สามวันต่อมา อาการปวดท้องเมนส์ของพิม ก็หายเป็นปกติ
บนโต๊ะอาหารเย็น ทั้งสองนั่งทานข้าวกันอย่างเงียบๆ
ระหว่างทานข้าวพิมเลยเอ่ยกับเตชินว่า
" คุณเตชิน ฉันทำให้คุณเสียเวลามาสามวันแล้ว ฉันว่าคุณรีบไปเคลียร์เรื่องที่ดินของคุณ
ให้เรียบร้อยเถอะค่ะ "
เตชินเลื่อนสายตาจากจานข้าวไปมองหน้าพิมแล้วเอ่ยอย่างเอื่อยๆ
" ผมไม่รีบ รอให้คุณหายดีก่อน ค่อยไป
ระหว่างนี้ มีคุณคังคอยอยู่ดูแลทางโน้นแล้ว
ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นได้หรอก "
ได้ยินดังนั้นพิมจึงเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชาว่า
" ฉันหายดีแล้ว แล้วทีหลังคุณก็ไม่ต้องมาทำดีกับฉันจนเกินไป อย่างครั้งนี้อีก
ฉันไม่ชอบติดหนี้คุณความดีของใคร
ฉันไม่อยากเกิดความรู้สึกเกรงใจ จนทำให้ตัวเองลำบากใจ "
เตชินหยุดการเคลื่อนไหวในมือแล้วเอ่ยอย่างจริงจังด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
" คุณไม่ได้ติดหนี้ผม แต่มันเป็นหน้าที่ของสามี
ที่ต้องดูแลภรรยายามเจ็บป่วย
ตอนนี้คุณเป็นภรรยาของผม ผมก็ควรจะทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด จะได้ไม่รู้สึกผิดทีหลัง "
ประโยคหลัง ทำให้พิมเข้าใจกระจ่างแจ้งแล้ว
เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ
แล้วเอ่ยเพียงสั้นๆ ด้วยสีหน้าเย็นชาตามปกติ
ในแววตาของเธอเจือความเศร้านิดๆ
" อืม ฉันเข้าใจแล้ว "
แล้วเธอก็ก้มหน้าทานข้าวต่อไป เตชินมองเธออย่างเงียบๆ แล้วเอ่ย
" ถ้าคุณหายดีแล้วพรุ่งนี้เราออกเดินทางกันเลยมั้ย "
พิมเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความตกใจเล็กน้อยแล้วเอ่ย
" ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่ไป "
เตชินจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
" ทำไมล่ะ ไหนคุณบอกว่าคิดถึงบ้านไม่ใช่เหรอ "
พิมเลื่อนสายตากลับมามองจานข้าวตัวเอง
ทำท่าจะทานข้าวต่อแบบไม่สนใจเตชิน
แล้วเอ่ย
" ใช่ ฉันคิดถึงบ้าน แต่นานแล้ว ตอนนี้ไม่คิดถึงแล้ว อย่างที่บอก
ฉันยังมีเงินไม่มากพอที่จะแบกหน้ากลับไปหาพ่อแม่ในเวลานี้
และยังไม่อยากกลับไปเหยียบแผ่นดินเกิดในตอนที่ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ถ้าฉันคิดถึงบ้าน แล้วฉันก็ทำตามความรู้สึกคิดถึงแบบนั้น มันไม่ใช่ฉันค่ะ
ฉันไม่อยากตามใจตัวเองจนกลายเป็นคนขาดความอดทน "
ดวงตาคมกริบหรี่ลงเล็กน้อยจับจ้องบนใบหน้าของคนที่พูด แล้วเอ่ย
" ใช่เหรอ แล้วทำไมเวลาคุณพูด ต้องหลบสายตาผมด้วย ปกติคุณชอบเผชิญหน้ากับคู่สนทนานี่ "
เมื่อรู้ว่าเตชินกำลังจับพิรุธเธออยู่ เธอจึงเงยหน้ามองเขาแล้วเอ่ย
" คุณเตชิน ทานข้าวก็ต้องมองจานข้าวสิ คุณจะให้ฉันหลับตาทานหรือไง
หรือจะให้ฉันมองหน้าคุณแล้วทานข้าวไปด้วยงั้นเหรอ ไม่มีทาง "
เตชินจึงเอ่ยว่า
" พิม เหตุผลที่คุณพูดมาฟังดูดีนะ ที่เป็นจริง
เชื่อถือได้ มีแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่คุณรู้มั้ย
คุณโกหกไม่เนียนเลย ผมจับพิรุธคุณได้ตั้งแต่แรกแล้ว
คุณบอกมา ว่าทำไมถึงไม่ยอมกลับบ้านพร้อมผมคุณกำลังกลัวอะไร "
พิมสบตากับเขาแล้วเอ่ยอย่างหนักแน่น
" ไม่มี ก็ตามที่พูด เหตุผลมีแค่นั้นจริงๆค่ะ "
เตชินเห็นว่าเธอไม่ยอมพูดเขาจึงเอ่ย
ในสิ่งที่เขาคิด
" เหรอ!
ไม่ใช่ว่าคุณกลัวคนที่บ้านคุณจะรู้หรอกเหรอ
ว่าคุณแอบหนีมามีสามี
และจดทะเบียนสมรสอย่างเงียบๆ
แนวประมาณหนีตามผู้ชาย "
[ รู้ดีไปหมดทุกอย่าง รู้แล้วยังจะมาถามอีก ]
เธอพึมพำในใจอย่างรำคาญ แล้วเธอก็เอ่ยยอมรับอย่างตรงไปตรงมา
แสดงท่าทีออกมาคล้ายว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องหลักที่ทำให้เธอไม่กล้ากลับบ้าน
" อืม ก็ส่วนหนึ่ง แต่ฉันไม่ห่วงเรื่องนี้หรอก เพราะตามที่ตกลงกัน
เรื่องที่เราจดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยา
จะเก็บไว้เป็นความลับไม่ให้คนอื่นรู้
คุณคงไม่ไร้สัจจะกลับคำไปมาหรอกใช่มั้ย "
เตชินอมยิ้มในหน้าสายตามองคนตรงหน้าแล้วเอ่ย
" แน่นอนว่าไม่กลับคำ ผมไม่ชอบทำให้ใครเสียหายหรอก (ซะเมื่อไหร่ )
เมื่อรู้แบบนี้แล้วคุณก็กลับไปเที่ยวบ้านเกิดพร้อมกับผมได้แล้วนะ "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา