ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา นิยาย บท 44

พิมก้มลงไปจับข้อเท้าของตัวเอง เธอไม่รีรอรีบถอดร้องเท้าทิ้งทันที

แล้วพยายามดันตัวเองลุกขึ้นมา พอทรงตัวได้ดีเธอก็รีบวิ่งกะเพลก

ตามรถของเตชินไปทั้งน้ำตาพร้อมกับเอ่ย

" คุณเตชิน! คุณเตชิน! อย่าทิ้งฉันไว้ในที่แบบนี้คนเดียว ฉันกลัว "

เธอร้องเรียกอย่างสุดเสียงวิ่งตามต่อไปด้วยความหวาดกลัวจนใจแทบขาด

เธอกลัวจะถูกทิ้งไว้ลำพัง โดยไม่สนใจความเจ็บที่ข้อเท้าเลย

ข้อเท้าบวมเป่ง แข้งขาและหัวเข่าถลอก จนเลือดสีแดงสดซึมออกมา ตามรอยแผลสด

เธอไม่สนใจ วิ่งตามต่อไป จนรถของเตชินลับสายตาไป

สุดท้ายความเร็วในการวิ่งของคนก็แพ้ให้กับรถหรูที่แล่นไปอย่างรวดเร็ว

รถของเตชินหายเข้าไปท่ามกลางความืดมิดเหลือไว้เพียงความว่างเปล่า

เธอยืนอยู่ท่ามกลางสถานที่อโคจร

ผู้คนพลุกพล่านมากหน้าหลายตา

เธอรู้สึกหวิววูบขึ้นมาในใจ เมื่อรู้ว่าถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวในที่แบบนี้ในช่วงค่ำคืนแล้วจริงๆ

เธอได้แต่ยืนร้องให้ ใบหน้าเปื้อนไปด้วยน้ำตาราวกับเด็ก

มองไปรอบๆไม่ว่าจะทางไหนใจเธอก็สั่นกลัวไปหมด

สายตาทอดมองไปตามทางที่เตชินขับรถออกไป เธอไม่รู้จะเดินไปทางไหนแล้วตอนนี้

เพราะเธอจำทางกลับบ้านไม่ได้ แถมเจ้าของบ้านก็มาทอดทิ้งเธอไว้อีก

ทำราวกับเธอเป็นสัตว์เลี้ยง ที่เจ้าของไม่ต้องการตัดหางแล้วปล่อยไป(ตัดหางปล่อยวัด)

เธอยืนร้องให้แล้วบ่นพึมพำด้วยน้ำเสียงสั่นสะอื้นด้วยความหวาดกลัว

" คุณเตชิน คุณเห็นฉันเป็นตัวอะไร คิดจะทิ้งก็ทิ้งไปเลยแบบนี้เหรอ

จิตใจคุณทำด้วยอะไร ถึงทิ้งฉันไว้ในที่อโคจรแบบนี้ได้ลงคอ ฮือ... "

เธอเดินไปตามทางด้วยเท้าเปล่าเนื้อตัวถลอกสภาพคล้ายคนเมา

ผู้คนที่เดินผ่านไปมามองเธอด้วยสายตาที่แปลกแตกต่างกันออกไป

แล้วจู่ๆก็มีชายหนุ่มหน้าตาดีแต่งตัวดูดีสองคนเดินเข้ามาหาเธอแล้วเอ่ยอย่างสุภาพ

" คุณพิมใช่มั้ยครับ "

เธอรีบเช็ดน้ำตาปาดน้ำตาทิ้งแล้วหันไปมองเขาด้วยความสงสัย

ชายหนุ่มยิ้มอย่างเป็นมิตรแล้วเอ่ย

" พวกผมสองคนเป็นเพื่อนของเตชินครับ วันนี้เขานัดพวกเราออกมาดื่ม

พอไปถึงห้องก็ไม่เจอใครแล้ว เลยออกมาดูที่ลานจอดรถ

ก็เห็นคุณวิ่งตามรถเขาไป ผมเลยโทรไปถาม

เขาบอกว่าเดี๋ยวจะให้ผู้ช่วยมารับคุณครับ "

พิมมองชายหนุ่มทั้งสองอย่างไม่ไว้ใจ แล้วเธอก็มีลางสังหรณ์บางอย่าง

ซึ่งสัญชาตญาณของเธอบอกว่าเขาเป็นคนไม่ดี

แล้วชายหนุ่มอีกคนก็เอ่ยขึ้น

" ผมว่าคุณพิมเข้าไปรอข้างในก่อนดีกว่าครับ คุณยืนอยู่ที่คนเดียวในที่แบบนี้มันอันตราย "

ตอนนี้ เธอรู้แล้วว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย

สองคนตรงหน้ากำลังหว่านล้อมเธอด้วยคำพูดดังสำนวนสุภาษิตที่ว่า

มืถือสาก ปากถือศีล ปากไม่ตรงกับใจ หน้าเนื้อใจเสือ ปากปราศัยน้ำใจเชือดคอ

เธอกำลังคิดหาวิธีรับมือกับสถานการณ์ตรงหน้ากับคนประเภทนี้

ด้วยท่าทีนิ่งเฉยน้ำตาที่เคยไหลอาบแก้มแห้งหายไปหมด แล้วเอ่ย

" ฉันไม่รบกวนพวกคุณดีกว่าค่ะ เดี๋ยวฉันจะโทรหาผู้ช่วยเขาเอง "

เอ่ยจบเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ชายหนุ่มทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปเตรียมจะเข้าไปจับตัวพิม

แต่ดันเห็นโทรศัพท์ในมือพิมไม่มีแบตเตอรี่แล้วสีหน้าของทั้งสองก็อมยิ้มมองกันอย่างเงียบๆ

มีเพียงสีหน้าพิมที่ดูเคร่งเครียดขึ้นมา

[ บ้าเอ้ย แบตเตอรี่มาหมดอะไรเวลานี้ นี่มันยิ่งกว่าในละครอีก

หรือว่าชีวิตเราถึงเคราต้องรับเคราะห์กรรมแล้วจริงๆ ]

เธอพึมพำในใจด้วยความร้อนใจ

จากนั้นเธอก็กลับมาทำหน้านิ่งเป็นปกติแล้วเอ่ย

" แบตเตอรี่โทรศัพท์ของฉันหมดพอดี

ฉันขอตัวไปเรียกแท็กซี่กลับก่อนนะคะ "

เธอพยายามปลีกตัวออกอย่างสุภาพ แต่สองหนุ่มก็ไม่ยอมให้เหยื่อหลุดมือง่ายๆเช่นกัน

ชายหนุ่มจึงเอ่ยขึ้น

" งั้นให้ผมเรียกรถให้มารับคุณดีมั้ยครับ "

[ เรียกรถให้มารับแล้วฉุดฉันขึ้นรถเหรอฝันไปเถอะ ]

คิดได้ดังนั้นเธอจึงเอ่ยด้วยท่าทีเกรงใจว่า

" ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ "

ชายหนุ่มอีกคนก็เอ่ยขึ้น

" คุณพิมเป็นผู้หญิงยืนเรียกรถแท็กซี่กลางค่ำกลางคืนคนเดียวด้วยสภาพนี้

มันอันตรายเกินไปนะครับ

ผมว่า เข้าไปรอข้างในดีกว่า "

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา