ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1441

ตอนที่ 1441 ต้นนิพพาน
โดย
Ink Stone_Fantasy
ภายใต้ต้นไม้ดึกดําบรรพ์ที่สูงเทียมฟ้า มีสัตว์มงคลดึกดํา บรรพ์ยึดครองอยู่ที่นั่น มีหญ้าเซียนในตํานานที่พลิ้วไหวโต้ลมอยู่ ตรงนั้น มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สูงส่งบริสุทธิ์ยิ่งพํานักอาศัยอยู่ตรงนั้น
ประหนึ่งว่าต้นไม้ดึกดําบรรพ์ที่สูงเทียมฟ้าต้นนี้แหละที่ ก่อกําเนิดเป็นตรีสหัสโลกธาตุขึ้นมา เหมือนว่าการมีต้นไม้ดึกดํา บรรพ์ที่สูงเทียมฟ้าต้นนี้นี่เอง ทําให้กําเนิดทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นบน โลกนี้
“นี่แหละคือสายเลือดที่เก่าแก่โบราณที่สุด สายเลือดที่เก่าแก่ โบราณจนไม่อยู่ในบันทึก” หลี่ชิเย่มองดูต้นไม้ดึกดําบรรพ์ที่สูง เทียมฟ้าตรงหน้าแล้วยิ้มกล่าวเรียบเฉยว่า “ต่อให้ทุกสิ่งได้ตายไป แล้ว ต่อให้ทุกสิ่งกลับกลายเป็นเถ้าธุลีไปแล้ว ต่อให้ทุกสิ่งไม่ หลงเหลืออะไรเอาไว้อีกแล้ว ท้ายที่สุดสายเลือดลักษณะเช่นนี้ยังคง สืบทอดต่อไปได้ – หลี่ชิเย่ที่มองเห็นต้นไม้ดึกดําบรรพ์ที่สูงเทียมฟ้าต้นนี้ การ มองดูต้นไม้ดึกดําบรรพ์ที่สูงเทียมฟ้าต้นนี้ก็เหมือนหนึ่งกําลังชื่น ชมสุดยอดผลงานของตนเองอย่างนั้น ถึงกับเผยให้เห็นถึงรอยยิ้ม เต็มใบหน้าที่บ่งบอกถึงความพึงพอใจ กล่าวว่า “ตาเฒ่าต้นไม้ กลายเป็นเถ้าธุลีไปแล้ว แม้แต่สายเลือดต้นกําเนิดก็กลายเป็นเถ้า ธุลีไปด้วย ไม่มีสิ่งใดหลงเหลืออยู่อีกเลย แต่สิ่งที่ทําให้ผู้คนนึกไม่ ถึงก็คือ สายเลือดต้นกําเนิดกลับได้รับการสืบทอดต่อมา นับเป็น

เรื่องที่น่าอัศจรรย์จริงๆ แต่ทว่า อย่างไรเสียก็คือสายเลือดต้น กําเนิด ทุกอย่างย่อมอยู่เหนือความรู้ทั่วไปอยู่แล้ว
สําหรับเรื่องราวเกี่ยวกับสายเลือดของเยเสี่ยวเสี่ยวนั้น เรียกได้ ว่าไม่ได้มีอยู่ในบันทึก หลี่ชิเย่เองก็ได้ความรู้มาจากบันทึกจํานวน มากมายได้พบเจอเรื่องราวที่เป็นตํานานเท่านั้น อีกทั้งเรื่องราวที่ เป็นตํานานเหล่านี้ยังมีลักษณะของเรื่องราวที่เล่ากันปากต่อปาก ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ทําให้ยากแก่การสืบค้นก็คือ ตํานานเหล่านี้มักจะ เป็นการพูดกันไปปากต่อปากและขยายวงกว้างออกไป จึงห่างไกล
จากความเป็นจริงค่อนข้างมากเหลือเกิน
ตอนแรก หลี่ชิเย่เองก็ไม่กล้ายืนยันในสายเลือดของเยเสี่ยว เสี่ยว เนื่องจากจะอย่างไรเสียสายเลือดเช่นนี้ไม่เคยปรากฏมาก่อน กระทั่งท้ายสุด หลี่ชิเย่ดูจะมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น แม้ว่าตํานานที่ เป็นเพียงคําบอกเล่าไม่กี่คํา และห่างไกลจากความเป็นจริง มากมายนัก แต่ทว่า มันไม่ได้หมายความว่าสายเลือดเช่นนี้จะไม่มี อยู่จริง ความจริงก็คือมันมีอยู่จริงๆ
ไม่รู้ว่าได้ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานเท่าไรแล้ว ในที่สุด สายเลือดเช่นนี้ก็ปรากฎบนโลกนี้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นสายเลือดที่ ยอดเยี่ยมที่สุดของเผ่าพฤกษา! และเป็นสายเลือดต้นกําเนิดที่สุด ของเผ่าพฤกษา การปรากฏขึ้นมาของสายเลือดนี้ยาวไกลจนไม่ สามารถบันทึกเอาไว้
ไม่รู้ว่าเวลาได้ผ่านพ้นไปนานแค่ไหน ต้นไม้ดึกดําบรรพ์ที่สูง เทียมฟ้าต้นนั้นได้หายไปแล้ว ขณะที่เย่เสี่ยวเสี่ยวเองยังคง นั่งขัดสมาธิอยู่ท่ามกลางวังน้ําวนนั่น แต่ว่า วังน้ําวนทางช้างเผือก
ในเวลานี้กลายเป็นสลดและอับแสงยิ่งนัก ไม่เหลือแม้กระทั่งสีเทา ก่อนหน้านั้น
ในขณะนี้ จักรวาลยังคงเงียบงันเหมือนเดิมไม่ได้แตกต่างอะไร กับช่วงก่อนหน้านั้น มันยังคงเป็นโลกแห่งความตาย บรรยากาศ แห่งความตายสร้างความกดดันต่อผู้คนจนหายใจไม่ออก
หลังจากเวลาผ่านไปนานมาก เย่เสี่ยวเสี่ยวลืมตาทั้งสองขึ้นมา นางยังคงเป็นเด็กผู้หญิงที่มีอายุเพียงสิบสามสิบสี่เท่านั้น สายตายัง คงไว้ซึ่งลักษณะของความเป็นเด็ก เย่เสี่ยวเสี่ยวก็ยังคงเป็นเย่เสี่ยว เสียวเหมือนเดิม
สิ่งเดียวที่แตกต่างก็คือพลังลมปราณที่ไหลรินอยู่ภายในกาย ของนาง ลมปราณของนางนั้นดึกดําบรรพ์ยิ่งนัก ผู้คนสามารถรับรู้ ได้ถึงความเรียบง่ายและความดึกดําบรรพ์ ถ้าหากไม่เห็นตัวคน อาศัยการรับรู้จากพลังลมปราณที่ปรากฎ คนอื่นอาจจะเข้าใจว่าเย่ เสี่ยวเสี่ยวนั้นคือสิ่งมีชีวิตดึกดําบรรพ์ที่มีชีวิตอยู่มาอย่างยาวนาน
หลังจากที่เย่เสี่ยวเสี่ยวลืมตาขึ้นแล้วก็ได้ลุกขึ้นยืน “ปัง” จังหวะที่นางลุกขึ้นยืนวินาทีนั้น ทางช้างเผือกพลันแหลกละเอียด กลายเป็นจุณในทันที แม้แต่ดวงดาวทั้งหมดก็แหลกละเอียดเป็น ผุยผงไป
ในเวลานี้ ทางช้างเผือกที่เดิมมีขนาดใหญ่โตมโหฬารพลัน กลายเป็นธุลีไปไม่คงอยู่อีกต่อไป เหมือนหนึ่งว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ เคยมีทางช้างเผือกดังกล่าวมาก่อน
เย่เสี่ยวเสี่ยวเองก็รู้สึกงงงันที่จู่ๆ ทางช้างเผือกก็แหลกละเอียด ไป ไม่ง่ายนักกว่าจะได้สติกลับคืนมา
เย่เสี่ยวเสี่ยวก้าวออกไปก้าวเดียวก็กลับไปอยู่ข้างกายของหลี่ ซิเย่ หลี่ชิเย่มองดูนางตั้งแต่หัวจรดเท้า สุดท้ายเผยรอยยิ้มออกมา และยิ้มกล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีด้วยที่สายเลือดของเจ้าได้ฟื้น ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง มีเพียงสถานที่แห่งนี้เท่านั้น สายเลือดของเจ้าจึง จะตื่นขึ้นมาได้อย่างแท้จริง”
“ควรจะเรียกมันว่าเป็นสายเลือดอะไรดี? ” เย่เสี่ยวเสี่ยวถึงกับ ขมวดคิ้วนิดหนึ่ง ยามที่นางแสดงท่าทางขมวดคิ้วนั้นนิดหนึ่งนั้น เหมือนว่านางได้เติบโตขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว
“มันเป็นสายเลือดที่ไม่ได้มีในบันทึก” หลี่ชิเย่นิ่งเงียบอยู่พัก หนึ่ง กล่าวว่า “แต่ว่า มันกลับมีเรื่องราวที่เป็นตํานาน เป็นเทพ นิยายอยู่บ้าง เจ้าสามารถเรียกมันว่า ต้นนิพพาน สายเลือดต้น นิพพาน”
“ต้นนิพพาน? ” เย่เสี่ยวเสี่ยวพึมพําว่า “สายเลือดต้นนิพพาน” นางรู้สึกไม่คุ้นกับชื่อนี้ แม้ว่าสายเลือดของนางได้ฟื้นตื่นขึ้นมาแล้ว
เกรงว่า ในความเป็นจริงแล้วคงไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน หลี่ ชิเย่เองก็เพียงอาศัยตํานานโบราณจัดการตั้งชื่อให้กับสายเลือดนี้ เท่านั้นเอง
“กลับไปเถอะ พวกเราเกือบจะได้เวลาต้องไปจากที่นี่แล้ว” หลี่ ชิเย่ยิ้มกล่าว
สําหรับหลี่ชิเยู่แล้ว การมาครั้งนี้นับว่าได้รับผลสําเร็จอย่างเป็น กอบเป็นกํา สิ่งที่เขาคาดหวังเอาไว้ก็ได้มาทั้งหมด เวลานี้เหลือ เพียงเรื่องเดียวที่ยังไม่ได้สะสาง เมื่อเรื่องนี้ได้รับการสะสางเรียบร้อย แล้ว ก็สมควรแก่เวลาที่เขาจะต้องพาซูหย่งหวงไปจากแดน วิญญาณสวรรค์เสียที
“ตกลง” เย่เสี่ยวเสี่ยวพยักหน้าเงียบๆ เมื่อได้สติกลับมา คนที่ พูดมากในยามปกติเช่นนาง เวลานี้กลับนิ่งเงียบ เนื่องจากการฟื้น และตื่นขึ้นมาของสายเลือดได้ให้อะไรแก่นางมากมายเสียเหลือเกิน นางจึงยากจะเข้าถึงได้หมดในเวลานี้
ระหว่างที่หลี่ชิเย่ และเย่เสี่ยวเสี่ยวเข้าไปยังโลกภายในนั้น เงินจ่อโจวได้กลับมคึกคักอย่างกะทันหัน มีผู้บําเพ็ญตนจํานวน มากที่เข้ามายังเสินจือโจว
แม้ว่าในช่วงเวลาปรกติก็มีผู้บําเพ็ญตน และหมอโอสถมาหา ซื้อสมุนไพรอยู่แล้ว แต่ทว่า การที่มีผู้บําเพ็ญตน จํานวนนับไม่ถ้วน แห่กันมาที่เสินจ่อโจวภายในคืนเดียวนั้น ดูเหมือนจะไม่เคยเกิด ขึ้นมาก่อน
การที่ผู้บําเพ็ญตนจํานวนนับไม่ถ้วนพากันมาที่เดินจือโจว ภายในค่ําคืนเดียวนั้น หาใช่เป็นเพราะระดับเมิ่งเจิ้นเทียนได้มาอยู่ที่ เงินจือโจว
แต่เป็นเพราะภายในค่ําคืนเดียว ปรากฏข่าวลือขึ้นมาเรื่องหนึ่ง อีกทั้งข่าวลือนี้แพร่สะพัดได้เร็วมาก ภายในระยะเวลาอันสั้นก็ กระจายไปทั่วแดนวิญญาณสวรรค์แล้ว
“เทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์มีต้นสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะอยู่ต้น หนึ่ง! ” โดยที่ข่าวลือประโยคนี้ถูกเผยแพร่ออกมาจากแดน วิญญาณสวรรค์อย่างกะทันหัน อีกทั้งยังเป็นข่าวลือที่แพร่สะพัด
ภายในค่ําคืนเดียว
ข่าวลือเช่นนี้กระจายได้รวดเร็วมาก ไม่มีใครรู้ว่าข่าวลือนี้มา จากที่ไหน ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นผู้ปล่อยข่าวลือนี้ออกมา แต่ผู้คน จํานวนมากได้ยินข่าวนี้ภายในระยะเวลาอันสั้น
ต้นสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะ! ไม่ว่าจะเป็นบุคคลระดับเช่นใดก็ ตาม ล้วนแล้วแต่ไม่ชักช้าเมื่อได้ยินข่าวๆ นี้ ต่างรายงานเรื่องนี้ต่อ ระดับบรรพบุรุษของสํานักในทันที โดยเฉพาะบรรดาสํานักที่มี ความยิ่งใหญ่ดูจะให้ความสําคัญต่อข่าวลือเช่นนี้มากเหลือเกิน
อายุวัฒนะ เป็นเป้าหมายสุดท้ายที่ระดับจักรพรรดิเทพจํานวน มากต้องการ กระทั่งเคยมีข่าวลือว่า แม้แต่ราชันเซียนก็ยังต้องการ มีอายุวัฒนะ เวลานี้ปรากฏข่าวเช่นนี้ขึ้นโดยกะทันหัน ไม่ว่าใครก็ ต้องให้ความสําคัญ
แม้ว่าไม่มีใครรู้ว่าข่าวนี้มาจากที่ไหนกัน แต่ กลับจะมีผู้คน จํานวนมากที่เชื่อในเรื่องนี้
เพราะว่าทุกคนต่างก็รู้ดีว่า เทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นที่ที่ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสมุนไพรหญ้าทิพย์ อีกทั้งคุณภาพสมุนไพร ของเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ได้ชื่อว่าดีที่สุด ถ้าหากจะกล่าวว่า โลกนี้มีต้นสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะจริงล่ะก็ ย่อมเป็นที่อื่นไปไม่ได้ นอกจากที่เทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์
แม้ว่าหลายคนรู้สึกลังเลกับข่าวๆ นี้ แต่ทว่า สํานักเจ้าลัทธิ จํานวนมากยังคงสั่งการให้ศิษย์ของตนจํานวนมากรุดไปยัง เทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ กระทั่งระดับผู้ยิ่งใหญ่ที่เป็นรุ่นอาวุโส
ถึงกับปรากฏตัวกลับสู่ยุทธภพอีกครั้งหนึ่ง
กล่าวสําหรับผู้บําเพ็ญตนจํานวนมากแล้ว พวกเขายอมเชื่อว่า เป็นเรื่องจริงดีกว่าปล่อยผ่านไป เพราะว่าถ้าหากที่เทือกเขาต้นไม้ ศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้มีต้นสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะ การมายังเทือกเขา ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์สักครั้งก็ไม่ได้เสียหายแต่อย่างใด แต่หากว่ามันเป็น เรื่องจริง หากพวกเขาเป็นฝ่ายที่ได้ต้นสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะได้
ก่อน ย่อมหมายถึงพวกเขาได้ลาภก้อนโตเลยทีเดียว
ด้วยเหตุที่ผู้บําเพ็ญตนจํานวนมากมีแนวความคิดเช่นนี้ ใน เวลานี้จึงส่งผลให้เทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์คึกคักไม่ธรรมดาเลย ผู้คนเดินขวักไขว่เบียดเสียดกันไปมา
จากการที่มีผู้บําเพ็ญตนจํานวนมากมายังเทือกเขาต้นไม้ ศักดิ์สิทธิ์ ในขณะนี้เงินจือโจวที่เดิมที่เงียบงันยิ่งพลันคึกคักยิ่งนัก ด้านนอกเมืองเสินจือโจวมีเรือจํานวนมากที่แล่นกันเข้ามา เรือบาง ลําอาศัยโต้คลื่นกันมา บางลําบินอยู่บนท้องฟ้า
“ตูม ตูม ตูม…………” เสียงดังตูมตามดังขึ้น คลื่นทะเลซัดมา อย่างรุนแรง จังหวะที่ยอดฝีมือจํานวนมากได้อาศัยเรือมาถึง ยังเสินจือโจวนั้น เห็นน้ําทะเลที่อยู่นอกเงินจือโจวพลันส่งเสียงดัง ดูมตามขึ้นอย่างกะทันหัน ก่อเกิดเป็นคลื่นทะเล จนผิวทะเล โคลงเคลงไปมา
จากการที่น้ําทะเลส่งเสียงดังตูมตามขึ้นอย่างกะทันหัน สร้าง ความตื่นตระหนกให้กับผู้คนจํานวนมาก หลายคนวิ่งขึ้นฝั่งด้วย ความเร็วสูงสุด คิดว่าอาจจะมีสัตว์ประหลาดปรากฎตัว
“ซ่าาา ซ่าาา ซ่าาา… ” เสียงน้ําดังขึ้น ในเวลานี้เองปรากฏ เป็นยอดเขาแต่ละแห่งโผล่ขึ้นมาจากแม่น้ํา ภายในระยะเวลาอันสั้น
ก็ได้ปรากฏผืนแผ่นดินที่ใหญ่โตมากลอยอยู่บนผิวน้ํา
ผืนแผ่นดินนี้มีขนาดใหญ่โตมาก โดยที่บนผืนแผ่นดินนี้จะมี เทือกเขาขึ้นลงสลับ มีทั้งนกเหยี่ยวที่บินอยู่บนท้องฟ้าและกระต่าย น้อยที่วิ่งอยู่บนพื้นดิน ระหว่างยอดเขาที่สูงตระหง่านถูกปกคลุมไป ด้วยเมฆหมอก บนหน้าผาที่สูงชันมีน้ําตกที่พุ่งลงมาด้านล่าง
การปรากฏตัวของผืนแผ่นดินที่แลดูอลังการจากใต้ทะเลเช่นนี้ สร้างความตื่นตระหนกแก่ผู้คนเป็นจํานวนมาก ผู้คนจํานวนมาก ต่างก็ไม่รู้ว่าผืนแผ่นดินเช่นนี้โผล่มาจากไหนกันแน่
“เป็นแดนสวรรค์รี? ” สายตาของผู้บําเพ็ญตนจํานวนมาก พลันถูกผืนแผ่นดินที่มีพื้นที่สุดอลังการเช่นนี้โผล่ขึ้นมาดึงดูด เอาไว้ ถึงกับพึมพําออกมา
“ไม่ ไม่ใช่แดนสวรรค์” ระดับปราชญ์รุ่นอาวุโสคนหนึ่งมองดู ผืนแผ่นดินที่โผลขึ้นมาจากใต้ทะเล โดยสายตาของเขาตกอยู่ที่ ป้ายศิลาจารึกที่อยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง กล่าวด้วยความตระหนกว่า “นี่มันเกาะเงินหรู่! ”
“เกาะเจินหวุ่! ” หลายคนรู้สึกตกใจมากเมื่อได้ยินชื่อนี้
ในแดนวิญญาณสวรรค์หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อของเกาะ เจินหวู่ แต่ว่า คนที่เคยเห็นเกาะเจินหวู่จริงๆ นั้นคงมีเพียงไม่กี่คน เท่านั้น
ในแดนวิญญาณสวรรค์เคยมีคําพูดที่ว่า วิญญาณเทพมีหอ เทพธิดา ปีศาจทะเลมีเกาะเจินหวี่! โดยคําพูดนี้หมายถึงสํานักสอง แห่ง คือหอเทพธิดาและเกาะเจินหวี่ อีกทั้งสํานักทั้งสองแห่งล้วน แล้วแต่ทําตัวค่อมต่ํามาก
ตามตํานานเล่าว่า เกาะเจินหวู่นั้นก่อตั้งขึ้นโดยเทพเจ้าแห่ง ทะเลเจินหว่ มันมีความลึกลับยิ่งนัก ลือกันว่า เกาะเจินหวนั้น เคลื่อนที่ได้ มันสามารถไปปรากฎตัวยังที่ใดที่หนึ่งของแดน วิญญาณสวรรค์ก็ได้
นับตั้งแต่มีการก่อตั้งสํานักขึ้นมา เกาะเจินหวี่ก็ไม่ทําตัวให้เป็น จุดเด่นเสมอมา แต่ทว่าไม่มีใครกล้าประเมินความแข็งแกร่งของ เกาะเจินหวี่ต่ําเกินไป
หากจะว่ากันถึงความแข็งแกร่งของเกาะเงินหรู่แล้ว ต้องนับ เนื่องตั้งแต่เทพเจ้าแห่งทะเลเจินหวี่ ลือกันว่าเทพเจ้าแห่งทะเล เจินหวุ่นั้นอยู่ในยุคเดียวกันกับราชันเซียนหมิงเหริน
เคยมีคําพูดลักษณะเช่นนี้ที่แดนวิญญาณสวรรค์ หลังจากที่ ราชันเซียนหมิงเหรินได้กลายเป็นราชันเซียนแล้ว เทพเจ้าแห่งทะเล เจินหวี่เคยท้าสู้กับราชันเซียนหมิงเหริน เล่ากันว่า ศึกครั้งนั้นได้
สะเทือนถึงฟ้าดิน กระทั่งเก้าแดนยังสั่นเทา
แม้ว่ามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีสิทธิ์ได้เห็นสุดยอดการต่อสู้ใน ครั้งนี้ แต่ ต่อมาภายหลังได้มีข่าวลือว่า ผลการต่อสู้ของเทพเจ้า แห่งทะเลเงินหรูและราชันเซียนหมิงเหรินออกมาเสมอกัน
ด้วยสาเหตุนี้เอง ทําให้เทพเจ้าแห่งทะเลเจินหวี่ถูกปิศาจทะเล ในแดนวิญญาณสวรรค์ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ สามารถเคียงบ้าเคียงไหล่กับเทพเจ้าแห่งทะเลเทียนสื่อ!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล