาจึงเอ่ยตอบด้วยสีหน้าฝืนยิ้มว่า
" ครับ พรุ่งนี้ผมจะพาทุกคนไปพักผ่อนที่บ้านพักริมทะเลตามที่แม่แนะนำ "
เขาคิดว่าในเมื่อณัชชาไม่อยู่แล้วเขาควรจะดูแลพ่อแม่เธอให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้เธอจากไปอย่างสบายใจ
แม่ป๊อบได้ยินลูกชายรับปากดังนั้นจึงยิ้มอย่างดีใจแล้วเอ่ย
" ดีๆ พรุ่งนี้ก็ไปกันแต่เช้ามืดเลยนะ บรรยากาศที่นั่นดีมากเลย
แม่เชื่อว่าบรรยากาศที่นั่นจะทำให้ลูกมีความสุขและอยากที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง "
เอ่ยจบแม่ป๊อบก็หันมายิ้มให้กันกับแม่ณัชชา
ส่วนคุณพ่อทั้งสองก็นั่งยิ้มเงียบๆอย่างอบอุ่น
" ครับ "
" เอ่อ งั้นแม่กลับก่อนนะ แม่เพิ่งกลับมาถึงรู้สึกเหนื่อยๆ พรุ่งนี้อย่าลืมพาครอบครัวไปนะ "
" ครับ "
แล้วแม่กับพ่อของป๊อบก็ลุกจากโซฟา เดินออกจากบ้าน โดยพี่คุณพ่อกับคุณแม่ของณัชชาเดินไปส่ง
ป๊อบนั่งมองลูกสาวที่หลับปุ๋ยอย่างเงียบๆด้วยแววตาอ่อนโยนปนเศร้า
เบบี๋น้อยจอมขี้เซาหลับไปยิ้มไปไม่รู้ว่าฝันเห็นอะไร เอาแต่ยิ้มใหญ่เลย ช่างดูน่ารักน่าชัง
ป๊อบเห็นลูกสาวยิ้มเขาจึงเอ่ยออกมาเบาๆว่า
" ฝันดีเหรอลูก ฝันเห็นคุณแม่อยู่หรือเปล่าคะ ดูสิยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว "
เขาหลงลูกสาวมาก อยากที่จะเลี้ยงดูลูกสาวด้วยตนเองแบบนี้ไปตลอดโดยไม่จ้างพี่เลี้ยง
เช้าวันต่อมา พ่อบ้าน แม่บ้านช่วยกันขนกระเป๋าเดินทางของเจ้านายไปไว้ท้ายรถ
ป๊อบอุ้มลูกสาวลงมา เห็นแม่ยายนั่งรออยู่ในห้องรับแขกจึงเอ่ย
" คุณแม่ช่วยอุ้มณชาให้หน่อยครับ
ผมจะไปเตรียมคาร์ซีทก่อน "
" ได้สิ ลูกไปเตรียมเถอะ ให้เบบี๋ณชามาอยู่กับยายเดี๋ยวยายจะดูแลหลานเองนะคะ "
ผู้เป็นยายรับหลานมาอุ้มอย่างเบามือด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเอ่ยอย่างอ่อนโยน
ป๊อบเดินออกจากบ้านไปที่รถ จัดเตรียมคาร์ซีทไว้ข้างๆเบาะนั่งของเขา
เสร็จแล้วก็เดินกลับเข้ามาในบ้านแล้วเอ่ยกับพ่อแม่ของภรรยาว่า
" ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วไปกันเถอะครับ "
เขาไปอุ้มลูกคืนจากแม่ยายแล้วเดินออกไปขึ้นรถ วางลูกนอนลงในคาร์ซีทข้างเขา
เมื่อทุกคนขึ้นมาในรถเรียบร้อยแล้ว คนขับก็ขับออกไป รถตู้ขับเคลื่อนไปตามท้องถนน
อีกด้านหนึ่งที่ริมทะเล ณัชชาตื่นมาวิ่งออกกำลังกายแต่เช้า
ฟังเสียงลม ฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่ง นั่งชมวิวสูดอากาศบริสุทธิ์บนโขดหิน รอดูพระอาทิตย์ขึ้นอย่างเงียบๆ
พอแดดเริ่มออกเธอถึงจะกลับเข้าไปในบ้าน อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา