ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1449

ตอนที่ 1449 เกณฑ์คนมาช่วย

“เอ่อ…”ดวงตาคู่นั้นของกู่หลิงโซ่วจู่เบิกกว้าง อ้าปากจะพูดแต่ก็พูดไม่ออก ถูกฆ่าตายในลักษณะเช่นนี้ กระทั่งตัวตายเขายังไม่ทันได้เห็นหน้าตาของคนที่สังหารเขา

ทันใดนั้น ซือหม่ายวี่เจี้ยนปรากฎตัวออกมา ตวัดกระบี่ทีหนึ่งจัดการตัดเอาศีรษะของกู่หลิงโซว่จู่ออกมา

ย่อมไม่ต้องสงสัย เป้าหมายสังหารของซือหม่ายวี่เจี้ยนก็คือกู่หลิงโซ่วจู่นั่นเอง ก่อนหน้านั้นนางเข้าไปลอบสังหารกู่หลิงโซ่วจู่ที่เทพเจ้าโบราณทะเลลึกและจบลงด้วยความล้มเหลว แต่ทว่า มาครั้งนี้ กู่หลิงโซ่วจู่กลับหนีจากการลอบฆ่าของซือหม่ายวี่เจี้ยนไปไม่ได้

“ผู้เยาว์ รนหาที่ตาย! ” เจียวเสินจวู๋ที่แปลงร่างเป็นต้นไผ่ยักษ์ที่สูงเทียมฟ้าคำรามเสียงดังออกมา การที่กู่หลิงโซ่วจู่ถูกสังหารต่อหน้าต่อตาของเขา กล่าวสำหรับเขาแล้วมันคือความอัปยศอย่างหนึ่ง

ภายใต้การร้องด้วยเสียงอันดังของเจียวเสินจวู๋ กรงเล็บมังกรเจียวหลงขนาดยักษ์พลันยื่นเข้าไปคว้าตัวซือหม่ายวี่เจี้ยน กรงเล็บมังกรนี้มีขนาดที่ใหญ่โตมาก กรงเล็บทั้งห้าเปรียบเหมือนยอดเขาที่แหลมคมทั้งห้า ท่ามกลางการยื่นเข้ามาคว้าตัวของกรงเล็บมังกร ผืนแผ่นดินก็คล้ายดั่งเป็นกระดาษแผ่นหนึ่งที่ถูกฉีกขาด

“ปัง…” กรงเล็บมังกรยังไม่ทันได้คว้าตัวซือหม่ายวี่เจี้ยนก็ถูกหมัดๆ หนึ่งที่มีความรวดเร็วมากกระแทกเข้าใส่ ภายใต้หนึ่งหมัดก็สามารถทำให้มันต้องล่าถอยกลับไปอย่างง่ายดาย

“คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า” หลังจากที่หลี่ชิเย่อาศัยเพียงหมัดเดียวก็ทำให้เจียวเสินจวู๋ล่าถอยกลับไปแล้ว

หลี่ชิเย่ ใครๆ ก็ว่าเจ้ามีความแข็งแกร่งมาก วันนี้ ข้านี่แหละอยากจะดูว่าเจ้าจะแข็งแกร่งสักแค่ไหนเชียว! ” เจียวเสินจวู๋ร้องเสียงดังออกมา “ตูม” เสียงดังสนั่นในทันที ในเวลานี้ มังกรเจียวหลงที่พันอยู่กับต้นไผ่ยักษ์ได้หายไป

“ตูม ตูม ตูม…” นาทีนี้ ต้นไผ่ยักษ์กลับกลายเป็นมีขนาดใหญ่โตมากยิ่งขึ้นไปอีก ใหญ่โตเพิ่มมากขึ้นๆ กระทั่งปกคลุมเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เอาไว้

ผู้คนจำนวนมากถึงกับเสียวสันหลังวาบบเมื่อมองเห็นไผ่ยักษ์ในลักษณะนี้ที่ปกคลุมปิดบังท้องฟ้าเอาไว้ เนื่องจากไผ่ยักษ์ต้นนี้ได้แผ่กลิ่นอายมังกรที่พลุ่งพล่านออกมา โดยที่กลิ่นอายมังกรเช่นนี้ได้ปกคลุมไปทั่วฟ้าดิน เหมือนว่ามังกรยักษ์ตัวนี้กำลังจะฟื้นคืนชีพอย่างนั้น

เวลานี้ ต้นไผ่ยักษ์บนท้องฟ้าก็คล้ายดั่งเป็นมังกรยักษ์ตัวหนึ่ง เจียวเสินจวู๋ได้นำเอาสายเลือดของตนหลอมรวมเข้ากับตัวตนที่แท้จริง ทำให้ปะทุเป็นพลังที่แข็งแกร่งปราศจากผู้เทียบเทียมขึ้นมา

“ผู้เยาว์ เอาชีวิตเจ้ามา” กรงเล็บมังกรขนาดใหญ่มากพุ่งลงมาจากบนท้องฟ้า โดยที่กรงเล็บมังกรลักษณะเช่นนี้ถึงกลับงอกออกมาจากส่วนบนของต้นไผ่ยักษ์ อีกทั้งขณะที่กรงเล็บมังกรนี้ยื่นคว้าตัวลงมานั้น พื้นดินยังต้องสั่นสะเทือนหวั่นไหว ทั่วทั้งเมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ถึงกับมืดมิด ภายใต้กรงเล็บมังกรนี้ เมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์กลับกลายเป็นเล็กจิ๋ว เหมือนว่ากรงเล็บมังกรข้างหนึ่งที่ยื่นลงมานั้นสามารถทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างแหลกลาญกลายเป็นเถ้าธุลีไป

“โอ้แม่เจ้า นี้คิดจะทำลายเมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นรึ? ” สิ่งนี้ได้ทำให้ผู้คนจำนวนมากตื่นตระหนกจนวิญญาณแทบออกจากร่าง ยิ่งผู้บำเพ็ญตนที่ใจเสาะด้วยแล้ว เรียกว่าทั้งกลิ้งทั้งคลานเร่งเรีบพาตัวเองหลบออกไปจากเมืองต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์

“ตูม” เสียงหนึ่งดังขึ้น จังหวะที่กรงเล็บมังกรบดขยี้ลงมานั้น หมัดขวาของหลี่ชิเย่สั่นสะเทือนนิดหนึ่ง ฉับพลันนั้นปรากฏเปลวไฟที่รุนแรงพุ่งขึ้นมา หนึ่งหมัดได้โจมตีสวนออกไป

“ตูม ตูม ตูม…………” ภายใต้หมัดหนึ่งหมัดนี้ ฟ้าดินสะเทือนหวั่นไหว ทั้งทั้งเสินจื่อโจวพลันสลดลง ขณะที่หนึ่งหมัดของหลี่ชิเย่ที่โจมตีออกไป ปรากฏเป็นดวงตะวันหมี่นดวงที่ค่อยๆ ลอยขึ้น แสงจากดวงตะวันหมื่นดวงสาดส่องจนดวงตะวันที่อยู่บนท้องฟ้าของเสินจื่อโจวสลดและอับแสง

หมัดสุริยัน หมัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ สองหมัดพลันรวมเป็นหนึ่ง หมัดสุริยันนั้นมีความเป็นอันธพาลและถืออำนาจบาตรใหญ่อยู่แล้ว ภายใต้หนึ่งหมัดของหลี่ชิเย่ประกอบด้วยดวงตะวันหลายสิบดวง กระทั่งมีเป็นร้อยดวง

แต่ว่า หมัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์กลับป้อนพลัง ลมปราณที่ปราศจากสิ้นสุดให้กับหมัดสุริยัน ทันใดนั้นได้ทำให้หมัดสุริยันได้วิวัฒนาการดวงตะวันขึ้นมาเพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้น เพียงชั่วพริบตาเดียว ดวงตะวันหมื่นดวงได้ออกไปพร้อมๆ กับการโจมตีของหมัดนี้

ดวงตะวันหมื่นดวงรวมอยู่ในหมัดๆ เดียว ย่อมสามารถจินตนาการถึงอานุภาพของมันได้ “ตูม ตูม ตุม…………” ท่ามกลางเสียงดังตูมตามเป็นระลอก ได้ยินเสียงดัง “ปัง” กรงเล็บมังกรที่ใหญ่โตพลันลุกไหม้กลายเป็นเถ้าธุลีไป จากนั้น “ตูม” ต้นไผ่ยักษ์พลันลุกไหม้ขึ้นมา ภายใต้หมัดสุริยันหมัดนี้ ต้นไผ่ยักษ์ไม่สามารถดับไฟในลักษณะเช่นนี้ได้

“เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ……….” ลองนึกภาพดู ลำต้นที่ใหญ่โตมโหฬารของต้นไผ่เกิดการลุกไหม้ขึ้นมาภายใต้ดวงตะวันหมื่นดวง ช่างเป็นภาพที่ดูอลังการเช่นใด ฉับพลันนั้น ร่างของเจียวเสินจวู๋ได้ถูกไฟเผาผลาญอย่างรุนแรง

เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น เจียวเสินจวู๋ก็มีลักษณะคล้ายกับภูเขาไฟลูกหนึ่งที่ปะทุขึ้นมาอย่างนั้น ร่างทั้งร่างของมันถูกไฟลุกไหม้เผาผลาญอย่างรุนแรง โดยที่เปลวไฟนั้นพุ่งขึ้นไปสูงมากมุ่งตรงไปยังเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน แสงสว่างจากเปลวไฟส่องสว่างทั่วทั้งเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ สร้างความหวั่นไหวต่อจิตใจของผู้คนเป็นอันมาก

“อ๊ากก…………” ภายใต้การเผาไหม้ของเปลวไฟที่ร้อนแรง เจียวเสินจวู๋ถึงกับร้องเสียงน่าเวทนาออกมา เวลานี้แม้ว่าเขาจะพ่นน้ำออกมามากมาย แต่กลับไม่สามารถดับไฟที่ลุกไหม้บนตัวของตนได้

มองดูร่างของเจียวเสินจวู๋ที่เหมือนภูเขาไฟลูกหนึ่ง มีโอกาสถูกเผาไหม้จนตายได้ทุกเมื่อ ทำให้หลายคนมองดูด้วยความรู้สึกขนลุกขนพอง

“ตูม……….” เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทันใดนั้นเอง เจียวเสินจวู๋ที่ไม่สามารถทนต่อไปได้อีก ได้อ้าปากคายยันต์ศักดิ์สิทธิ์ออกมาแผ่นหนึ่ง เมื่อยันต์ศักดิ์สิทธิ์แผ่นนี้ถูกคายออกมา พลันปรากฎเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ประพรมลงมา

“จี๊ด จี๊ด จี๊ด” ทันใดนั้นเอง ไฟที่ลุกไหม้บนตัวของเจียวเสินจวู๋ดับลง ขณะที่เจียวเสินจวู๋ได้แปลงร่างกลับมาเหมือนเดิม เพียงแต่ ร่างของเขาในเวลานี้ดำเมี่ยมไปทั้งตัว คล้ายเป็นถ่านไม้แท่งหนึ่งอย่างใดอย่างนั้น

ในเวลานี้ เหนือศีรษะของเจียวเสินจวู๋ปรากฏยันต์ศักดิ์สิทธิ์แผ่นหนึ่งลอยล่องอยู่บนนั้น ยันต์ศักดิ์สิทธิ์แผ่นนี้ลี้ลับพิสดารยิ่ง เวลานี้ ไม่มีใครสามารถมองเห็นความได้อย่างชัดเจนว่ามันมีความลี้ลับพิสดารตรงไหน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล